รีวิว Nokia C10 รุ่นเริ่มต้นพลัง Android 11 Go Edition ได้จอกว้าง 6.5 นิ้ว

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Nokia C10 - โนเกีย

HMD Global ยังคงส่งสมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้น เอาใจคนงบจำกัดแบบต่อเนื่อง โดยล่าสุดเป็น Nokia C10 สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กรันบนระบบปฏิบัติการ Android 11 (Go Edition) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการเพื่อสมาร์ทโฟนสเปคไม่สูง ทำให้การใช้งานมีความราบรื่นขึ้น และได้รับการอัปเดตความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแสดงผลกว้างถึง 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ โดยสนนราคาอยู่ที่ 2,390 บาทเท่านั้น ส่วนการรีวิวจะเป็นเช่นใดมาติดตามกันได้เลย

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ขนาดตัวเครื่องของ Nokia C10 มีขนาดอยู่ที่ 169.9x77.9x8.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 191 กรัม ทั้งนี้ตัวเครื่องจะเป็นแบบเปิดฝาหลังได้

Nokia C10 มีหน้าจอแสดงผล LCD กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600x720 พิกเซล) ใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบ V-Notch หรือรอยแหว่งแบบทรงหยดน้ำ

เหนือหน้าจอแสดงผล ในรอยแหว่งมีกล้องหน้า ความละเอียด 5MP ข้างขวากล้องมีไฟแฟลช LED ถัดมาข้างบนเป็นลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา

ล่างหน้าจอแสดงผล Nokia C10 ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ โดยปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟแวร์ในหน้าจอแสดงผล

ข้างซ้ายตัวเครื่องไม่มีพอร์ต หรือปุ่มการใช้งานใดๆ

ข้างขวาตัวเครื่องพบกับปุ่มใช้งานพื้นฐาน โดยปุ่มยาวเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และถัดลงมาด้านล่างเป็นปุ่ม้เพาเวอร์ สำหรับพักหน้าจอ หรือเปิดปิดเครื่อง ทั้งนี้ด้านล่างสุดยังมีรอยแหว่ง สำหรับเปิดฝาหลังออก

ส่วนบนตัวเครื่อง Nokia C10 มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

ส่วนใต้ตัวเครื่อง ตรงกลางเป็นพอร์ต MicroUSB 2.0 และทางขวาเป็นรูไมโครโฟน

พลิกมาที่ฝาหลังตัวเครื่อง โดยกล้องหลังถูกติดตั้งมา 1 เลนส์ ความละเอียด 5MP พร้อมไฟแฟลช LED ทั้งคู่ถูกจัดวางในโมดูลวงกลม ถัดลงมาล่างกล้องเป็นโลโก้ Nokia และมุมล่างขวาสุดเป็นลำโพงเสียง

สำหรับ Nokia C10 จะเป็นสมาร์ทโฟนเปิดฝาหลังออกได้ เมื่อเปิดออกมาจะพบกับช่องใส่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ขนาด 3,000mAh (มีมาให้ในกล่อง) ทางบนขวามีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง และข้างซ้ายเป็นช่องใส่ MicroSD Card รองรับความจุสูงสุด 256GB

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง Nokia C10
อะแดปเตอร์
สาย USB Type-A To MicroUSB 2.0
หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
แบตเตอรี่ขนาด 3,000mAh
ใบรับประกัน และคู่มือการใช้งาน

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ Nokia C10

ขนาดตัวเครื่อง : 169.9x77.9x8.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 191 กรัม
หน้าจอแสดงผล : LCD กว้าง 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600x720 พิกเซล) ดีไซน์รอยแหว่งแบบ V-Notch
ชิปเซ็ต : Unisoc SC7331e Quad Core ความเร็ว 1.3 GHz
RAM : 2GB
ROM : 16GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256GB
ระบบปฏิบัติการ : Android 11 (Go Edition)
กล้องหลัง ความละเอียด 5MP พร้อมไฟแฟลช LED
กล้องหน้า ความละเอียด 5MP พร้อมไฟแฟลช LED
เครือข่าย : 4G LTE สนับสนุน NanoSIM 2 ช่อง
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 2.4GHz, Bluetooth 4.2, GPS/AGPS, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต MicroUSB 2.0
แบตเตอรี่ : 3,000mAh (ถอดเปลี่ยนได้)

RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน
Nokia C10 จะมีเพียงตัวเลือกเดียวคือ RAM 2GB + ROM 16GB ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน Android Go Edition แน่นอนว่าพื้นที่เก็บข้อมูลภายในเพียง 16GB นั้นน้อยพอสมควร แต่ก็สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้อีกสูงสุด 256GB ส่วนในการเปิดเครื่องมาครั้งแรก ระบบมีการกินพื้นที่ไปกว่า 6.18GB ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานจริงๆ ประมาณ 10GB เท่านั้น

ระบบปฏิบัติการ
ด้านซอฟแวร์จะได้ระบบปฏิบัติการ Android 11 Go Edition ในการใช้งาน และด้วยความเป็น Go Edition จึงเหมาะกับการใช้งานบนสมาร์ทโฟนสเปคไม่สูง และ Nokia C10 ก็ตอบโจทย์ตรงนี้ โดยระบบจะเน้นให้ใช้งานฟีเจอร์ที่จำเป็น พร้อมกับการอัปเดตความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

หน้าจอหลัก
หน้าจอหลักของ Nokia C10 ก็จะเป็นแบบคลีนๆ ไม่มีอะไรมาปรับแต่งมาก โดยแอพฯ จะถูกเก็บไวทั้งในหน้าจอหลัก และลิ้นชักเก็บแอพฯ ทั้งหมด ส่วนแอพพลิเคชั่นจากโรงงานก็จะมีแต่ของ Google Mobile Service มาให้ใช้

Wallpaper และ Widget
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยน Wallpaper ก็ยังมีให้เปลี่ยนได้ตามสะดวก โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > การแสดงผล > วอลเปเปอร์ ในขณะที่ Widget ก็สามารถเลือกมาใส่ในหน้าจอหลักได้เช่นกัน ด้วยการกดค้างตรงที่ว่างในหน้าจอหลัก และเลือก Widget

แป้นพิมพ์
แป้นพิมพ์ที่มาให้จะเป็น Gboard ซึ่งมีการใช้งานที่ง่าย และรองรับภาษาไทยอีกด้วย

โหมดมืด และโหมดสบายตา
แม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก แต่ก็มาพร้อมโหมดมืด ทำให้ผู้ใช้งานใช้งานได้แบบสบายตาในที่แสงน้อย และยังมีโหมดสบายตาเป็นการกรองแสงสีฟ้าออก ทำให้ใช้งานได้สบายตามากขึ้นไปอีก สามารถไปเปิดใช้งานทั้ง 2 อย่างได้ที่ การตั้งค่า > การแสดงผล

การแคปหน้าจอ
พื้นฐานการแคปหน้าจอของสมาร์ทโฟน Android ยังใช้งานได้แบบเดิม ด้วยวิธีกดปุ่มลดเสียง และปุ่มเพาเวอร์ค้างไว้ซักพัก เมื่อสำเร็จจะมีพรีวิวขึ้นมา ก็สามารถไปปรับแต่งภาพแคปหน้าจอได้อีกที

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core ที่ 69 และคะแนน Multi-Core ที่ 253 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย 3DMark (Sling Shot) ได้ 138 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดูหนังฟังเพลงได้ จอใหญ่ ลำโพงดัง และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
Nokia C10 จะมาพร้อมหน้าจอที่กว้างถึง 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600x720 พิกเซล) ทำให้การดูวิดีโอผ่าน Youtube ทำได้ดีในระดับหนึ่ง และยังมีโพงเสียงที่ดังพอสมควร แม้ว่าจะเป็นลำโพงตัวเดียวก็ตาม ไม่พอแค่นั้นการฟังเพลงก็ยังรองรับช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรอีกด้วย

ระบบปฏิบัติการ Android 11 (Go Edition) และแอพฯ ตระกูล Go
Nokia C10 จะรันบนระบบปฏิบัติการ Android 11 (Go Edition) ทำให้ใช้งานได้ดีแม้ว่าจะมีสเปคไม่สูงมาก และยังเป็นระบบปฏิบัติการแบบคลีนๆ ไม่มีการปรับแต่งเยอะ ส่วนการใช้งานก็จะเน้นให้ใช้แอพพลิเคชั่นตระกูล Go Edition ของทาง Google หรือแอพฯ ตระกูล Lite ใน Google Play Store เป็นหลัก ซึ่งจะให้ความลื่นในการใช้งานมากขึ้น เพราะแอพฯ เหล่านี้จะถูกตัดฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็นออกไป แต่การใช้งานจริงเครื่องก็ยังมีหน่วงๆ บ้างตามสภาพของสเปค และราคา

แอพพลิเคชั่นสวัสดิการรัฐบาล
ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนมาใช้งานแอพฯ ที่เป็นสวัสดิการของรัฐบาลในตอนนี้ ทาง Nokia C10 ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ เพราะสามารถใช้งานแอพฯ เหล่านี้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เป๋าตัง, ไทยชนะ, หมอพร้อม เป็นต้น โดยทั้งหมดสามารถดาวน์โหลดได้ทาง Google Play Store

ระบบความปลอดภัย
แม้ว่า Nokia C10 จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้น ราคาประหยัด แต่ว่าก็ยังใส่ระบบความปลอดภัยด้วยการสแกนใบหน้ามาให้อีกด้วย ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว

ทดสอบใช้งานกล้องถ่ายรูป
เรื่องของกล้องถ่ายรูปของ Nokia C10 อาจจะไม่ได้สวยหรูในแบบสมาร์ทโฟนท็อปๆ แต่ก็ยังไปวัดไปวาได้ โดยกล้องหน้ามีความละเอียด 5MP พร้อมไฟแฟลช LED ในขณะที่กล้องหลังก็มีความละเอียด 5MP พร้อมไฟแฟลช LED เช่นกัน ซึ่งทั้งคู่จะได้ไฟแฟลช LED ช่วยในการถ่ายภาพตอนกลางคืนได้ดีขึ้น