รีวิว Huawei Nova 8i จอใหญ่ขอบบางกว้าง 6.67 นิ้ว เน้นกล้อง AI 64MP และมีชาร์จเร็ว 66W

รีวิวโทรศัพท์มือถือ Huawei Nova 8i - หัวเว่ย

ในปี 2021 สมาร์ทโฟนจากแบรนด์ Huawei ค่อนข้างเงียบเหงาในการทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะกลับมาทำตลาดแบบเน้นๆ อีกครั้งพร้อมกับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS โดยล่าสุดพวกเขาได้ส่ง Huawei Nova 8i ที่ยังเป็นสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ EMUI 11 บนพื้นฐาน Android 10 ซึ่งให้ความโดดเด่นที่หน้าจอกว้างขอบบาง 6.67 นิ้ว เน้นใช้งานกล้องถ่ายรูปกับกล้องหลัง AI 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 64MP และยังมีแบตเตอรี่ 4,300mAh สนับสนุนการชาร์จเร็วถึง 66W

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ขนาดรอบตัวเครื่องของ Huawei Nova 8i จะอยู่ที่ 161.85x74.7x8.58 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 190 กรัม ถือว่าเป็นขนาดที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ยังจับใช้งานได้ถนัด

หน้าจอแสดงผล IPS-LCD กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2376x1080 พิกเซล) ใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรูขนาดใหญ่

เหนือหน้าจอแสดงผล ในรอยแหว่งมีกล้องหน้า ความละเอียด 16MP และแม้ว่าจะเป็นรอยแหว่งขนาดใหญ่แต่มีกล้องหน้าเพียงเลนส์เดียวเท่านั้น

ด้านล่างหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ

ข้างซ้ายตัวเครื่อง ก็ไม่มีปุ่มการใช้งานเช่นกัน

ข้างขวาตัวเครื่อง จะพบกับปุ่มใช้งานพื้นฐาน โดยปุ่มยาวเป็นปุ่มเพิ่มเสียง และลดเสียง ส่วนปุ่มเล็กเป็นปุ่มเพาเวอร์ นอกจากนี้ยังเป็นที่สแกนลายนิ้วมืออีกด้วย

ส่วนบนตัวเครื่อง ข้างซ้ายเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ถัดมาตรงกลางเป็นลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา และขวาเป็นรูไมโครโฟน

ใต้ตัวเครื่องทางขวาสุดเป็นลำโพงเสียง ถัดมาตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C ต่อมาทางขวาเป็นรูไมโครโฟน และช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยถาดเป็นแบบรองรับ Nano SIM 2 ช่อง

พลิกมาที่ฝาหลังตัวเครื่อง ถือว่า Huawei Nova 8i จัดเรียงกล้องได้สวย โดยใช้โมดูลแบบวงกลม ในนั้นมีกล้องหลัง 4 เลนส์ ประกอบไปด้วยเลนส์หลัก ความละเอียด 64MP, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP, เลนส์ Depth ความละเอียด 2MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP นอกจากนี้ยังมีไฟแฟลชอยู่มุมบนซ้ายของฝาหลัง

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ Huawei Nova 8i

ขนาดตัวเครื่อง : 161.85x74.7x8.58 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 190 กรัม
หน้าจอแสดงผล : IPS-LCD กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2376x1080 พิกเซล) ดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู
ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 662 Octa-Core
RAM : 8GB
ROM : 128GB
ระบบปฏิบัติการ : EMUI 11 บนพื้นฐาน Android 10
กล้องหลัง 4 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช
- เลนส์หลัก ความละเอียด 64MP รูรับแสง f/1.9
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP รูรับแสง f2.4
- เลนส์ Depth ความละเอียด 2MP รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP รูรับแสง f/2.4
กล้องหน้า ความละเอียด 16MP รูรับแสง f/2.0
เครือข่าย : 4G LTE รองรับ Nano SIM 2 ช่อง
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 2.4/5GHz, Bluetooth 5.0, GPS, AGPS, Glonass, BeiDou, Galileo, ช่อง
เสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต USB Type-C
ระบบความปลอดภัย : สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง, สแกนใบหน้า
แบตเตอรี่ : 4,300mAh สนับสนุนชาร์จเร็ว 66W

ระบบปฏิบัติการ
แม้ว่าทาง Huawei จะมีระบบปฏิบัติการของตัวเองอย่าง HarmonyOS แต่สำหรับ Huawei Nova 8i ยังคงใช้ EMUI 11 บนพื้นฐาน Android 10 และไม่ถูกติดตั้ง GMS มาให้ ทำให้การบริการต่างๆ จะเป็น HMS (Huawei Mobile Service) แทน โดยมี AppGallery สำหรับดาวน์โหลดแอพฯ และ Petel Maps ในการดูแผนที่ เป็นต้น

หน้าจอหลัก
ในส่วนหน้าจอหลัก จะเป็นตามฉบับ EMUI โดยเน้นความเรียบง่ายใช้งานสะดวก และแอพฯ ทั้งหมดจะอยู่ในหน้าจอหลักเป็นหน้าๆ ไป แต่ผู้ใช้ก็สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้เอง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไอคอน, ธีม, เปลี่ยนพื้นหลัง หรือเปลี่ยนแอพฯ ทั้งหมดไปอยู่ในรูปแบบลิ้นชัก ซึ่งสามารถเข้าไปปรับแต่งได้ที่ การตั้งค่า > หน้าจอหลัก & วอลเปเปอร์

แท่นขอบหน้าจอ และการแบ่งหน้าจอ
แท่นขอบหน้าจอจะเปิดได้ด้วยการปัดขอบหน้าจอทางซ้าย หรือขวา และกดค้างเอาไว้ ซึ่งในนั้นจะมีแอพฯ ต่างๆ สามารถเปิดใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องกลับมาที่หน้าจอหลักอีกครั้ง ซึ่งในถาดยังเลือกใส่แอพพลิเคชั่นได้อีกด้วย ทั้งนี้แท่นขอบหน้าจอ จะมีไว้เปิดแอพพลิเคชั่นแบบแบ่งหน้าจอ ซึ่งมีทั้ง Split Screen และแบบ Pop-Up

โหมดมืด
เมื่อเปิดใช้งานโหมดมืด ระบบจะเปลี่ยนพื้นหลังเป็นสีดำ และใช้ตัวหนังสือสีขาว ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานในที่แสงน้อยได้สบายตามากยิ่งขึ้น สามารถไปเปิดใช้งานได้ที่ การตั้งค่า > การแสดงผลและความสว่าง > โหมดมืด

AppGallery
ในเมื่อ Huawei Nova 8i ไม่ถูกติดตั้งการบริการอย่าง GMS มา ทำให้ไม่มี Google Play Store มาด้วย ซึ่งการดาวน์โหลดแอพฯ ต่างๆ ก็คงต้องพึ่งการบริการอย่าง HMS แทน โดยมี AppGallery ไว้สำหรับการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้งานในเครื่อง หากแอพฯ ที่ต้องการไม่มีอยู่ใน AppGallery ก็สามารถดาวน์โหลดเป็นไฟล์ .apk มาติดตั้งได้เองอยู่ (ยกเว้นแอพฯ ของ Google)

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็ว AnTuTu Benchmark : 193,995 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวม Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core : 309 คะแนน และ Multi-Core : 1291 คะแนน
ผลการทดสอบกราฟิกด้วย 3D MARK (Wild Life) : 375 คะแนน
ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor ตรวจวัดการทรงตัว
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

หน้าจอใหญ่ขอบบางดูสวยงาม
Huawei Nova 8i มาพร้อมหน้าจอแสดงผลที่กว้างถึง 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ทำให้การรับชมคอนเทนด์ผ่านหน้าจอทำได้ดี แต่ความโดดเด่นจะอยู่ที่ขอบหน้าจอสุดบางแบบ Huawei Edgeless Display ซึ่งมีอัตราส่วนหน้าจอกับตัวเครื่องสูงถึง 94.7% ทำให้หน้าจอดูสวยงามเป็นพิเศษ

การใช้งานพื้นฐาน
สเปคของ Huawei Nova 8i ที่ได้มา จะเน้นให้ใช้งานพื้นฐานเป็นหลัก ด้วยการขับเคลื่อนของขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 662 มี RAM + ROM อยู่ที่ 8GB+128GB ซึ่งการใช้งานเช่น สังคมออนไลน์, ตอบแชท, ดูหนัง, หรือฟังเพลง ก็ทำได้แบบราบรื่นไม่มีปัญหา นอกจากนี้ด้านความบันเทิงยังรองรับหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร ทำให้สะดวกต่อการหาหูฟังมาใช้งานอีกด้วย

ทดสอบการเล่นเกม
ว่ากันตามตรง Huawei Nova 8i ไม่ใช่สมาร์ทโฟนสเปครุนแรงที่จะนำมาเล่นเกมหนักๆ ได้ เพราะใช้ขุมพลังเพียง Qualcomm Snapdragon 662 ซึ่งจากการทดสอบก็สามารถใช้เล่นเกมอย่าง PUBG Mobile ได้อยู่ แต่เป็นกราฟฟิกระดับดี และใช้เฟรมเรตระดับสูง ถึงจะพอเล่นได้ในระดับหนึ่ง ส่วนอีกเกมเป็น LOL Wild Rift ก็แนะนำว่าให้ปรับเป็นเฟรมเรต 30fps ก็ถือว่าเล่นได้ในระดับที่พอใช้ แต่จะได้ภาพที่ไม่สวย และการเคลื่อนไหวจะไม่ลื่นเหมือน 60fps

สแกนลายนิ้วมือ และสแกนใบหน้า
ในระบบความปลอดภัย Huawei Nova 8i จะมีให้ใช้งานด้วยกันถึง 2 แบบคือ การสแกนลายนิ้วมือ และการสแกนใบหน้า ซึ่งทั้งคู่มีการทำงานที่รวดเร็ว และแม่นยำมากทีเดียว โดยที่สแกนลายนิ้วมือจะอยู่ที่ปุ่มเพาเวอร์ข้างตัวเครื่อง สามารถจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 แบบ

สนับสนุนชาร์จเร็ว 66W
Huawei Nova 8i จะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,300mAh ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่เพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐานใน 1 วัน แต่ไฮไลท์เด็ดจริงๆ จะอยู่ที่ระบบชาร์จเร็ว ซึ่งจะสนับสนุนระบบชาร์จถึง 66W Huawei SuperCharge ใช้เวลาชาร์จเพียง 40 นาที จาก 0% ก็เต็ม 100% แบบสบายๆ

การใช้งานกล้องถ่ายรูป
ความโดดเด่นของ Huawei Nova 8i จะอยู่ตรงการใช้งานกล้องถ่ายรูปนี้เลย โดยเฉพาะกล้องหลังที่จัดเต็มมาถึง 4 เลนส์ ประกอบไปด้วยเลนส์หลัก ความละเอียด 64MP, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP, เลนส์ Depth ความละเอียด 2MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ทั้งหมดมีการทำงานร่วมกับ AI เพื่อการปรับแต่งภาพให้สวยแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีกล้องหน้า ความละเอียด 16MP พร้อมโหมดปรับแต่งหน้าสวยจาก AI เพื่อการเซลฟี่อย่างมั่นใจ

การถ่ายภาพปกติ
การถ่ายภาพปกติถือว่าทำได้ดีเยี่ยม ด้วยเลนส์หลักที่มีความละเอียดสูงถึง 64MP ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีความละเอียดสูง และเมื่อทำงานร่วมกับระบบ AI ในการปรับแต่งซีนแบบอัตโนมัติ ยิ่งให้ภาพมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น และทั้งหมดออกมาสวยงามได้แบบง่ายๆ เพียงกดชัตเตอร์เพียงปุ่มเดียว

การถ่ายภาพมุมกว้าง
ในโหมดมุมกว้างจะมีเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP มาให้ใช้งาน ซึ่งจะเปิดมุมกว้างได้ถึง 120 องศา ซึ่งช่วยเก็บภาพได้กว้างขึ้น แต่เสียดายที่ใช้ร่วมกับโหมดกลางคืนไม่ได้

โหมดกลางคืน Super Night Shot
โหมดกลางคืน Super Night Shot ถือว่าเป็นอีกโหมดที่มีการทำงานร่วมกับ AI ได้ดี ซึ่งระบบจะมีการลด Noise และเปิดเผยแสงสีในยามค่ำคืนได้สวยงาม

โหมดภาพบุคคล
ในโหมดภาพบุคคล Huawei Nova 8i จะได้เลนส์ Depth ช่วยในการเบลอพื้นหลัง ซึ่งมีการเบลอที่เนียนพอสมควร แต่สำหรับกล้องหน้าที่ไม่มีเลนส์ Depth จะใช้ซอฟแวร์ในการเบลอแทน ซึ่งอาจไม่เนียนเหมือนใช้กล้องหลัง

โหมด Macro
การใช้งานโหมด Macro จะเป็นการใช้งานจากกล้องหลัง และช่วยให้ถ่ายภาพในระยะใกล้ๆ ได้ดี ซึ่งระบบจะมีการโฟกัสในระยะใกล้ พร้อมให้รายละเอียดที่สวยงาม

ภาพถ่ายจากกล้องหน้า
การถ่ายภาพจากกล้องหน้า หรือการเซลฟี่ จะได้กล้องหน้าความละเอียด 16MP ในการใช้งาน พร้อมเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น ด้วยระบบปรับแต่งหน้าสวยจาก AI ซึ่งมีให้เลือกปรับสูงสุดถึง 10 ระดับ

ราคา และการจัดจำหน่าย
Huawei nova 8i มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Moonlight Silver และ Starry Black วางจำหน่ายในราคา 9,990 บาท พร้อมรับฟรี HUAWEI Travel Gift Box, HUAWEI Mini Speaker และ HUAWEI Band 4e รวมมูลค่า 3,579 บาท เมื่อซื้อระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ถึง 22 กรกฎาคม 2564

โดยสามารถเป็นเจ้าของได้ที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ร่วมรายการอย่าง HUAWEI Online Store, Shopee และ Lazada