รีวิวโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy Z Fold3 5G - ซัมซุง

ก็มาถึงรุ่นที่ 3 กันแล้วกับสมาร์ทโฟนจอพับจากค่าย Samsung โดยออกมาเป็น Samsung Galaxy Z Fold3 5G ซึ่งมารอบนี้แทบจะเป็นทุกอย่างของสมาร์ทโฟน ทำได้หมดแบบไม่มีเกี่ยง (ถึงจะเกี่ยงก็มีระบบบังคับให้ทำงานได้) ไล่มาตั้งแต่ดีไซน์ที่ล้ำตามฉบับสมาร์ทโฟนจอพับ แต่ถูกเสริมความแข็งแกร่งไปอีกขั้น เพื่อจับใช้งานได้อย่างมั่นใจ ทั้งนี้ยังมีสเปคที่จัดเต็มรวดเร็วจากขุมพลัง Snapdragon 888 5G พร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดกล้องซ่อนใต้หน้าจอ (Under Display Camera) ช่วยให้หน้าจอด้านในแสดงผลได้เต็มๆไม่มีรอยแหว่งมาขัดหูขัดตา แถมยังรองรับปากกา S-Pen รุ่นใหม่ ช่วยให้การทำงานมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

Samsung Galaxy Z Fold3 5G เมื่อพับปิดจะมีขนาดตัวเครื่อง 158.2x67.1x14.4 มิลลิเมตร ส่วนตรงแกนพับมีความกว้าง 16 มิลลิเมตร

เวลาเปิดหน้าจอด้านในออกมา จะมีขนาด 158.2x128.1x6.4 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักจะอยู่ที่ 271 กรัม

บริเวณแกนพับจะผลิตด้วยวัสดุทนทาน และมีน้ำหนักเบาอย่าง Armor Aluminium และบนแกนพับมีการสลักชื่อ Samsung ไว้ด้วย

หน้าจอด้านนอก Dynamic AMOLED 2X กว้าง 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2268x832 พิกเซล เหนือหน้าจอมีกล้องหน้า ความละเอียด 10MP และบริเวณขอบหน้าจอหน้าจอส่วนบน มีช่องลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา

เมื่อเปิดฝาพับ จะพบกับหน้าจอด้านในเป็นพาแนล Dynamic AMOLED 2X กว้าง 7.6 นิ้ว ความละเอียด 2208x1768 พิกเซล ตรงกลางหน้าจอยังเห็นรอบพับอยู่ แต่ต้องมองในมุมข้างๆ มุมตรงจะไม่ค่อยเห็น

ทั้งนี้หน้าจอทางฝั่งขวายังมีกล้องที่เป็นแบบใต้หน้าจอ (Under Display Camera) ความละเอียด 4MP ทำให้แสดงผลได้แบบเต็มหน้าจอไม่มีรอยแหว่ง และขอบหน้าจอมุมขวา และล่างขวายังมียางรับแรกกระแทกอีกด้วย

ข้างซ้ายตัวเครื่อง มีช่องใส่ถาดซิมการ์ด โดยถาดจะรองรับ Nano SIM 2 ช่อง

ข้างขวาตัวเครื่อง จะพบกับปุ่มใช้งานพื้นฐาน สำหรับปุ่มยาวเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง ส่วนปุ่มเล็กเป็นปุ่มเพาเวอร์ และเป็นที่สแกนลายนิ้วมือในตัวด้วย

ส่วนบนตัวเครื่อง มีลำโพงเสียงอยู่ทางซ้ายสุด และมีรูไมโครโฟนอีก 3 ตัว

ใต้ตัวเครื่อง มีลำโพงเสียงอีกตัวอยู่ฝั่งซ้าย และฝั่งขวาเป็นรูไมโครโฟน และพอร์ต USB Type-C

พลิกมาที่ฝาหลัง (ตรงฝั่งกล้องหลัง) จะมีการติดตั้งกล้องหลังเป็นแบบแนวตั้ง ประกอบไปด้วย 3 เลนส์คือ เลนส์ Wide ความละเอียด 12MP, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12MP และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP นอกจากนี้มีไฟแฟลชอยู่ใต้กล้องทั้ง 3 เลนส์

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ Samsung Galaxy Z Fold3 5G

  • ขนาดตัวเครื่อง :
    - 158.2x67.1x14.4 มิลลิเมตร (พับปิด)
    - 158.2x128.1x6.4 มิลลิเมตร (พับเปิด)
  • น้ำหนัก : 271 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล :
    - หน้าจอด้านนอก Dynamic AMOLED 2X กว้าง 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2268x832 พิกเซล ดีไซน์รอยแหว่ง Infinity-O
    - หน้าจอด้านใน Dynamic AMOLED 2X กว้าง 7.6 นิ้ว ความละเอียด 2208x1768 พิกเซล
  • ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 888 5G
  • ชิปกราฟฟิก : Adreno 660
  • RAM : 12GB
  • ROM : 256 / 512GB
  • ระบบปฏิบัติการ : OneUI 3.1 บนพื้นฐาน Android 11
  • กล้องหลัง 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช
    - เลนส์ Wide ความละเอียด 12MP
    - เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12MP
    - เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP
  • กล้องหน้า
    - กล้องหน้าด้านนอก ความละเอียด 10MP
    - กล้องหน้าด้านใน (กล้องซ่อนใต้หน้าจอ) ความละเอียด 4MP
  • เครือข่าย : 5G / 4G รองรับ Nano SIM 2 ช่อง และ eSIM
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6e, GPS, Blueotooth 5.2, พอร์ต USB Type-C 3.2
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่ Stereo รองรับระบบ Dolby Atmos
  • มาตรฐานกันน้ำ : IPX8
  • ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า, สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง
  • รองรับปากกา Stylus : S-Pen Fold Edition และ S-Pen Pro
  • แบตเตอรี่ : 4,400mAh รองรับชาร์จเร็วผ่านสาย 25W, ชาร์จไร้สาย 11W

RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน
ตัวเลือก RAM และ ROM จะมีให้เลือก 2 แบบคือ 8GB+256GB และ 8GB+512GB โดยตัวที่ได้มารีวิวจะเป็นรุ่น 8GB+256GB ซึ่งการเปิดเครื่องมาครั้งแรกระบบจะมีการกินพื้นที่ไปประมาณ 37GB (ไม่ติดตั้งแอพฯ ที่แนะนำ) ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานจริงๆ ประมาณ 219GB และไม่สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้

ระบบปฏิบัติการ
ในส่วนระบบปฏิบัติการจะรันบน One UI 3.1 บนพื้นฐาน Android 11 ซึ่งจะมีการปรับแต่งให้ใช้งานได้ง่าย และสะดวกกับหน้าจอพับ ส่วนเรื่องของแอพฯ Google ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะใช้งานได้ปกติทั้งหมด

หน้าจอหลัก
หน้าจอหลักจะเป็นแบบฉบับ One UI ซึ่งเน้นความง่ายต่อการใช้งาน สามารถปรับแต่ง Wallpaper และใส่ Widget ต่างๆ ได้ตามสะดวก ทั้งนี้ยังมีถาดเก็บแอพฯ ทั้งหมด ซึ่งผู้ใช้งานจะเลือกได้ว่าจะใส่แอพฯ ไว้หน้าจอหลัก หรือเก็บไว้ในถาด

ปุ่มนำทาง
ค่าเริ่มต้นของปุ่มนำทางจะเป็นแบบ 3 ปุ่มคือ แอพฯ ก่อนหน้า, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ แต่หากต้องการเปลี่ยนเป็นแบบ ท่าทางนำทาง ก็สามารถเปลี่ยนได้เช่นกัน โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > จอภาพ > แถบการนำทาง

แป้นพิมพ์
การใช้งานแป้นพิมพ์ในหน้าจอด้านในจะสะดวกมากขึ้น เพราะเป็นแป้นพิมพ์ Samsung ซึ่งจะมีการแป้งเป็น 2 ฝั่งซ้ายขวา แม้ว่าหน้าจอจะใหญ่ แต่ก็ยังกดพิมพ์ได้สะดวก

แผง Edge
แผง Edge จะอยู่ที่ขอบหน้าจอ ซึ่งสามารถเลื่อนเปิดออกมาได้ โดยในนั้นจะเป็นที่เก็บแอพพลิเคชั่น เพื่อให้เพื่อใช้งานได้ทันที และใช้ช่วยอำนวยความสะดวกในการแบ่งหน้าจอ หรือเปิดแอพฯ แบบป๊อปอัพ สามารถไปปรับแต่งแผง Edge ได้ที่ การตั้งค่า > จอภาพ > แผง Edge

โหมดมืด
แน่นอนว่าโหมดมืดมีมาด้วย ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนธีมเป็นสีดำ และใช้ตัวหนังสือสีสว่าง ทำให้ใช้งานได้สะดวกในตอนกลางคืน และยังเป็นการประหยัดแบตเตอรี่ในตัวด้วย เพราะหน้าขอเป็นพาแนล AMOLED นั้นเอง สามารถเปิดโหมดมืดได้ที่ การตั้งค่า > จอภาพ

Always-On-Display
สามารถเปิดใช้งาน Always-On-Display ได้ที่ การตั้งค่า > ล็อกหน้าจอ > Always On Display ซึ่งในนั้นจะมีตัวเลือกให้เปิดปิด และปรับแต่งดีไซน์ต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ หรือสีที่ต้องการ

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็ว AnTuTu Benchmark : 762,385 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวม Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core : 1130 คะแนน และ Multi-Core : 3440 คะแนน
  • ผลการทดสอบกราฟิกด้วย 3D MARK (Wild Life Extreme) : 1481 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ดีไซน์เหมือนรุ่นก่อน แต่ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น
การดีไซน์ของ Samsung Galaxy Z Fold3 5G อาจจะไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนมากนัก แต่ก็เพิ่มในส่วนความแข็งแกร่งเข้ามา โดยถูกเคลือบด้วยกระจก Gorilla Glass Victus ทั้งด้านหน้ากับด้านหลัง สามารถทนรอยขีดข่วนได้ 4 เท่า และทนแรกกระแทกเมื่อตกจากที่สูงได้ 2 เมตร ตรงแกนพับก็ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียม ทนทานได้มากขึ้น 10%

นอกจากนี้หน้าจอยังใช้เทคโนโลยี Samsung Ultra Thin Glass ทนทานกว่าเดิมถึง 80% แต่การแสดงสีสันยังดูสดใสเหมือนเดิม และตัวเครื่องยังรองรับการกันน้ำด้วยมาตรฐาน IPX8 อีกด้วย ทั้งหมดก็ถือได้ว่าหมดยุคที่ว่าสมาร์ทโฟนจอพับจะเปราะบางไปได้แล้ว

ใช้งานความบันเทิงเต็มสูบ
Samsung Galaxy Z Fold3 5G ก็ยังเสริมความบันเทิงมาให้แบบเต็มอิ่ม ด้วยหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ทั้งด้านใน และด้านนอก ซึ่งมีการแสดงสีสันที่สด และให้ความละเอียดที่สูง ทำให้การรับชมคอนเทนด์วิดีโอออกมาดูดีทีเดียว ทั้งนี้ระบบเสียงก็ไม่แพ้กัน เพราะติดตั้งลำโพง Stereo มา 2 ตัว พร้อมรองรับระบบ Dolby Atmos ทำให้เสียงออกมามีมิติ และสมจริง

จอลื่นๆ ด้วยอัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz
หน้าจอยังแสดงผลได้อย่างไหลลื่น เพราะมีอัตรา Refresh Rate สูงสุดถึง 120Hz พร้อมรองรับการปรับแบบอัตโนมัติ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน และยังรองรับทั้งหน้าจอด้านใน และด้านนอก ตรงนี้ถือว่าดีทีเดียว ช่วยให้ใช้งานต่างๆ ได้ลื่นๆ พร้อมกับไม่เปลืองแบตเตอรี่ เพราะมีระบบการปรับอัตรา Refresh Rate แบบอัตโนมัติ

ปรับอัตราส่วนแอพฯ ต่างๆ หรือให้แสดงเต็มหน้าจอก็ได้
หน้าจอด้านในที่มีขนาดกว้างถึง 7.6 นิ้ว แต่ก็ยังสามารถแสดงแอพฯ ต่างๆ ได้แบบเต็มจอ ทำให้เปิดรับประสบการณ์ในส่วนนี้แบบเต็มๆ ไม่เสียชื่อที่เป็นหน้าจอพับ แต่ถ้าหากบางแอพฯ ยังแสดงผลได้แบบผิดเพี้ยน ก็สามารถเข้าไปเลือกอัตราส่วนได้เองที่ การตั้งค่า > คุณสมบัติขั้นสูง > Labs > ปรับอัตราส่วนของแอพเอง ซึ่งจะมีให้ทั้ง เต็มหน้าจอ, 16:9, 4:3 และค่าพื้นฐานของแอพ ซึ่งจากที่ลองใช้งานกับเกม ROV เริ่มแรกหน้าจอจะยืดๆ แสดงผลผิดเพี้ยน แต่พอปรับเป็นเต็มหน้าจอ ก็กลับมาแสดงผลได้เต็มหน้าจอปกติ

กล้องซ่อนใต้หน้าจอ (Under Display Camera)
เทคโนโลยีกล้องซ่อนใต้หน้าจอ ถูกนำมาใช้กับ Samsung Galaxy Z Fold3 5G ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะอยู่ในหน้าจอด้านใน ทำให้แสดงผลได้แบบเต็มๆ และไม่มีรอยแหว่งมารบกวน เรียกว่าเป็นอนาคตของสมาร์ทโฟนก็ว่าได้ ทำให้ในปีหน้า หรือปี 2022 อาจจะได้เห็นเทคโนโลยีกล้องซ่อนใต้หน้าจอมากขึ้น จากที่ลองสังเกตดูยังเป็นขั้นแรกของเทคโนโลยีกล้องซ่อนใต้หน้าจอเท่านั้น เพราะยังเห็นจุดๆ แสดงให้เห็นว่ามีกล้องอยู่ในส่วนนั้น จะเห็นได้ชัดเมื่ออยู่ในหน้าจอที่เป็นสีขาว แต่ก็ดีกว่าเป็นรอยแหว่ง

เปิดแอพฯ พร้อมกันได้ 8 แอพฯ
การแบ่งหน้าจอถือเป็นอีกจุดเด่นของสมาร์ทโฟนจอพับอย่าง Samsung Galaxy Z Fold3 5G โดยสามารถแบ่งหน้าจอได้ถึง 3 หน้าต่าง และยังเปิดแบบ Pop-up ได้อีกถึง 5 จอ รวมแล้วสามารถเปิดแอพฯ ได้ถึง 8 แอพฯ พร้อมกัน

แบ่งหน้าจอได้ทุกแอพฯ จากฟังก์ชั่น Labs
ตามปกติการแบ่งหน้าจอจะทำได้เฉพาะแอพฯ ที่รองรับเท่านั้น แต่สำหรับ Samsung Galaxy Z Fold3 5G จะมาพร้อมฟังก์ชั่น Labs ทำให้บังคับแอพที่ไม่รองรับสามารถแบ่งหน้าจอได้ ตัวอย่างเช่น เปิด ROX ให้ตีมอนสเตอร์แบบอัตโนมัติจอหนึ่ง อีกจอก็เล่น ROV ไปพร้อมๆ กันได้ โดยเข้าไปเปิดใช้งานได้ที่ การตั้งค่า > คุณสมบัติขั้นสูง > Labs

Flex Mode
Flex Mode จะช่วยในการใช้งานระหว่างพับหน้าจอขึ้น 75 ถึง 115 องศา (เหมือนเป็นแล็บท็อป) อย่างเช่น ใช้งานกล้องได้สะดวกโดยไม่ต้องมีขาตั้ง หรือวิดีโอคอล และอีกจอก็เป็นที่จดก็ได้เช่นกัน

ใช้แอพต่อเนื่องในหน้าจอด้านนอก
หากผู้ใช้งานกำลังใช้งานหน้าจอทางด้านใน และเกิดพับฝาปิดออกมา ปกติแอพฯ ที่กำลังใช้งานอยู่จะเปลี่ยนเป็นการพักหน้าจอทันทีในหน้าจอด้านนอก แต่หากต้องการใช้งานแบบต่อเนื่อง ก็สามารถเข้าไปปรับแต่งได้ที่ การตั้งค่า > จอภาพ > ใช้งานแอพในจอด้านนอกต่อไป จากนั้นก็เลือกแอพฯ ที่ต้องการ เพียงเท่านั้นก็ใช้งานได้แบบพลิ้วๆ ไม่มีสะดวก ไม่ว่าจะพับเปิด หรือพับปิด ก็ยังใช้งานแอพฯ ในเวลานั้นได้ต่อเนื่อง

ทดสอบการเล่นเกม
สเปคของ Samsung Galaxy Z Fold3 5G ถือว่ารุ่นแรกจัดเต็ม ด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 888 และชิปกราฟฟิก Adreno 660 ทำให้เล่นเกมในกราฟฟิกสูงๆ ได้สบาย แต่ด้วยหน้าจอด้านในมีความกว้างถึง 7.6 นิ้ว ทำให้การแสดงผลแบบเต็มหน้าจอยังดูแปลกๆ รายละเอียดบางอย่างมีรอยแตก และแสดงผลได้ไม่คมชัดเท่าไหร่

  • PUBG Mobile : สามารถปรับได้สุดถึง Ultra HD และดันเฟรมเรตไปถึง Ultra เรียกว่าเล่นได้แบบสบายๆ ไม่มีกระตุก หรืออาการหน่วง แต่ถ้าจะให้ลื่นจริงๆ ก็แนะนำให้ปรับเป็น HDR HD เพราะจะสามารถดันเฟรมเรตไปถึงระดับ สูงสุด

  • ROV : ต่อมาเกมอย่าง ROV สามารถปรับกราฟฟิกได้แบบจัดเต็ม พร้อมกับดันเฟรมเรตระดับสูงได้สบายๆ โดยทำเฟรมเรตที่ 59-60 ตลอดเวลา ไม่ว่าจะกดใช้สกิลกันหนักแค่ไหน

  • Genshin Impact : เกมนี้ต้องบอกว่าต้องการสเปคที่ค่อนข้างสูง หากต้องการปรับกราฟฟิกสูงสุด เมื่อลองปรับแบบสูงสุด และเฟรมเรต 60fps เกิดอาการหน่วงๆ ภาพดูไม่ลื่นเท่าไหร่ และเครื่องเกิดอาการร้อนสูง ซึ่งตรงนี้แนะนำว่าให้ปรับเป็นแบบ ปานกลาง และใช้เฟรมเรตระดับ 60fps ซึ่งจะได้ภาพที่สวยระดับหนึ่ง และเล่นได้แบบลื่นๆ

รองรับสัญญาณ 5G และ WiFi 6E
Samsung Galaxy Z Fold3 5G จะรองรับสัญญาณ 5G ด้วย ทำให้ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้แบบรวดเร็วในทุกๆ ที่ ทั้งนี้ระบบ Wi-Fi ยังรองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6E ทำให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi มีความรวดเร็วสูง และเชื่อมต่อไปแบบเสถียร

ทดสอบแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy Z Fold3 5G จะมีขนาด 4,400mAh ซึ่งจากที่ทดสอบใช้งานจริงปรากฏว่า ลองเล่น PUBG Mobile กราฟฟิก Ultra HD เฟรมเรต Ultra และปรับความสว่างสูงสุด เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ก็พบว่าจากแบตเตอรี่ 49% ลดลงมาเหลือ 29% ส่วนการชาร์จจะรองรับชาร์จเร็ว 25W ผ่านสาย และไร้สาย 11W ซึ่งทั้ง 2 อย่างต้องซื้อแยก

การใช้งานกล้องถ่ายรูป
ในส่วนการใช้งานกล้องถ่ายรูป Samsung Galaxy Z Fold3 5G ก็จัดมาให้ใช้งานแบบครบๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลัง 3 เลนส์ กล้องในหน้าจอด้านนอก และกล้องในหน้าจอด้านใน ซึ่งรวมๆ แล้วมีกล้องติดตั้งมาถึง 5 เลนส์ นอกจากนี้ยังมีการทำงานให้เหมาะกับหน้าจอพับ ที่เป็นความโดดเด่นของซีรี่ย์นี้ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Flex Mode, ดูภาพตัวอย่างได้ทันที, และใช้กล้องหลังในการถ่ายเซลฟี่

ดูภาพที่ถ่ายเสร็จทันที
หลังจากที่กดชัตเตอร์เสร็จ สามารถดูภาพผลลัพท์ในคลังภาพได้ทันที ด้วยการเปิดแถบดูภาพที่ถ่ายเสร็จทันที สามารถเปิดได้ที่มุมบนซ้ายของแอพฯ กล้อง ซึ่งจะให้ผู้ถ่ายสามารถดูภาพได้โดยไม่ต้องออกไปยังคลังภาพ และสามารถแชร์ หรือลบภาพที่ไม่ถูกใจได้เลย

ถ่ายภาพโหมดปกติ มีการทำงานร่วมกับ AI ตรวจจับซีน
ในการถ่ายภาพจะมีการทำงานร่วมกับ AI ซึ่งในการถ่ายภาพปกติไม่อยู่ในโหมดใดๆ ก็มีระบบ AI ตรวจจับซีน ช่วยให้ถ่ายภาพในซีนต่างๆ ได้สวยงามขึ้นแบบอัตโนมัติ เพียงแค่ปุ่มชัตเตอร์ก็ได้ภาพสวยๆ ออกมา

 

 

โหมดกลางคืน
โหมดกลางคืนถือว่าถ่ายออกมาได้สวยที่เดียว และสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นหากใช้งานร่วมกับ Flex Mode ซึ่งเหมือนเป็นขากล้องส่วนตัว ช่วยให้ถ่ายโหมดกลางคืนได้แบบเนียนๆ

โหมดมุมกว้าง
ด้วยเลนนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 12MP ก็เพียงพอทำให้การถ่ายภาพมุมกว้างออกมาสวยงาม และภาพยังออกมาไม่เบี้ยวๆ อีกด้วย เพราะมีระบบซอฟแวร์ที่ช่วยปรับแต่งภาพให้ออกมาดี

โหมด Portrait
ในการถ่ายภาพบุคคล หรือโหมด Portrait ก็มีการเบลอพื้นหลังที่เนียน จัดกับพื้นหน้าได้อย่าสวยงาม และยังปรับความเบลอได้ตามต้องการ รวมไปถึงการปรับเอฟเฟคแสงไฟเพื่อเพิ่มความสนุกในการใช้งานในโหมดนี้ อย่างเช่น สตูดิโอ, High-Key Mono, Low Key Mono, ฉากหลัง, และคัลเลอร์พอยท์

สามารถเซลฟี่จากกล้องหลังได้
การถ่ายเซลฟี่จะสวยงามมากขึ้นหากใช้กล้องหลังในการถ่าย ซึ่ง Samsung Galaxy Z Fold3 5G ที่เป็นสมาร์ทโฟนจอพับ สามารถใช้หน้าจอด้านนอก และกล้องหลังร่วมกันได้ เพียงกางหน้าจอออกมา และใช้หน้าจอด้านนอกเป็นตัวพรีวิวรูปถ่ายนั้นเอง เรียกว่าเซลฟี่ได้ชัดๆ อย่างมั่นใจ

 

 

ถ่ายภาพจากกล้องซ่อนใต้หน้าจอ
สำหรับการใช้งานกล้องใต้หน้าจอ จะอยู่ในหน้าจอด้านใน ซึ่งมาพร้อมความละเอียด 4MP เอาตามตรงการถ่ายภาพจากกล้องนี้อาจยังทำได้ไม่ได้ เพราะความเป็นเทคโนโลยีใหม่ และมีความละเอียดเพียง 4MP เท่านั้น ซึ่งเหมาะกับการวิดีโอคอลมากกว่า แต่ก็ถือว่าเป็นก้าวแรกของเทคโนโลยี Under Display Camera ในอนาคตน่าจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และทำให้ได้ประสิทธิภาพการถ่ายภาพที่สูงขึ้น

 

 

ราคาของ Samsung Galaxy Z Fold3 5G
ในตอนนี้ Samsung Galaxy Z Fold3 5G ก็เปิดขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีให้เลือก 3 สีคือ Phantom Black, Phantom Green, และ Phantom Silver ส่วนราคามีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 57,900 บาท

  • RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 57,900 บาท
  • RAM 12GB + ROM 512GB ราคา 61,900 บาท

Samsung

ขอขอบคุณ : บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด โทร. 0 2689 3232

ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : 
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=463519

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/samsung/galaxy_m12.htm

 

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปิตุภูมิ นันทวิทยา ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 24 สิงหาคม 2564

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน