รีวิวโทรศัพท์มือถือ Huawei P50 Pro - หัวเว่ย

Huawei P50 Pro เหมือนเป็นตำนานกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ตามคอนเซ็ปต์ Huawei P Series ที่จะเน้นการใช้งานกล้องถ่ายรูปเป็นหลัก สำหรับ Huawei P50 Pro โดดเด่นด้วยกล้องหลัง Leica ติดตั้งมา 4 เลนส์ พร้อมใส่เทคโนโลยีเพื่อกล้องถ่ายรูปมาแบบเน้นๆ ทั้ง XD Optics และ Huawei XD Fusion Pro Image Engine ช่วยให้ภาพคมชัดมากขึ้น และยังมี True-Chroma Image Engine เพิ่มสีสันของสีได้อย่างสวยงาม ทั้งนี้ยังมีดีไซน์กล้องหลังแบบ Dual-Matrix ซึ่งมีความสวยงามด้วยโมดูลวงกลม 2 วง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ตามมาดูในรีวิวด้านล่างได้เลย

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ขนาดตัวเครื่องของ Huawei P50 Pro อยู่ที่ 158.8x72.8x8.5 มิลลิเมตร และน้ำหนักอยู่ที่ 195 กรัม ถือว่าตัวเครื่องมีความบาง และเบา จับใช้งานได้อย่างถนัด

หน้าจอแสดงผล OLED กว้าง 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2700x1228 พิกเซล ความหนาแน่น 450ppi อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz และใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู

เหนือหน้าจอแสดงผล ในรอยแหว่งมีกล้องหน้า ความละเอียด 13MP เป็นเลนส์แบบ Ultra-Wide และขอบหน้าจอด้านบนมีลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา

ล่างหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มนำทางแบบฮาร์ดแวร์ โดยการนำทางจะเป็นแบบซอฟแวร์ในหน้าจอแสดงผล และลางหน้าจอแสดงผลยังเป็นที่ สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจออีกด้วย

ข้างซ้ายตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มการใช้งาน หรือพอร์ต ใดๆ

ข้างขวาตัวเครื่อง มีปุ่มใช้งานมาตรฐาน โดยเป็นปุ่มยาวสำหรับเพิ่มเสียงลดเสียง และปุ่มเล็กเป็นปุ่มเพาเวอร์

ส่วนบนตัวเครื่อง มีลำโพงเสียง และช่องเซนเซอร์อินฟราเรต

ส่วนใต้ตัวเครื่อง ทางซ้ายเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด ซึ่งเป็นถาดแบบรองรับ Nano SIM 2 ช่อง หรือเปลี่ยนเป็น NM Card ได้ 1 ช่อง ถัดมาเป็นรูไมโครโฟน ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C และขวาสุดเป็นลำโพงเสียง

พลิกมาที่ฝาหลังตัวเครื่อง กล้องหลังจะอยู่มุมบนซ้าย จัดวางบนโมดูลวงกลม 2 ลง หรือทาง Huawei เรียกว่า Dual-Matrix ในนั้นมีกล้องหลัง 4 เลนส์ ประกอบไปด้วย เลนส์ True-Colour ความละเอียด 50MP, เลนส์ True-Colour ความละเอียด 40MP, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 13MP และเลนส์ SuperZoom ความละเอียด 64MP ส่วนฝาหลังจะเป็นผิวเงา ซึ่งเกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง Huawei P50 Pro
  • อะแดปเตอร์จ่ายไฟ 66W
  • สาย USB Type-C To Type-A
  • เข็มนำถาดซิมออก
  • เคสซิลิโคน
  • คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ Huawei P50 Pro

  • ขนาดตัวเครื่อง : 158.8 × 72.8 × 8.5 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 195 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : OLED กว้าง 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2700x1228 พิกเซล อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz, อัตราตอบสนองสัมผัส 300Hz, ความลึกสี 10-bits, และดีไซน์รอยแหว่งจอเจาะรู
  • ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 888 4G ความเร็ว 2.84GHz
  • RAM : 8GB
  • ROM : 256GB เพิ่ม NM Card
  • ระบบปฏิบัติการ : EMUI 12
  • กล้องหลัง 4 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช
    - เลนส์สี True-Colour Camera ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.8 กันสั่น OIS
    - เลนส์ขาวดำ True-Colour Camera ความละเอียด 40MP รูรับแสง f/1.6
    - เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 13MP รูรับแสง f/2.2
    - เลนส์ SuperZoom ความละเอียด 64MP รูรับแสง f/3.5 กันสั่น OIS
  • กล้องหน้า ความละเอียด 13MP รูรับแสง f/2.4
  • เครือข่าย : 4G LTE, 3G, 2G สนับสนุน NanoSIM 2 ช่อง
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 2.4/5GHz, Bluetooth 5.2, NFC, พอร์ต USB Type-C
  • ระบุตำแหน่ง : GPS / AGPS / GLONASS / BeiDou / GALILEO / QZSS / NavIC
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP68
  • ระบบเสียง : Huawei Histen ลำโพงคู่ Stereo
  • ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริก : สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ, สแกนใบหน้า
  • แบตเตอรี่ : 4,360mAh สนับสนุนชาร์จเร็วผ่านสาย 66W, ชาร์จไร้สาย 50W

ตัวเลือก RAM และ ROM
ขนาด RAM และ ROM ของ Huawei P50 Pro จะมีให้เลือกเพียงตัวเลือกเดียวคือ 8GB + 256GB ซึ่งถือว่าเป็นขนาดมาตรฐานที่ช่วยให้ใช้งานได้ลื่น และเก็บข้อมูลได้มากพอสมควร แต่หากยังไม่พอก็สามารถไปซื้อ NM Card มาใส่เพิ่มได้

ระบบปฏิบัติการ
ทางด้านระบบปฏิบัติการ ยังไม่ใช่ HarmonyOS แต่เป็น EMUI 12.0.1 แต่จากที่ลองใช้งานก็พบว่ามีความลื่นไม่ต่างกับ HarmonyOS และมีฟีเจอร์อย่าง Super Device ที่เรียกว่า Device+ คล้ายๆ ที่ใช้อยู่ใน HarmonyOS 2 Beta

หน้าจอหลัก
หน้าจอหลักจะเน้นรูปทรง UI เป็นแบบสี่เหลี่ยมมุมโค้ง ซึ่งดูสวยงามใช้งานง่าย และเมื่อปัดหน้าจอมุมบนซ้ายจะเป็นการแจ้งเตือน ส่วนมุมบนขวาเป็นการเปิดถาดแผงควบคุม ในขณะที่รูปแบบหน้าจอหลักจะเป็นแบบเก็บแอพฯ ไว้ทั้งหมดในหน้าจอหลัก อย่างไรก็ตามที่ว่ามาทั้งหมด ผู้ใช้งานสามารถไปปรับแต่งเองได้ภายหลัง โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > หน้าจอหลัก & วิลเปเปอร์

โฟลเดอร์ขนาดใหญ่
ความพิเศษของหน้าจอหลักยังมีฟังก์ชั่น โฟลเดอร์ขนาดใหญ่ ทำให้เห็นแอพฯ ต่างๆ ที่รวมอยู่ในโฟลเดอร์ได้ง่ายขึ้น โดยปรับเปลี่ยนก็เพียงกดค้างที่โฟลเดอร์ที่ต้องการ และจะมีเมนู ขยาย ให้เลือก หากต้องการปรับให้เล็กลงก็เลือกย่อลง

เชื่อมต่อโลก Huawei ด้วย Device+
อุปกรณ์ของ Huawei สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็ว และทำงานร่วมกันได้ง่ายๆ เพราะมีระบบ Device+ เพียงแค่ล็อกอินบัญชี Huawei ให้เหมือนกันในแต่ละอุปกรณ์ ส่วน Huawei P50 Pro สามารถดูได้ที่แผงควบคุม จะพบกับเมนู Device+ ก็จะพบกับอุปกรณ์ที่พร้อมเชื่อมต่อรออยู่

แท่นหลายหน้าต่าง
แท่นหลายหน้าต่าง จะอยู่ที่ขอบหน้าจอ สามารถเปิดใช้งานได้ตลอดเวลา โดยในถาดจะมีแอพฯ ที่เลือกอยู่ภายใน สามารถเปิดใช้งาน เพื่อแบ่งหน้า หรือเปิดหน้าจอแบบ Pop Up ได้ เพื่อไม่ต้องย้อนกลับมากหน้าจอหลักอีกครั้ง

โหมดมืด
แน่นอนว่า โหมดมืด แทบจะขาดไม่ได้แล้วบนสมาร์ทโฟน ซึ่ง Huawei P50 Pro ก็ไม่ลืมใส่มาให้ด้วย ซึ่งจะเป็นการปรับเปลี่ยนธีมเป็นสีดำ และใช้ตัวหนังสือสีขาว เพื่อช่วยให้ใช้งานผ่านหน้าจอได้สบายตามากขึ้น นอกจากนี้พาแนลหน้าจอยังเป็น OLED เมื่อเปิดใช้งานในโหมดมืด จะช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น

ปรับอัตรา Refresh Rate
Huawei P50 Pro สามารถปรับอัตรา Refresh Rate หน้าจอได้สูงสุดที่ 120Hz ซึ่งหากเปิดใช้งานที่ 120Hz ตลอดเวลาจะมาการแสดงผลได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่ โดย Huawei P50 Pro ก็มีระบบปรับเป็นแบบไดนามิก ทำให้อัตรา Refresh Rate มีการปรับให้แบบอัตโนมัติ ตามความเหมาะสมในการใช้งาน ทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ไปได้อีกทาง โดยเข้าไปปรับได้ที่ การตั้งค่า > การแสดงผลและความสว่าง > อัตราการรีเฟรชหน้าจอ > ไดนามิก

Always On Display
โหมด Always On Display ก็ยังมีอยู่ใน Huawei P50 Pro ซึ่งเป็นการแสดงข้อมูลที่จำเป็นในขณะพักหน้าจอ ส่วนรูปแบบก็มีให้เลือกปรับแต่งมากมาย พร้อมดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ (ต้องซื้อเพิ่ม) โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > หน้าจอหลัก & วอลเปเปอร์ > แสดงเสมอ

การบริการ Huawei Mobile Service
อย่างที่ทราบกันว่าสมาร์ทโฟนของ Huawei ในช่วงหลังๆ จะไม่ถูกติดตั้ง GMS หรือ Google Mobile Service มาด้วย ซึ่ง Huawei P50 Pro ก็เช่นกัน ทำให้ Huawei ต้องใช้งการบริการอของตัวเองอย่าง Huawei Mobile Service โดยช่วงหลังมานี้ก็มีการพัฒนาขึ้นมาเยอะ ไม่ว่าจะเป็น Petal Maps แผนที่, การค้นหา Petal Search, ผู้ช่วยอัจฉะริยะ AI Voice หรือ AppGallery ที่ไว้สำหรับดาวน์โหลดแอพฯ ต่างๆ

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็ว AnTuTu Benchmark : 546,813 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวม Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core : 736 คะแนน และ Multi-Core : 2277 คะแนน
  • ผลการทดสอบกราฟิกด้วย 3D MARK (Wild Life) : 3473 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

 

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

  • Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
  • Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
  • Gyroscope Sensor ตรวจวัดการทรงตัว
  • Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
  • Pressure Sensor ตรวจวัดแรงดัน

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ตัวเครื่องเบาจับใช้ถนัดมือ ดีไซน์กล้องหลังแบบ Dual-Matrix
การจับใช้งาน Huawei P50 Pro ถือว่าถนัดมือพอสมควร แม้ว่าจะมีหน้าจอที่ใหญ่ถึง 6.6 นิ้ว นอกจากนี้ยังดูสวยงาม เพราะมีความบางเพียง 8.5 นิ้ว และการจัดวางกล้องหลังก็ดูเป็นเอกลักษณ์ ด้วยรูปทรงโมดูลวงกลมคู่ ที่ทาง Huawei เรียกว่า Dual-Matrix

หน้าจอแสดงผลโค้ง พาแนล OLED อัตรา Refresh Rate 120Hz
Huawei P50 Pro มาพร้อมพาแนล OLED กว้าง 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2700x1228 พิกเซล ทำให้แสดงสีสันได้สด และคมชัด นอกจากนี้ยังมีความแม่นของสีระดับ P3 แสดงสีได้มากถึง 10.7 พันล้านสี เมื่อใช้งานในที่แสงน้อย ก็มีอัตราเฟรม PMW Dimming ที่ 1440Hz ช่วยลดความเมื่อล้าของสายตาได้อย่างดี ทั้งนี้ยังมีการแสดงผลที่รื่นตา จากอัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz จากที่ได้ใช้งานจริง ก็ใช้งานได้ดี สีสวย คมชัด ใช้ได้แบบลื่นๆ

ชิปเซ็ต Snapdragon 888 แต่รองรับสัญญาณ 4G เท่านั้น
ค่อนข้างน่าเสียดาย ที่ Huawei P50 Pro ไม่รองรับสัญญาณ 5G เนื่องจากติดปัญหาเดิมๆ เหมือนที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามก็ยังรองรับ 4G พร้อมถูกขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 888 ซึ่งเป็นขุมพลังตัวแรง ขนาด 5 นาโนเมตร รองรับการใช้งานต่างๆ แบบลื่นๆ ทั้งการเล่นเกม, เล่นสังคมออนไลน์, หรือใช้งานแอพฯ ต่างๆ

ทดสอบการเล่นเกม
ด้วยพลังของชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 และระบบ GPU Turbo ก็ส่งให้ Huawei P50 Pro สามารถใช้เล่นเกมในกราฟฟิกระดับสูงๆ ได้ และยังมีการควบคุมความร้อนด้วย 3D Graphene Liquid Cooling System ทำให้ตัวเครื่องไม่ร้อนมากในขณะเล่นเกม โดยเกมที่ทดสอบใช้งานเป็นเกม PUBG Mobile ซึ่งสามารถปรับกราฟฟิกได้สูงถึง Ultra HD และดันเฟรมเรตไปได้ถึงระดับ Ultra ในการเล่นจริงก็มีความลื่น พร้อมกับรับชมกราฟฟิกแบบสวยๆ ไปเต็มๆ

Gspace ใน AppGallery ช่วยให้ใช้แอพฯ Google ได้
Huawei P50 Pro มารอบนี้ใช้งานแอพฯ จาก Google ได้แล้ว ด้วยความพิเศษของแอพฯ Gspace ที่สามารถดาวน์โหลดได้จาก AppGallery โดย Gspace จะช่วยให้ใช้งานแอพฯ จาก Google ได้ แม้ว่าตัวเครื่องจะไม่ได้ติดตั้ง GMS มาก็ตาม แต่ในการใช้งานแต่ละครั้งจะมีโฆษณาปรากฏขึ้นมา ต้องทำการจ่ายเงิน App in purchase ถึงจะใช้ได้แบบลื่นๆ ไม่มีโฆษณาขึ้นมา

ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริก
ในส่วนความปลอดภัย Huawei P50 Pro ก็มาพร้อมระบบความปลอดภัยไบโอเมตริก 2 อย่าง โดยอย่างแรกคือ สแกนลายนิ้วบนหน้าจอ ซึ่งมีการทำงานที่รวดเร็ว และจดจำลายนิ้วมือได้ 5 แบบ อย่างที่สองคือ การสแกนมใบหน้า ก็มีการทำงานที่รวดเร็ว ใช้สแกนใบหน้าในที่แสงน้อยได้ และสามารถจดจำใบหน้าได้ 2 แบบ

แบตเตอรี่รองรับชาร์จเร็วผ่านสาย 66W
Huawei P50 Pro อาจจะมีขนาดแบตเตอรี่ไม่ใหญ่มาก โดยมีขนาดอยู่ที่ 4,360mAh แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐานในหนึ่งวัน เพราะมีการจัดการแบตเตอรี่ที่ดี และมีชิปเซ็ต Snapdragon 888 ซึ่งเป็นขนาด 5 นาโนเมตร ทำให้มีการประหยัดพลังงานระดับสูง

ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่ก็รองรับการชาร์จเร็วผ่านสาย 66W และไร้สาย 50W โดยการทดสอบแบบชาร์จผ่านสาย 66W ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง (ประมาณ 55 นาที) จากแบตเตอรี่ 2% ก็กลับมาเต็ม 100%

การใช้งานกล้องถ่ายรูป
ถือว่าเป็นตำนานบทใหม่ของ Huawei P Series ก็ว่าได้ เนื่องจาก Huawei P50 Pro ยังคงความโดดเด่นในการใช้งานกล้องถ่ายรูปไว้ได้อย่างดี และถูกอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลบีใหม่ๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็เกินกว่าจะเป็นกล้องบนสมาร์ทโฟนไปแล้ว สำหรับ Huawei P50 Pro นอกจากจะจัดวางกล้องหลังสวยงามแบบ Dual-Matrix ยังมีการติดตั้งกล้อง Leica มาถึง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 64MP แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีที่ใส่เข้ามา นั้นคือเทคโนโลยี XD Optics กับ Huawei XD Fusion Pro Image Engine ช่วยทำให้ภาพคมชัด พร้อมกับมีรายละเอียดที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเซนเซอร์แสง และ True-Chroma Image Engine ช่วยเพิ่มสีสันให้ครบ ขอบเขตสีกว้างระดับ P3 แบ่งแยกสีได้ครอบคลุมถึง 2,000 สี ซึ่งทุกอย่างจัดแจงให้แบบอัตโนมัติ เราแค่คลิกชัตเตอร์ภาพต่างๆ ก็ออกมาสวยในทันที ถือว่าใช้งานง่ายได้ภาพสวยแบบไม่ยาก

ความละเอียดสูง AI 50MP
โหมดความละเอียดสูง 50MP คือโหมดหากินในช่วงนี้เลย ซึ่ง Huawei P50 Pro ก็ไม่พลาดนำมาให้ใช้งานด้วย ซึ่งโหมดนี้จะเป็นการดึงประสิทธิภาพของเลนส์หลัก 50MP ให้ออกมาอย่างเต็มที่ โดยภาพที่ออกมามีความละเอียดสูงถึง 8192x6144 พิกเซล เรียกว่าชัดทุกมุมของรูป จะครอปตรงส่วนไหนก็ชัด นอกจากนี้ยังมีโหมด AI 50MP ช่วยทำให้ภาพความละเอียดสูง มีความสวยงามแแบบอัตโนมัติอีกด้วย

โหมด Macro
การถ่ายภาพระยะใกล้ๆ ด้วยโหมด Macro ก็แสดงสีสันในภาพได้อย่างสวยทีเดียว อย่างที่บอกไปว่า Huawei P50 Pro มีเทคโนโลยี True-Chroma Image Engine ช่วยเพิ่มสีสัน ด้วยขอบเขตสีกว้างระดับ P3 แบ่งแยกสีได้ครอบคลุมถึง 2,000 สี ซึ่งภาพในโหมดมาโครก็ดูมีมิติ มีการแบ่งเฉดสีที่แต่งต่างดูสวยงาม นอกจากนี้โหมด Macro ยังถ่ายภาพในระยะใกล้ได้สูงถึง 2.5 เซนติเมตร

โหมด Mono (ขาว-ดำ)
ในกล้องหลังของ Huawei P50 Pro มีกล้อง True-Colour Camera ซึ่งเป็นเลนส์ Mono ความละเอียด 40MP เพื่อเป็นการไม่ให้เสียของ จึงมีโหมด Mono มาให้ใช้งานด้วย โดยภาพจะออกเป็นโทน ขาว-ดำ และได้สีดำที่ลึก ช่วยให้ดูสวยงามในการถ่ายภาพโทนแบบนี้

 

 

โหมดกลางคืน
จุดขายในโหมดกลางคืนก็ยังทำได้ดีต่อเนื่อง หากดูจากในรูปด้านล่างจะเห็นว่า แสงสีต่างๆ เปล่งประกายดูสวยแบบอลังๆ นอกจากนี้การถ่ายรูปในที่แสงน้อย หรือตอนกลางคืน ต้องมีบางส่วนในภาพที่กล้องไม่สามารถแสดงรายละเอียดออกมาได้ชัด แต่สำหรับ Huawei P50 Pro สามารถแสดงรายละเอียดในภาพได้ค่อนข้างเยอะ ถือว่ายังเป็มสมาร์ทโฟนในอันดับต้นๆ ที่ถ่ายรูปในโหมดกลางคืนได้อย่างสวยงาม

การใช้งานโหมดมุมกว้าง
โหมดมุมกว้างจะใช้กล้อง Ultra-Wide Angle ความละเอียด 13MP ในการจับภาพ ซึ่งทำมุมกว้างได้ถึง 120 องศา และนอกจากความกว้างพิเศษแล้ว ตัวกล้องยังมีการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี XD Optics และ Huawei XD Fusion Pro Image Engine ช่วยให้การถ่ายมุมกว้าง มีความละเอียดมากขึ้น และแสดงลวดลายดีเทลต่างๆ ก็ออกมามีสีสันที่สวยงาม

ซูมได้สูงสุด 200 เท่า (Digital Zoom)
เรื่องการซูม Huawei P50 Pro ก็ยกระดับให้ดีมากขึ้น โดยมีเลนส์ SuperZoom Camera (Telephoto Periscope) ความละเอียดสูงถึง 64MP ทำให้จับภาพในการซูมสุดระยะยังปรากฏดีเทลในรูป และเมื่อนำไปรวมกับเทคโนโลยี XD-Optics ทำให้คุณภาพของรูปดูดีมากยิ่งขึ้น

 

 

ภาพบุคคล Portrait
โหมด Portrait ใช้งานได้แบบสบายๆ เบลอพื้นหลังได้อย่างสวยงาม พร้อมสีสันที่ออกมาสวยสดใส และยังมีลูกเล่นเอฟเฟคแสงไฟเหมือนกับรุ่นผ่านๆ มา เช่น ซูเปอร์, วงกลม, หัวใจ, การหมุน, บูธถ่ายภาพ, และแสงบนเวที ตรงนี้ต้องยกให้กล้อง และระบบซอฟแวร์ที่มีการทำงานร่วมกับได้อย่างลงตัว ช่วยให้ภาพออกมาดูดี แบบไม่ต้องมือโปรก็ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้สบายๆ

 

กล้องหน้าถ่ายเซลฟี่
กล้องหน้าแม้ว่ามีความละเอียดที่ 13MP แต่การเซลฟี่ก็ยังออกมาดูดี ถ่ายเซลฟี่ได้อย่างมั่นใจ และมีโหมดปรับแต่งหน้าสวยมาให้ และการใช้โหมด Portrait จากกล้องหน้า ก็มีการเบลอพื้นหลังตัดกับส่วนหน้าได้เนียนๆ ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ถือว่าโดยรวมการเซลฟี่สอบผ่านอยู่

 

 

ถ่ายวิดีโอด้วยระบบกันสั่น AIS Pro True-Steady Shot
Huawei P50 Pro สามารถถ่ายวิดีขณะมือสั่น หรือเคลือนไหวได้ชัด เพราะมีระบบ AIS Pro True-Steady Shot ที่มีการทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์ และซอฟแวร์ ทั้งนี้การถ่ายวิดีโอยังจับภาพได้ชัดตลอดเวลา เพราะระบบ True-Focus Fast Capture เรียกว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็สามารถหยิบ Huawei P50 Pro บันทึกวิดีโอได้เลย

Huawei

ขอขอบคุณ : Huawei Technologies (Thailand) Co., Ltd. โทร 0-2654-3622

ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ Huawei P50 Pro : https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=464337

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/huawei/p50_pro.htm

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: ปิตุภูมิ นันทวิทยา ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 20 มกราคม 2565

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์

ขึ้นด้านบน