รีวิวแท็บเล็ต Huawei Matepad Pro 11

Huawei ประเทศไทยแนะนำแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุด Huawei MatePad Pro 11 2022 สำหรับใช้ในทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานกราฟิก, การเล่นเกม, การรับชมคอนเทนต์สตรีมมิ่ง, งาน Creative, งานเอกสาร หรืองาน Presentation ต่างๆ ก็สะดวกคล่องตัว โดยรองรับการใช้งานปากกา Huawei M-Pencil รุ่นที่ 2 เต็มรูปแบบ เพิ่มความอิสระในการใช้งานมากยิ่งขึ้น พร้อมประสิทธิภาพการสร้างสรรค์ระดับโปร ดังนั้นบทความนี้จะรวบรวมจุดเด่นและสเปคให้ได้ทราบกัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : สรุปจุดเด่นและสเปค Huawei MatePad Pro หน้าจอ OLED 11 นิ้ว 120Hz รองรับการใช้ปากกา เริ่มต้น 24,990 บาท

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

Huawei MatePad Pro 11 2022 ต้องบอกว่าหัวเว่ยได้สร้างความฮือฮาสำหรับตลาดแท็บเล็ตอย่างมาก ด้วยการเก็บทุกรายละเอียดของรุ่นนี้อย่างดี ตั้งแต่งานดีไซน์ไปจนถึงสเปคใช้งานภายใน โดยดีไซน์หรูหรากว่าทุกรุ่นในกลุ่มแท็บเล็ตของหัวเว่ยเลยก็ว่าได้

ด้านหลังตัวเครื่องใช้วัสดุพลาสติกผสมไฟเบอร์กลาส ทำลวดลายเท็กเจอร์คล้ายเม็ดทรายขนาดเล็กอย่างหนาแน่นเคลือบสีดำสนิทให้ผิวสัมผัสด้าน สามารถจับถนัดกระชับมือ ไม่เกิดรอยนิ้วมือ และช่วยป้องกันความชื่น เช็ดทำความสะอาดง่าย

สำหรับแท็บเล็ต Huawei MatePad Pro 11 2022 อย่างที่เกริ่นข้างต้นว่ามีความบางมากเพียง 5.9 มิลลิเมตรเท่านั้น และน้ำหนักก็เบา สามารถพกพาลุยกับคุณไปได้ทุกที่ ไม่เทอะทะด้วย เหมาะกับสายงานลุยๆ หรือครีเอเตอร์ที่ต้องการความคล่องตัวเสมอ

หน้าจอแสดงผลมีขนาดใหญ่มากถึง 11 นิ้ว แต่ตัวเครื่องไม่ได้เทอะทะตาม เพราะมีสัดส่วนหน้าจอที่มาก ขอบจอบาง ทำให้ได้ขนาดของหน้าจอกว้างขึ้น มาพร้อมหน้าจอประเภท OLED ขนาด 11 นิ้ว มีความแม่นยำสูงของเฉดสี 1.07 พันล้านสี พร้อมการันตีหน้าจอที่ลดแสงสีฟ้า Full Care Display 3.0 ใช้งานปลอดภัยต่อสายตามากยิ่งขึ้น ส่วนความสว่างสูงสุด 600 นิต มีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz

มุมซ้ายบนตัวเครื่องมีเลนส์กล้องเซลฟี่ แบบเจาะรู ความละเอียดสูง 16 ล้านพิกเซล จับภาพมุมกว้าง พร้อมฟังก์ชั่น จับโฟกัสตรงกลาง เหมาะแก่การเรียนออนไลน์ หรือประชุม

ด้านบนตัวเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับล็อค/ปลดล็อคตัวเครื่อง และเปิดปิดการทำงานของตัวเครื่อง มาพร้อมช่องลำโพงสองช่อง

ด้านล่างจะพบช่องลำโพงเช่นกันอีกสองช่อง และพอร์ต USB Type-C 3.1 ชาร์จแบตเตอรี่และถ่ายโอนข้อมูลรวดเร็วกว่าเดิม

ด้านขวาตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง และรูไมโครโฟนสามตัว สำหรับตัดเสียงรบกวน

อย่างไรก็ตามพื้นที่ด้านข้างตัวเครื่องทั้งฝั่งซ้ายและขวา สามารถนำปากกา Huawei M-Pencil 2nd generation มาติดกับตัวเครื่อง เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้

ด้านหลังตัวเครื่องเป็นโมดูลกล้องดิจิตอลที่ค่อนข้างยื่นออกมาจากตัวเครื่อง ทำให้ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากในการวาง อาจเป็นรอยได้ แต่ก็หายห่วงได้ในระดับหนึ่ง เพราะเลนส์กล้องมีกระจกครอบ ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน ลายเส้นด้านหลังตัวเครื่องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ และวงโมดูลกล้องหลัง จะเป็นลายเส้นสีทอง ช่วยเพิ่มความหรูหราอย่างมาก และส่องแสงเงา เมื่อมีแสงมาตกกระทบ

 

วิธีใช้งานเหล่าอุปกรณ์เสริมที่ Huawei แถมมาให้ จัดหนัดจัดเต็มเลย : รับฟรี! HUAWEI Smart Magenetic keyboard, HUAWEI M-Pencil 2nd Generation และสิทธิประโยชน์มากมายรวมมูลค่า 12,282 บาท

  • HUAWEI M-Pencil 2nd Generation : แค่นำปากกามาติดไว้กับตัวเครื่องฝั่งขวาเท่านั้น เพื่อเชื่อมต่อจากนั้นก็ใช้งานปกติได้เลย

  • HUAWEI Smart Magenetic keyboard : นำแผงอุปกรณ์ติดตั้งเข้ากับตัวแท็บเล็ต ซึ่งมีสองชิ้น โดยมีชิ้นยึดติดกับตัวเครื่อง สามารถติดได้เลยเพราะเป็นแม่เหล็ก จากนั้นแผงคีย์บอร์ดให้ติดกับ PIN แม่เหล็ก จากนั้นก็ใช้งานปกติ

 

อย่างไรก็ตามไม่ต้องตกใจไป HUAWEI Smart Magenetic keyboard ไม่ได้ไม่มีภาษาไทย โดยรุ่นที่แจกแถมนี้ มีตัวหนังสือภาษาไทยแน่นอนครับ ที่สำคัญแม้คุณจะถอดออกจาก PIN แม่เหล็ก ก็สามารถพิมพ์ต่อได้ เผื่อว่าคุณไม่สะดวกพิมพ์แบบปกติ อาจใกล้เกินไปอะไรแบบนี้

สำหรับเคสคียบอร์ดนี้มีแป้นพิมพ์ขนาดใหญ่ ทำให้กดสะดวกคล่องตัว สามารถเลื่อนมาตั้งได้ด้วย เสมือนใช้เป็นแล็ปท็อป แม้ว่าจะติดเคสแล้ว การแนบปากกากับตัวเครื่องก็ทำได้ปกติ เพื่อความสะดวก

นอกจากนี้เมื่อถอดแผงคีย์บอร์ดออก ให้เหลือแค่เคสด้านหลังอย่างเดียว แล้วกางที่หยั่งออกมา เพื่อใช้งานเป็นลักษณะดูซีรีย์ เพลินยิ่งขึ้นไปอีก

อุปกรณ์ภายในกล่อง

สเปคเบื้องต้นของ Huawei MatePad Pro 11 2022

  • ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS 3
  • ขนาดตัวเครื่อง : 160.38 x 249.23 x 5.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 449 กรัม กับ 455 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : OLED ขนาด 11 ความละเอียด 2560x1600 พิกเซล มีความหนาแน่นต่อพิกเซล 274ppi
  • หน่วยประมวลผล :
    • Qualcomm Snapdragon 888 (4G LTE)
    • Qualcomm Snapdragon 870 (WiFi)
  • GPU :
    • Adreno 660 (4G LTE)
    • Adreno 650 (WiFi)
  • RAM : 8GB
  • พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 128GB/256GB
  • ไม่รองรับ MicroSD Card 
  • กล้องหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส รูรับแสง f/1.8 อีกเลนส์เป็นเลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • การเชื่อมต่อ : 4G LTE, Wi-Fi 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.2 (Bluetooth 5.1--WiFi Model), GPS, GLONASS
  • พอร์ต USB Type-C 3.1
  • เทคโนโลยี HUAWEI SOUND
  • แบตเตอรี่ : 8300mAh
    • โมเดล 4G LTE : เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 66 วัตต์ (SuperCharge 66W)
    • โมเดล WiFi : เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 40 วัตต์ (SuperCharge 40W)

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

หน้าจอหลักและหน้าเมนูการใช้งาน

เมนูทางลัดการใช้งานด่วน

อีกหนึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีการแบ่งส่วนอย่างชัดเจน ทำให้สะดวก ไม่สับสน แสดงผลได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ด้วยแพลตฟอร์ม Harmony OS 3.0 พัฒนาใหม่ให้มีวิธีการใช้งานดังนี้

  • ปัดลงมุมซ้ายของหน้าจอด้านบน : สำหรับดูรายละเอียดการแจ้งเตือนทั้งหมด
  • ปัดลงมุมขวาของหน้าจอด้านบน : เพื่อเข้าถึงเมนูการใช้งานตัวเครื่องและทางลัด หากต้องการปรับเปลี่ยนใดๆ ให้กดที่ไอคอนแก้ไขมุมขวาได้เลย

การเปิดปุ่มควบคุม

ให้คุณควบคุมการใช้งานได้สะดวกตามต้องการ แบ่งเป็น ใช้ท่าทางในการสัมผัส, ปุ่ม 3 ปุ่ม คือ ย้อนกลับ | Home | แอปพลิเคชั่นล่าสุด โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า -- ระบบและการอัปเดต -- การควบคุมทิศทางระบบ

การตั้งค่าปุ่มทางลัด

สะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น ถ่ายภาพหน้าจอ ด้วยเคาะหน้าจอด้วยข้อนิ้วหรือปัดลงด้วยสามนิ้ว หรือปลุกหน้าจอให้ยกแท็บเล็ตขึ้น หรือแตะสองครั้งบนหน้าจอ

ระบบเชื่อมต่อครบถ้วน

Huawei MatePad Pro 11 2022 มีระบบการเชื่อมต่อครบครัน ใช้งานอิสระทุกอุปกรณ์ WiFi, WiFi+ (สลับการใช้งานระหว่าง WiFi และเครือข่ายอัตโนมัติ หากเจอมุมอับสัญญาณ เพื่อคงสถานะออนไลน์ตลอดเวลา), WiFi Direct, Bluetooth 5.2, WiFi HotSpot, GPS, GLONASS, Huawei Share เป็นต้น

การแสดงผล

เมนูสำหรับตั้งค่าการแสดงผลของหน้าจอ โดยสามารถปรับระดับความสว่าง, สี หรือเลือกโหมดการใช้งานได้ อาทิ โหมดอ่านทำให้โทนสีอุ่นขึ้น เพื่อความสบายตาในการใช้งาน และตั้งเวลาได้ด้วย นอกจากนี้ยังเปลี่ยนขนาดตัวอักษรภายในเครื่องได้ ถ้าใครต้องการตัวเล็ก ตัวใหญ่ก็เปลี่ยนในเมนูขนาดอักษรได้เลย รวมถึงการเปิดใช้งานแตะหน้าจอสองครั้งติดกันเพื่อปลุกหน้าจอ หรือเปิดใช้งานโหมดแสงทึบ, โหมดฟิลเตอร์แสงสีฟ้า, การซูมหน้าจอ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเลือกการจัดเรียงแอปพลิเคชั่นได้ด้วย มี 3 แบบ อาทิ 6x4, 6x5 และ 5x5

ทุกแอปพลิเคชั่นมักมีอะไรซ่อนอยู่

ต้องขอบคุณแพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการ Harmony OS 3.0 ที่ให้คุณพบกับลูกเล่นหลากหลาย โดยหนึ่งในนั้นคือ แอปพลิเคชั่น ไม่ได้มีวิธีการใช้งานแบบเดิมๆ เพียงอย่างเดียว คือ กดแล้วจบ แต่คุณสามารถกดค้างที่แอปฯ เพื่อดูลูกเล่นฟังก์ชั่นใช้งานเพิ่มเติมได้อีก

ฟังก์ชั่นยืนยันตัวตนผู้ใช้งาน

สำหรับการยืนยันตัวตนจะมีสองแบบ คือ ระบบสแกนใบหน้า แค่คุณยกขึ้นให้พอดีกับใบหน้า ก็ปลดล็อคตัวเครื่องแล้ว กับการตั้งรหัสผ่านแบบตัวเลขจำนวน 6 หลัก อย่างไรก็ตามหากต้องการปิดกั้นการใช้งานแอปฯ ที่ต้องการสามารถล็อกแอปฯ ได้เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใช้ได้ด้วยคนเดียวจากรหัสผ่านหรือ PIN ที่กำหนดเอง

ตัวจัดการแท็บเล็ต 

ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนใหม่เสมอด้วยลูกเล่นการเคลียพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน, การตรวจสอบข้อมูลที่มีความสุ่งเสี่ยงต่อความเสียหายแก่สมาร์ทโฟนและข้อมูลส่วนตัว เป็นต้น

การโคลนแอปพลิเคชั่น

เลือกใช้ได้สองบัญชี เพื่อสลับเปลี่ยนระหว่าง User ส่วนตัว หรือ User สำหรับการทำงานได้ง่าย ๆ ในตัวเครื่อง ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นอื่นเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก

การเลือกธีม/วอลเปเปอร์/ไอคอน

ปรับแต่งอินเทอร์เฟชสมาร์ทโฟนของคุณให้มีความหลากหลาย จะเท่ จะน่ารัก หรือจะแบบสบายตา ก็ปรับแต่งได้ดั่งใจ มีทั้งแบบเสียเงินกับฟรี ก็ไม่มีทางจำเจเลยละ

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ฟีเจอร์ Multi-Tasking ที่โคตรดีย์

แท็บเล็ตนอกจากได้หน้าจอใหญ่ๆ ไว้ใช้งานแล้ว ประโยชน์ที่แท้จริงคือการใช้งานแบบหลายแอปฯ ในหน้าจอเดียว หรืออย่างน้อยต้องสองแอปฯ อย่างเสถียร และใช้งานได้อิสระ โดยแพลตฟอร์ม Harmony OS 3.0 มีการพัฒนาและแก้ไขจุดบกพร่องเดิมๆ ออกไป ให้คุณใช้นิ้วใช้งานคล่องตัว เช่น เมื่อเปิดแอปฯ หนึ่งขึ้น ต้องการย่อหน้าจอก็แค่ใช้นิ้วลาก และไปไว้ที่ขอบเครื่อง หรือเปิดสองแอปฯ พร้อมกัน ซึ่งคุณสามารถขยายความกว้างการแสดงผลของทั้งสองแอปฯ ได้ตามที่คุณต้องการ อาทิ เปิดหน้าเบราว์เซอร์ฝั่งซ้าย ด้านขวาเปิด Note ขึ้นมาก็ใช้ปากกาขีดเขียนได้เลย เหมาะแก่ทุกการจดบันทึก

 

Harmony OS 3.0 UI ที่ตอบโจทย์ชีวิตติดปีก

ต่อเนื่องจากลักษณะการใช้งานก่อนหน้านี้ในส่วนของ Multi-Tasking เพราะไม่ได้เปิดได้แค่ 2 แอปฯ คุณสามารถเปิดแอปฯ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ โดยจะมีศูนย์ควบคุมอยู่ด้านขวากับซ้ายหน้าจอให้คุณปัดนิ้วลากมากึ่งกลาง จะมีเมนูและแอปฯ สามารถกดเลือกที่ต้องการใช้ได้เลย เรียกได้ว่าสมาร์ทเอามากๆ ชีวิตติดปีก ไม่ต้องไปเลื่อนหาแอปฯ สลับไปมาให้วุ่นวาย

ฟีเจอร์โน๊ตพัฒนาใหม่ไฉไลกว่าเดิม

สำหรับฟีเจอร์ดังกล่าวได้มีการพัฒนาให้สามารถขีดเขียนด้วยปากกา Huawei M-Pencil 2nd generation ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ลดความหน่วง ให้คุณรู้สึกเหมือนจับปากกาจริงๆ ที่สำคัญมีฟีเจอร์เด็ดเรียกว่า Cross-app Colour Capture กล่าวคือ คุณสามารถไปดูดสีจากแหล่งอ้างอิงที่ต้องการได้ทันที ไม่ต้องดาวน์โหลดและทำการดูดสีแล้ว แค่เปิด แต่ สีก็มาเลย ซึ่งไอคอนดังกล่าวจะอยู่ที่ซ้ายมือ (eyedropper)

วาดรูปทรง วาดเส้นต่างๆ ไม่บิดเบี้ยวอีกต่อไป

อีกหนึ่งฟังก์ชั่นของ Note ที่น่าสนใจคือ ไอคอนสัญลักษณ์สี่เหลี่ยมและวงกลมสีทึบ ที่เมื่อกดเปิดใช้งาน เมื่อคุณขีดเส้น หรือวางรูปทรงสี่เหลี่ยม มันจะเบี้ยวๆ เอียงๆ ไม่ตรงหรอก ทว่าเมื่อเปิดแล้ว มันกลับเป็นรูปทรงที่ถูกต้องทันที สะดวกสุดๆ

ลักษณะการใช้งานปากกา Huawei M-Pencil 2nd generation เบื้องต้นมีดังต่อไปนี้

  • เริ่มแรก เชื่อมต่อปากกา Huawei M-Pencil 2nd generation ให้ทำการวางไว้ที่ขอบตัวเครื่องด้านขวา ตั้งแต่กึ่งกลางเครื่องลงมา เพื่อทำการเชื่อมต่อกับแท็บเล็ต จากนั้นระบบจะมี Pop-up เด้งขึ้นมา เพื่อกดเชื่อมต่อ พร้อมแสดงสถานะแบตเตอรี่ จากนั้นก็ทำการเชื่อมต่อได้เลย
  • เมื่ออยู่ในแอปฯ สมุดโน๊ต คุณสามารถเคาะปากกา Huawei M-Pencil 2nd generation สองครั้ง เพื่อสลับการใช้งานระหว่าง หัวปากกากับยางลบ ไม่ต้องแตะเลือกไอคอนให้ยุ่งยาก
  • การขีดเขียนตกแต่งสีสันอย่างอิสระ อย่างที่เกริ่นข้างต้น Cross-app Colour Capture สามารถดูดสีจากแหล่งอ้างอิงที่ต้องการได้สบายๆ แม้กระทั้งจากอุปกรณ์อื่น แค่คุณเชื่อมต่อด้วย Huawei SuperDevice สำหรับเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของหัวเว่ย จากนั้นลองเปิดภาพขึ้นมา แล้วก็ดูดสีสักหน่อย จากนั้นคุณก็แค่สร้างสรรค์ไอเดียได้ทันที
  • Huawei FreeScript : เป็นโหมดสำหรับค้นหาด้วยการขีดเขียนข้อความลงในกล่องข้อความ เพื่อให้งานต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยคุณต้องไปเปิดใช้งานที่ การตั้งค่า - ฟีเจอร์การเข้าถึง - สไตลัส - Freescript
  • คำอธิบายประกอบ : เปิดใช้งานได้โดยนำปากกาลากที่มุมขวาหน้าจอของตัวเครื่อง แล้วนำปากกาไปวงจุดที่ต้องการ แล้วเขียน Note และบันทึกเป็นภาพหรือไฟล์ PDF ได้
  • การจับภาพขนาดเล็ก : เปิดใช้งานได้โดยนำปากกาลากที่มุมขวาหน้าจอของตัวเครื่อง เสมือนเป็นการจับภาพในจุดที่ต้องการ เพื่อบันทึกลงตัวเครื่อง เหมาะใช้งานกับฟีเจอร์ดูดสี (Cross-app Colour Capture)
  • ลูกเล่นการแตะสองครั้ง เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ อย่างรวดเร็ว -- โดยคุณต้องไปเปิดใช้งานที่ การตั้งค่า - ฟีเจอร์การเข้าถึง - สไตลัส - แตะสองครั้ง
    • สลับระหว่างหัวปากกาและยางลบ
    • สลับระหว่างอุปกรณ์เชื่อมต่ออุปกรณ์ปัจจุบันและอุปกรณ์ก่อนหน้านี้
    • เปิดชุดสี
    • เปิดเมนูทางลัดในการเขียนบันทึกหรือจับภาพขนาดเล็ก

 

Huawei Super Device

ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับการทำงานร่วมกัน เป็นการประสานการทำงาน เช่น สมาร์ทโฟนและโน๊ตบุ๊ค สามารถควบคุมได้สองอุปกรณ์เลย ส่วนการเชื่อมต่อก็ง่าย ผ่าน Control Panel แค่ลากเพื่อเชื่อมต่อ ส่งรูปภาพหรือไฟล์ได้ง่าย ซึ่งฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาส่งเสริมการใช้งานของทุกอุปกรณ์หัวเว่ยภายใต้ระบบ Huawei Ecosystem

  • ยกตัวอย่างว่าเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของ Huawei คุณสามารถใช้งานแอปฯ ที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟน แต่ควบคุมบนแท็บเล็ตได้เลย คือมันดีย์มาก แยกกันอย่างอิสระ หรือใช้ควบคุมพร้อมกันก็ทำได้ เช่น เปิดถ่ายรูปในสมาร์ทโฟน หน้าจอบนแท็บเล็ตจะโชว์กล้องให้เห็นบนหน้าจอด้วย เมื่อกดถ่าย ใช้ปากกาดึงสีมาทำกราฟิกต่อได้อีก มันไร้รอยต่อเหมือนกัน สะดวกเอามากๆ

หน้าจอใหญ่ๆ จะดูอะไรๆ ก็ฟินเต็มตา รับชมสตรีมมิ่งเสียงดังกระหึ่ม

แท็บเล็ตรุ่นดังกล่าวมีหน้าจอขนาด 11 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรท 120Hz ทำให้แสดงผลได้ลื่นไหล ไม่หน่วง เต็มทุกเฟรมทุกอรรถรส ด้วยหน้าจอประเภท OLED ความละเอียด 2560x1600 พิกเซล พร้อมมาตรฐานหน้าจอ DCI-P3 สามารถแสดงผลได้ 1.07 พันล้านสี ทั้งมีลำโพงมาตรฐาน Huawei Sound ด้วยลำโพงหกตัว แบ่งเป็นเสียงเบส 4 ตัว กับเสียงแหลม 2 ตัว

โหมดประหยัดแบตเตอรี่

โดยจะช่วยให้คุณยืดเวลาการใช้งานสมาร์ทโฟนให้นานยิ่งขึ้นไปอีก หากแบตเตอรี่ใกล้หมด ซึ่งระบบจะปิดการทำงานในส่วนของระบบที่ไม่จำเป็นออกไป อย่างไรก็ตามด้วยแพลตฟอร์ม Harmony OS 3.0 มีตัวเลือกให้คุณเปิดใช้เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ด้วย เช่น โหมดประสิทธิภาพใช้งานได้ดี แต่ประหยัดแบตเตอรี่ หรือโหมดประหยัดพลังงาน เน้นประหยัดสุดๆ เพื่อยืดเวลามากที่สุดในการใช้งาน

ฟีเจอร์การชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะ

ด้วยประสิทธิภาพความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่มากถึง 66 วัตต์ ทำให้มีสิทธิ์แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไว แต่ Hauwei ได้ออกแบบฟีเจอร์ดังกล่าวขึ้น เพื่อชะลอกระแสไฟฟ้าชาร์จลง เมื่อระดับ 80%

รองรับการใช้งานคำสั่งเสียง Huawei Assistant

แท็บเล็ตสุดสมาร์ทที่รองรับคำสั่งเสียงเต็มรูปแบบ เพื่อเริ่มใช้งานให้พูดคำว่า "Hey Celia" (เฮ้ เซเลีย) นอกจากนี้ยังมี AI ช่วยบริหารจัดการพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการแปลภาษา, การค้นหาแหล่งที่มารูปภาพพร้อมข้อมูล เป็นต้น

กล้องดิจิตอลเป็นอย่างไรบ้าง สำหรับกล้องของแท็บเล็ตรุ่นนี้ไม่ได้มีโหมดถ่ายภาพอะไรมากนัก แค่ถ่ายเบื้องต้นได้ และจับภาพมุมกว้าง พร้อมโหมดตกแต่งใบหน้าเท่านั้น

  • กล้องหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส รูรับแสง f/1.8 อีกเลนส์เป็นเลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2

Huawei

ขอขอบคุณ : Huawei Technologies (Thailand) Co., Ltd. โทร 0-2654-3622

ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ Huawei MatePad Pro 11 2022
https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=467616

แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/huawei/matepad_pro_11_(2022).htm

อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข้อมูลมือถือ

รีวิวโดย: อภิศักดิ์ อาจนันท์ ภาพโดย: สิรภพ ผิวทอง
วันที่ 9 กันยายน 2565

VIEWS

แบ่งปันบทความ

สินค้าออนไลน์