เปิดตัวและพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับสองรุ่นใหม่ที่ทุกคนต้องมี Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro มาพร้อมคำนิยาม “Make Moments Mega” ที่ให้คุณถ่ายภาพอย่างคมชัดด้วยกล้องความละเอียดสูงมากถึง 200 ล้านพิกเซล และฟีเจอร์ที่มีให้เพลิดเพลินทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลสุดเทพกับอัตรารีเฟรชเรท 120Hz-CrystalRes AMOLED-HDR10+ และ DCI-P3, ลำโพงสเตอริโอมาตรฐานเสียง Hi-Res, เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 120W HyperCharge, Harman Kardon, พื้นที่ชั้นกราฟีนขนาดใหญ่ช่วยระบายความร้อยอย่างมีประสิทธิภาพ จะเห็นได้ว่าทุกอย่างสุดหมด เป็นที่มาให้คุณเพลินทุกการใช้งาน ดังนั้นจะพามาทำความรู้จักให้มากขึ้นกับ 10 เหตุผลที่คุณจะหลงรัก Xiaomi 12T Series มาติดตามกันได้เลย
เริ่มจากกล่องกันก่อน สำหรับ Xiaomi 12T Series ใช้แพ็กเกจสีขาว ตัวหนังสือสีทอง เพิ่มความโดดเด่น แต่ละกล่องจะระบุชื่อรุ่นชัดเจน ส่วนด้านบนมุมซ้ายมีสัญลักษณ์ความละเอียดกล้องระบุไว้ เพื่อเพิ่มจุดขายและข้อแตกต่าง
สำหรับดีไซน์ตัวเครื่อง ไม่มีจุดเด่นเป็นพิเศษ พื้นผิวเป็นลักษณะสีด้าน ขนาดตัวเครื่องเท่ากัน แตกต่างกันที่น้ำหนักเล็กน้อย โดย Xiaomi 12T จะหนักกว่าเล็กน้อย
ส่วนสเปคหน้าจอมีขนาดเท่ากันทั้งสองรุ่น ตามที่เกริ่นข้างต้น แตกต่างที่ Xiaomi 12T Pro มีเทคโนโลยีหน้าจอ Dloby Vision ทำให้เหมาะแก่การรับชมคอนเทนต์สตรีมมิ่ง
หน้าจอด้านล่างมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สามารถบันทึกได้หลายนิ้วมือ เพื่อสแกนการปลดล็อคหน้าจอหรือแอปฯ และเรียกใช้งานแอปฯ ด่วนที่ต้องการ อีกทั้งมีตัวเลือกเอฟเฟ็กต์การปลดล็อคลายนิ้วมือ เพิ่มความโดดเด่นอีกด้วย
ด้านบนตัวเครื่อง Xiaomi 12T Series มีช่องลำโพง โดยรุ่น Xiaomi 12T Pro มีข้อความ Sound by harman/kardon สลักไว้ เพิ่มความเท่ พร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน กับเซนเซอร์ IR Blaster สำหรับใช้ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า
ด้านบนหน้าจอ ยังคงใช้ดีไซน์เจาะรู ถือว่าน่าเสียดาย ทำหน้าที่เป็นเลนส์กล้องเซลฟี่ ทั้งสองรุ่นมีความละเอียดเท่ากัน 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.24 โดยมีโหมดภาพบุคคล AI กับ AI เสริมความงาม พร้อมการควบคุมโบเก้และความลึก รองรับการถ่ายภาพแบบ HDR รวมถึงเซลฟี่พาโนรามา
เหนือหน้าจอเป็นลำโพงสำหรับสนทนา กับเหล่าเซนเซอร์ Proximity สำหรับปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา กับเซนเซอร์ Ambient Light แบบ 360 องศา สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ และแผงปุ่มกดให้เหมาะสมกับการใช้งาน
ด้านล่างตัวเครื่องมีช่องลำโพง, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และช่องใส่ซิมการ์ด Nano SIM แบบ Dual-Slot โดยไม่รองรับ MicroSD Card กับไม่สามารถใส่พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรได้ นอกจากแปลงสายผ่านพอร์ต Type-C
ตัวเครื่องฝั่งขวามีปุ่มควบคุม แบ่งเป็น ปุ่ม Power สำหรับล็อค/ปลดล็อค/เปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มเพิ่มเสียง/ลดเสียง โดยสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชั่นกดปุ่ม Power ติดต่อกันสองครั้งเพื่อเรียกใช้งานถ่ายภาพด่วน หรือกดปุ่ม Power พร้อมปุ่มลดเสียง เพื่อแคปหน้าจอ ตามการตั้งค่า
ด้านหลังตัวเครื่องมีเลนส์กล้องทั้งหมด 3 เลนส์ เหมือนกัน แตกต่างที่ Xiaomi 12T มีเลนส์หลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล กับ Xiaomi 12T Pro ความละเอียดมากถึง 200 ล้านพิกเซล ส่วนโมดูลกล้องที่ไม่ได้เรียนเนียนกับตัวเครื่อง ทำให้เวลาวางอาจต้องระมัดระวังการกระแทก หรือขูดขีด
อุปกรณ์ภายในกล่องของ Xiaomi 12T
อุปกรณ์ภายในกล่องของ Xiaomi 12T Pro
สรุปสเปค Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro แตกต่างกันอย่างไร
Xiaomi 12T | Xiaomi 12T Pro | |
ระบบปฏิบัติการ | MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 12 | MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 12 |
หน้าจอ | AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712x1220 พิกเซล อัตรารีเฟรชเรท 120Hz/480Hz | AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712x1220 พิกเซล อัตรารีเฟรชเรท 120Hz/480Hz |
หน่วยประมวลผล | Dimensity 8100-Ultra | Snapdragon 8+ Gen 1 |
GPU | Mali-G610 MC6 | Adreno 730 |
RAM | 8GB LPDDR5 | 12GB LPDDR5 |
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน | 256GB UFS 3.1 | 256GB UFS 3.1 |
MicroSD Card | ไม่รองรับ | ไม่รองรับ |
ระบบเชื่อมต่อ | 5G, 4G, WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.3, GPS, Glonass, USB OTG, NFC, IR Blaster | 5G, 4G, WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.3, GPS, Glonass, USB OTG, NFC, IR Blaster |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB Type-C | USB Type-C |
ช่องเสียบหูฟัง | ไม่รองรับ | ไม่รองรับ |
แบตเตอรี่ | 5000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 120 วัตต์ | 5000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 120 วัตต์ |
10 จุดเด่น Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro ที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง
1. Mega สมชื่อ เพราะทุกฟีเจอร์และสเปคนั้น ใหญ่สมฉายา
สำหรับสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมีชิปเซ็ตประมวลผลรุ่นท็อป แต่แตกต่างกัน รุ่นเล็ก Xiaomi 12T ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Dimensity 8100-Ultra ส่วนรุ่นพี่ Xiaomi 12T Pro เป็นชิปเซ็ตขุมพลังมังกร Snapdragon 8+ Gen 1 พร้อมเทคโนโลยี RAM LPDDR5 กับเทคโนโลยีพื้นที่เก็บข้อมูล UFS 3.1 เรียกได้ว่าไม่ว่าจะใช้งานแบบไหน การประมวลผลรวดเร็วได้ดั่งใจแน่นอน
2. พื้นที่ระบายความร้อนกว้างขึ้น
ด้วยประสิทธิภาพจัดเต็มขนาดนี้ แน่นอนต้องรองรับการประมวลผลหนักๆ หนีไม่พ้นอุณหภูมิที่ร้อน อาจส่งผลให้การทำงานหยุดชะงักลง โดยคู่หู Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro มีพื้นที่ระบายความร้อนที่กว้างขึ้นกว่าเดิม 65% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และกระจายอยู่ภายในตัวเครื่องกินพื้นที่ประมาณ 27% ในแต่ละจุดสำคัญ นั่นหมายความว่าการประมวลผลจะเร็วแรงมีประสิทธิภาพเหมือนเดิม
3. หน้าจอที่ออกแบบมาเพื่อการรับชมคอนเทนต์และเล่นเกม
คู่หู Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro มีเทคโนโลยีหน้าจอ CrystalRes AMOLED ที่มีการปรับแสงและสีให้ละเอียดมากขึ้นมากกว่า FullHD+ ที่ความละเอียด 1220p กับอัตราคอนทราสต์ 5,000,000:1 กับความหนาแน่นต่อพิกเซล 446ppi ทำให้แต่ละพิกเซลแสดงผลแม่นยำ รวมๆ แล้วแสดงผลสีสันมากกว่า 68 พันล้านสี ทั้งมีมาตรฐานสี DCI-P3 กับ HDR10+ เรียกได้ว่าการเล่นเกมและรับชมคอนเทนต์เต็มอิ่มในทุกเฟรมภาพ ทว่า Xiaomi 12T Pro จะโดดเด่นเพราะมีเทคโนโลยี Dolby Vision
Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro มีสเปคหน้าจอเหมือนกัน
4. การแสดงผลหน้าจอที่ลื่นไหลและทัชติดทุกการใช้งาน
สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz เลือกปรับได้ตามลักษณะการใช้งาน 30Hz/60Hz/90Hz/120Hz นอกจากนี้มีอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 480Hz สำหรับจุดเด่นของหน้าจอเพิ่มเติม คือ รองรับการใช้งานโหมดการแจ้ง, โหมดปรับแสงสีฟ้า, สำหรับความสว่างแสดงได้สูงสุด 500nits กับ 900nits เลือกปรับได้ 4096 ระดับ อีกทั้งมีเซนเซอร์ตรวจจับแสง 360 องศา
5. มั่นใจในการชาร์จแบตเตอรี่ ปลอดภัยกว่าเดิม
แน่นอนว่าด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 120 วัตต์ จึงต้องมีการออกแบบระบบความปลอดภัยด้วยเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิความร้อน 9 ตัว ตั้งแต่อะแดปเตอร์จนถึงพอร์ตชาร์จและแบตเตอรี่ แม้จะชาร์จเร็วรับประกันการชาร์จ 800 รอบ
6. ไม่ต้องซื้อ พี่แถมให้!
ที่ไม่ต้องซื้อไม่ได้หมายถึงคู่หู Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro แต่ฟรีแค่ที่ชาร์จแบตเตอรี่นะ โดยทาง Xiaomi แถมไปเลยในกล่องอะแดปเตอร์ชาร์จแบตฯ 120 วัตต์
7. ลำโพงดัง เสียงแน่น เพลินทุกสเต็ปการใช้งาน
สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยลำโพงสเตอริโอเพื่อความสมจริงยิ่งขึ้น ทำให้สนุกกับภาพยนตร์และเสียงในระดับที่ลึกยิ่งขึ้นด้วยเสียงคุณภาพสูงที่นุ่มนวล Hi-Res, Hi-Res Audio และเทคโนโลยีเสียง Dolby ATMOS แต่ที่แตกต่างคือรุ่นพี่ Xiaomi 12T Pro มีการออกแบบมาตรฐานเสียงด้วย Harman Kardon
8. ระบบเชื่อมต่อเต็มรูปแบบ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ใช้งาน
สำหรับสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นรองรับการเชื่อมต่อ 5G, 4G LTE, WiFi 6, WiFi 2.4GHz/5GHz, WiFi 2x2 MIMO, WiFi Direct, Bluetooth 5.3 พร้อม AAC/LDAC/LHDC, GPS, A-GNSS, NFC, IR Blaster
9. มอเตอร์การสั่นลิเนียร์แกน X : เป็นคุณสมบัติการสั่นที่ดีกว่าแกน Z เพราะจะสมจริงเป็นธรรมชาติ และรับรู้ได้ จึงเหมาะแก่การใช้งานทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะการเล่นเกม รับรองเพลิน
10. ประสิทธิภาพกล้องของทั้งสองรุ่นเป็นอย่างไร
เริ่มจากรุ่นเล็กกันก่อน แต่ผมไม่เล็กนะครับ สำหรับ Xiaomi 12T มีเลนส์กล้องหลัง 3 ตัว (Triple-Camera) ประกอบไปด้วย
ต่อกันด้วยรุ่นพี่กันบ้าง Xiaomi 12T Pro เป็นกล้องพลังสูง ความละเอียดมากถึง 200 ล้านพิกเซล
ลองดูสิ แล้วคุณจะหลงรักกับโหมดถ่ายภาพที่น่าตื่นตา สวยงาม น่าสนใจ!
ภาพตัวอย่าง Xiaomi 12T Pro
ภาพตัวอย่าง Xiaomi 12T
โหมดการถ่ายภาพวิดีโอที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง
สรุปฟีเจอร์เด่นที่คุณสามารถร่ายเวทมนตร์สร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอได้อย่างใจนึก
ราคาวางจำหน่ายและเฉดสีตัวเครื่อง
Xiaomi 12T วางจำหน่ายเป็น 2 เฉดสี ให้เลือก ได้แก่ Blue และ Black
Xiaomi 12T Pro มีสองเฉดสีให้เลือก ได้แก่ Blue และ Black
สรุปข้อแตกต่างสำคัญ ว่าทำไม Xiaomi 12T Pro มีราคาแพงกว่า 8,000 บาท
อัปเดตระบบปฏิบัติการด้วยกันนานๆ : ทาง Xiaomi คอนเฟิร์มว่าทั้งสองรุ่นจะการันตีการอัปเดต Android ทั้งหมด 3 เวอร์ชั่น และแพทช์รักษาความปลอดภัยอีก 4 ปี เรียกได้ว่าใช้งานนานๆ กันเลยทีเดียว
ฟีเจอร์ Game Turbo : รีดประสิทธิภาพการเล่นเกมถึงจุดสูงสุด ระบายความร้อนได้ดี เครื่องไม่หน่วง รวมถึงจัดการการแจ้งเตือนไม่ให้มารบกวนระหว่างเล่นเกมอีกด้วย จึงเป็นจุดศูนย์กลางที่เกี่ยวกับเกมโดยเฉพาะ ประเด็นคือ ไม่ต้องไปเลือกตั้งค่าเองให้งง ให้วุ่นวาย แค่เปิดฟีเจอร์ Game Turbo ให้ เดี๋ยวตัวเครื่องจะจัดการให้คุณเองนะ แค่เล่นก็พอ เจ๋งใช่ไหมล่ะ!
ธีม : อีกหนึ่งทางเลือกที่เพิ่มความหลากหลายให้กับสมาร์ทโฟนของคุณ โดยเลือกธีมที่ต้องการได้เลย จากสโตร์อย่างเป็นทางการของ Xiaomi ทำให้คุณมั่นใจได้ในความปลอดภัย อีกทั้งมีตัวเลือกหลากหลายแบบ อาทิ ธีม, วอลเปเปอร์, เมนูการใช้งาน เป็นต้น
แอปพลิเคชั่นโคลน : เลือกใช้ได้สองบัญชี เพื่อสลับเปลี่ยนระหว่าง User ส่วนตัว หรือ User สำหรับการทำงานได้ง่าย ๆ ในตัวเครื่อง ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นอื่นเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก
ฟีเจอร์ล็อกแอปพลิเคชั่นและซ่อนแอปพลิเคชั่น : ป้องกันข้อมูลส่วนตัวของคุณไม่ให้รั่วไหล ด้วยฟีเจอร์การล็อกแอปพลิเคชั่น โดยสามารถตั้งได้แบบรหัสผ่าน, เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หรือระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ซ่อนแอปพลิเคชั่น เรียกได้ว่าไม่มีใครรู้เลย แค่คุณและคุณเท่านั้นที่รู้ล่ะ!
หน้าจอหลักและหน้าเมนูการใช้งาน
การแจ้งเตือนและเมนูทางลัดการใช้งานด่วน
เรียกใช้งานด้วยการปัดลงมาจากหน้าจอด้านบน การปัดครั้งแรกจะเป็นเมนูที่จำเป็นต่อการใช้งานเท่านั้น เช่น WiFi, Bluetooth, ไฟฉาย, โหมดประหยัดพลังงาน เป็นต้น หากเลื่อนปัดสองครั้งจะรวมเมนูทางลัดด่วนทั้งหมด และคุณก็เลือกได้ว่าจะให้เมนูใดอยู่ตรงไหน แค่กดปุ่มแก้ไขที่ไอคอนดินสอบริเวณมุมขวาบน นอกจากนี้การแจ้งเตือนก็มีการแบ่งแยกกันในลักษณะการใช้งาน ซึ่งถ้าต้องการดูแจ้งเตือนให้ปัดฝั่งซ้ายและใช้นิ้วเลื่อนลงมา ขณะที่เข้าเมนูทางลัดด่วนให้ปัดฝั่งขวาและใช้นิ้วเลื่อนลงมาเช่นกัน
การแสดงผล
เมนูสำหรับตั้งค่าการแสดงผลของหน้าจอ โดยสามารถปรับระดับความสว่าง, สี หรือเลือกโหมดการใช้งานได้ อาทิ โหมดอ่านทำให้โทนสีอุ่นขึ้น เพื่อความสบายตาในการใช้งาน และตั้งเวลาได้ด้วย นอกจากนี้ยังเปลี่ยนขนาดตัวอักษรภายในเครื่องได้ ถ้าใครต้องการตัวเล็ก ตัวใหญ่ก็เปลี่ยนในเมนูขนาดอักษรได้เลย รวมถึงการเปิดใช้งานแตะหน้าจอสองครั้งติดกันเพื่อปลุกหน้าจอ หรือเปิดใช้งานโหมดแสงทึบ, โหมดฟิลเตอร์แสงสีฟ้า, การซูมหน้าจอ เป็นต้น
การตั้งค่าปุ่มทางลัด
สะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น เริ่มต้นใช้งาน, เปิดใช้งานกล้องด่วน, การเลือกวิธีแคปหน้าจอ เป็นต้น
ฟีเจอร์สร้าง RAM เสมือนจริง
อย่างที่เกริ่นข้างต้น หากการใช้งานใดๆ ก็ตาม รู้สึกหน่วง ไม่ลื่นไหล สามารถเปิดการใช้งานฟีเจอร์นี้ เพื่อให้ระบบสร้าง RAM เพิ่มขึ้นมา ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ ไม่ดีเลย์ช้าแล้ว ซึ่งเพิ่มได้สูงสุด 3GB เท่านั้น ทำให้เมื่อ Xiaomi 12T เพิ่มจะมี RAM สูงสุด 11GB ส่วนรุ่นพี่ Xiaomi 12T Pro มี RAM มากถึง 15GB
ระบบเสียงที่ปรับแต่งได้หลากหลาย
สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นสามารถเพิ่มประสบการณ์ความบันเทิงของคุณอย่างมีคุณภาพเสียงทุกท่วงทำนอง และหากคุณยังไม่ชื่นชอบกับจังหวะก็สามารถปรับแต่งได้ด้วยตนเอง
การดูแลอุปกรณ์
โดยระบบจะทำการบริหารจัดการทรัพยากรระบบสำคัญๆ เพื่อให้การทำงานของคุณไหลลื่นและเป็นปกติ จะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อการใช้งานเป็นเวลานาน โดยที่ไม่ได้ทำการลบข้อมูลต่างๆ เลย
ขอขอบคุณ : Xiaomi Thailand
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : Xiaomi 12T
https://www.siamphone.com/spec/xiaomi/12t.htm
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : Xiaomi 12T Pro
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท