เตรียมสร้างคอนเทนด์แบบสุดทาง ด้วย Infinix Zero 20 สมาร์ทโฟนกล้องหน้า 60MP พร้อมกันสั่น OIS ในตัว เรียกว่าเป็นอีกสมาร์ทโฟนที่สายคอนเทนด์ และ Vlog ไม่ควรพลาด แต่ความดุเดือดของ Infinix Zero 20 ไม่ได้มีเพียงกล้องหน้าเท่านั้น เพราะกล้องหลังก็อัดแน่นมา 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 108MP ถูกขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Mediatek Helio G99 และหน้าจอแบบชัดๆ ลื่นๆ ด้วยพาแนล AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 90Hz พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,500mAh สนับสนุนการชาร์จเร็วผ่านสาย 45W โดยสเปคมาตึงขนาดนี้ แต่ราคากลับไม่ตึง เพราะเปิดราคาในไทยเพียง 8,999 บาทเท่านั้น
Shopee : https://shope.ee/Ay88nZjov
ขนาดตัวเครื่องของ Infinix Zero 20 อยู่ที่ 164.43x76.66x7.98 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 196 กรัม ซึ่งตัวเครื่องจะมีดีไซน์แบบขอบแบบ Metal-frame Tech สัมผัสดูแล้วก็ดูถนัดมือดี และให้ความแข็งแกร่งพอสมควร
หน้าจอแสดงผล AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080 พิกเซล) อัตรา Refresh Rate สูงสุด 90Hz และใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบตัว U เหนือหน้าจอแสดงผล ในรอยแหว่งมีกล้องหน้า ความละเอียด 60MP + กันสั่น OIS ที่ขอบหน้าจอด้านบนเป็นลำโพงเสียง
ล่างหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มใช้งานใดๆ
ข้างซ้ายตัวเครื่องมีช่องใส่ถาดซิมกาด โดยถาดเป็นแบบ 3 ช่อง รองรับ Nano SIM 2 ช่อง และ MicroSD Card 1 ช่อง
ข้างขวาตัวเครื่อง มีปุ่มใช้งานพื้นฐาน โดยปุ่มยาวเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง ส่วนปุ่มเล็กเป็นปุ่มเพาเวอร์ และเป็นที่สแกนลายนิ้วมือในตัว
ส่วนบนตัวเครื่อง มีลำโพงเสียงอยู่ทางซ้าย และรูไมโครโฟนอยู่ทางขวา
ส่วนใต้ตัวเครื่อง ทางซ้ายเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ถัดมาทางขวาเป็นรูไมโครโฟน ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C และขวาสุดเป็นลำโพงเสียงอีกตัว
พลิกมาที่ฝาหลัง จะพบกับโมดูลกล้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ นูนขึ้นมาทางมุมบนซ้าย บนนั้นมีกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วย กล้องหลัก ความละเอียด 108MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 13MP และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP
อุปกรณ์ภายในกล่อง
ดีไซน์สวย ดูพรีเมี่ยมเกินราคา
ดีไซน์ตัวเครื่องของ Infinix Zero 20 ถือว่าทำออกมาได้พรีเมี่ยมเกินราคา ด้วยดีไซน์แบบขอบเรียบ ซึ่งเป็นดีไซน์สมาร์ทโฟนประจำปี 2022 และยังมีฝาหลังที่เป็นแบบสีด้าน ช่วยให้เกิดรอยนิ้วมือได้ยาก พร้อมทำให้ดูเรียบหรูดูแพง ส่วนความแข็งแกร่งก็อยู่ในระดับหนึ่ง เพราะใช้วัสดุแบบ Metal-frame Tech โดยเมื่อจับใช้งานก็ไม่ดูเปราะบางเหมือนพลาสติก
ชิปเซ็ต Helio G99 ใช้งานพื้นฐานกำลังลื่นดี
MediaTek Helio G99 ขนาด 6 นาโนเมตร เป็นชิปเซ็ตที่ขับเคลื่อนให้กับ Infinix Zero 20 ว่ากันตามตรงคือ ชิปเซ็ต MediaTek Helio G99 เป็นชิปเซ็ตระดับกลางที่ไม่แรงมาก เล่นเกมที่ต้องการสเปคสูงๆ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปถือว่าผ่าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแอพฯ สังคมออนไลน์, ตอบแชทต่างๆ ดูหนัง ฟังเพลง ก็ถือว่าใช้งานได้แบบสบายๆ และด้วยการที่เป็นชิปเซ็ตแบบ 6 นาโนเมตร ก็ทำให้ใช้พลังงานไม่มากนัก แถมยังมี RAM 8GB + เพิ่มได้อีกสูงสุด 5GB ทำให้การใช้งานหลายแอพฯ พร้อมกันค่อนข้างลื่นจัดๆ
ทดสอบการเล่นเกม และการคุมความร้อนด้วย VC Liquid
อย่างที่บอกไปด้านบน การเล่นเกมภาพสวยๆ ต้องการสเปคแรงๆ อาจทำไม่ได้ ซึ่งในการทดสอบกับเกมอย่าง FIFA Mobile สามารถปรับกราฟฟิกได้สูงสุดที่ระดับกลาง และเฟรมเรต 30fps ก็ยังสามารถเล่นได้ลื่นๆ ส่วนอีกเกมอย่าง PUBG Mobile ก็ปรับไม่ได้สุด ปรับกราฟฟิกได้ที่ HD และเฟรมเรตระดับสูง แต่การปรับเท่านั้นก็สามารถเล่นได้ลื่นๆ แล้ว ส่วนเรื่องของการระบายความร้อน ภายในจะมีระบบ VC Liquid ในการเล่นเกมเป็นระยะเวลานานๆ เครื่องก็ไม่ร้อนมากจนเกินไป
หน้าจอแสดงผล AMOLED อัตรา Refresh Rate 90Hz
หน้าจอแสดงผล เป็นอีกไฮไลท์เด่นของ Infinix Zero 20 เพราะได้หน้าจอพาแนล AMOLED ในราคาไม่ถึง 9,000 บาท เรียกว่าคุ้มโดนใจ โดยการแสดงสีสดของหน้าจอทำได้ดีพอสมควร นอกจากนี้ยังมีความกว้างที่ 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ พร้อมกับอัตรา Refresh Rate สูงสุดที่ 90Hz และมีระบบปรับอัตรา Refresh Rate ลงมา 60Hz ให้แบบอัตโนมัติ ตามความจำเป็นในการใช้งาน เพื่อเป็นการประหยัดแบตเตอรี่ในตัว นอกจากนี้หน้าจอยังได้มาตรฐาน TÜV Rheinland ในเรื่องของการถนอมสายตา หากเปิดใช้โหมดถนอมสายตา ระบบจะกรองแสงสีฟ้าออกได้อย่างยอดเยี่ยม
ลำโพงคู่ พร้อมระบบเสียง DTS
ระบบเสียงก็ยังได้ลำโพงคู่มาด้วย ซึ่งเป็นระบบเสียงแบบ Stereo ทำให้การรับชมคอนเทนด์ภาพยนต์ หรือการเล่นเกม มีอรรถรส และมีมิติของเสียงมากขึ้น ทั้งนี้ลำโพงยังรองรับระบบเสียงแบบ DTS ซึ่งเป็นเสียง 3 มิติสมจริงในการดูหนัง ถือว่าเรื่องของระบบเสียงจัดมาเต็มทีเดียว ไม่พอแค่นั้นยังมีพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร รองรับให้ใช้งาน ทำให้เป็นเรื่องง่ายในการหาหูฟังมาใช้
แบตเตอรี่ 4,500mAh ชาร์จเร็ว 45W ผ่านสาย
ขนาดของแบตเตอรี่ก็มีขนาดที่ 4,500mAh โดยทดสอบเล่นเกม FIFA Mobile และ PUBG Mobile ไปชั่วโมงกว่าๆ แบตเตอรี่ลดลงมา 15% เท่านั้น ส่วนการชาร์จผ่านสายก็รองรับการชาร์จเร็วถึง 45W ซึ่งอะแดปเตอร์มีมาให้ทันทีในกล่อง ซึ่งการชาร์จด้วยระยะเวลา 30 นาที จากแบตเตอรี่ 20% เพิ่มขึ้นมาถึง 80% เลยทีเดียว
ทดสอบกล้องเซลฟี่ 60MP มีกันสั่น OIS !!
ไฮไลท์หลักแบบไม่เหมือนใครของ Infinix Zero 20 จะอยู่ที่กล้องหน้าตรงนี้เลย เพราะกล้องหน้าจะมีความละเอียดสูงถึง 60MP พร้อมระบบออโต้โฟกัสติดตามใบหน้าให้ชัดอยู่ตลอด และความน่าสนใจคือการใส่ระบบกันสั่น OIS ซึ่งกล้องหน้าจัดมา เอาใจสาย Vlog สายคอนเทนด์แบบเต็มที่ไปเลย
ถ่ายวิดีโอพร้อมกันสั่น OIS
การถ่ายทำวิดีโอจากกล้องหน้า ถือว่าเป็นฟังก์ชั่นที่น่าใช้งานมากที่สุด ด้วยความละเอียดของกล้องสูงถึง 60MP พร้อมระบบออโต้โฟกัส ที่จะโฟกัสใบหน้าให้ชัดอยู่ตลอด นอกจากนี้ยังมีระบบกันสั่นแบบ OIS ทำให้การสร้างคอนเทนด์, เดินไลฟ์สตรีม หรือการทำ Vlog เป็นไปได้แบบราบรื่น แต่จะสามารถปรับความละเอียดได้สูงสุดที่ 1080p 30fps ถึงจะเปิดการกันสั่นไหวได้
ถ่ายเซลฟี่ และการปรับแต่งหน้าสวย
สามารถใช้ Infinix Zero 20 ถ่ายเซลฟี่ได้อย่างมั่นใจทุกสถานการณ์ เพราะมี AI ในการตรวจจับซีน ผสมกับความละเอียดสูง 60MP ทำให้ภาพออกมาสวยคมชัด และยังถ่ายเซลฟี่ในโหมดกลางคืนได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเพิ่มความมั่นใจไปอีกระดับ ด้วยโหมดปรับแต่งหน้าสวย ที่มีทั้ง AI ปรับแต่งให้แบบอัตโนัมัติ และเลือกปรับเป็นส่วนๆ ได้เอง ทั้ง ความเนียน, สีผิว, หน้าเรียว, และดวงตา
ภาพบุคคล
การใช้งานโหมดภาพบุคคลสามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง โดยกล้องหน้าจะรองรับการปรับรูรับแสง ทำให้เลือกความเบลอมากน้อยได้เอง ส่วนการเบลอก็ถือว่าทำออกมาได้ดี มีการเบลอตัดกับส่วนหน้าได้สวยงาม
ประสิทธิภาพของกล้องหลัง 3 ตัว 108MP
กล้องหลังก็โดดเด่นไม่แพ้กล้องหน้า โดยมีการติดตั้งมา 3 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องหลัก ความละเอียด 108MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 13MP และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP ทั้งนี้ยังมีไฟแฟลชแบบ Dual Flash สามารถบะนทึกวิดีโอได้สูงสุดที่ 2K 30fps และสามารถซูมแบบ Digital ได้สูงสุดถึง 10 เท่า
โหมด 108MP
ด้วยกล้องหลักที่มีความละเอียด 108MP ก็ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเสียหน่อย สามารถเลือกใช้งาน 108MP ได้ด้วยการกดที่เมนูด้านบน เมื่อกดชัตเตอร์ภาพที่ออกมาจะมีความละเอียดสูงถึง 12000x9000 พิกเซล เรียกว่าชัดในทุกๆ ส่วนของภาพ สามารถครอปได้สบายๆ
AI จดจำซีน ปรับแต่งภาพให้แบบอัตโนมัติ
การถ่ายภาพปกติก็เป็นเรื่องง่ายๆ เพียงกดชัตเตอร์ เพราะในโหมด AI Cam จะมีการทำงานร่วมกับ AI ในการจดจำซีน เพราะให้การถ่ายภาพในวิวต่างๆ ออกมาสวยงาม
มุมกว้าง
โหมดมุมกว้าง จากกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 13MP ถือว่าสวยงามมาก ที่สำคัญมุมกว้างยังไม่ทำให้ภาพเบี้ยว และยังทำงานร่วมกับระบบ AI จดจำซีน และโหมดกลางคืน ช่วยให้ภาพมุมกว้างออกมาอย่างสวยงาม
โหมดกลางคืน
โหมดกลางคืน ก็มีการถ่ายออกมาได้ดีทีเดียว ให้ความสวยงามในตอนกลางคืนในระดับดี และเปิดเผยมุมที่มองไม่เห็นได้อย่างสวยงาม รวมถึงแสงสีก็ได้ภาพออกมาที่สมบูรณ์ ทั้งนี้ยังใช้งานร่วมกับโหมดอื่นๆ ได้หลากหลาย เช่นมุมกว้าง และเซลฟี่ตอนกลางคืน
สเปคของ Infinix Zero 20
ระบบปฏิบัติการ
ระบบปฏิบัติการจะใช้เป็น XOS 12 บนพื้นฐาน Android 12 ซึ่งมีทั้ง UX และ UI ที่ใช้งานง่ายๆ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอย่างลงตัว นอกจากนี้ระบบยังดูลื่นรวดเร็วพอสมควร ส่วนแอพฯ ที่ติดตั้งมาจากโรงงานยังมีติดตั้งมาเยอะอยู่ และไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไหร่
หน้าจอหลัก
หน้าจอหลัก เริ่มต้นมาจะมีทั้งแอพฯ ที่อยู่ในหน้าจอหลัก และถาดแอพฯ ทั้งหมด พร้อมทั้งไอคอนแอพฯ รูปทรงสี่เหลี่ยมขอบโค้งดูน่าใช้งาน ส่วนภาพพื้นหลังก็มีให้เลือกทั้งแบบนิ่ง และเคลื่อนไหว โดยทั้งหมดสามารถไปปรับแต่งได้ที่ การตั้งค่า > การปรับตั้งค่าส่วนบุคคล
การนำทางระบบ
ปุ่มการน้ำทางในช่วงเริ่มต้น จะเป็นแบบท่าทาง Gesture หากผู้ใช้ต้องการเปลี่ยนไปเป็น 3 ปุ่มนำทางแบบคลาสสิก ก็ยังทำได้ โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > ระบบ > การนำทาง
Smart Panel
Smart Panel คือฟังก์ชั่นถาดที่ขอบหน้าจอ สามารถเปิดใช้งานไดเตลอดเวลา เพียงเลื่อนขอบหน้าจอทางซ้าย หรือขวาเข้ามาด้านใน แล้วค้างเอาไว้ ถาด Smart Panel ก็จะโผล่ออกมา ในนั้นจะมีแอพฯ และเครื่องมือใช้งานด่วน
ปรับอัตรา Refresh Rate หน้าจอ
หน้าจอ Refresh Rate สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็น 90Hz หรือ 60Hz ตลอดเวลา และปรับให้ระบบปรับให้แบบอัตโนมัติก็ได้เช่นกัน โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > การแสดงผลและความสว่าง > อัตรารีเฟรชหน้าจอ
Virtual RAM + เพิ่ม RAM ได้สูงสุดอีก 5GB
ใครว่า RAM 8GB ยังไม่จุใจ ทาง Infinix Zero 20 ก็มีระบบเพิ่ม RAM มาให้อีก เพื่อเพิ่มความลื่นในการใช้งาน โดยเพิ่มได้สูงสุดถึง 5GB เพียงเข้าไปที่ การตั้งค่า > ฟังก์ชั่นพิเศษ > การผสานหน่วยความจำ
โหมดมืด
โหมดมืดจะเป็นการเปลี่ยนธีมให้เป็นสีดำ และใช้ตัวหนังสือสีขาว เพื่อง่ายต่อการใข้งาน และไม่แสบตาในที่แสงน้อย แถมเป็นการประหยัดแบตเตอรี่ได้อีกทาง เพราะพาแนลหน้าจอเป็นแบบ AMOLED สามารถไปปรับเป็นโหมดมืดได้ที่ การตั้งค่า > การแสดงผลและความสว่าง > ธีมมืด
Always-On Display
ฟังก์ชั่น Always-On Display ก็น่าใช้งาน เพราะหากมีการพัดหน้าจอ ก็จะมีข้อมูลสำคัญเช่น วัน, เวลา, เปอร์เซ็นแบตเตอรี่, และการแจ้งเตือน โดยไม่ต้องปล็ดล็อกเครื่องมาดูข้อมูลเหล่านี้ สามารถไปเปิดใช้งาน และเลือกรูปแบบได้ที่ การตั้งค่า > การปรับแต่งส่วนบุคคล > เปิดการแสดงผลเสมอ
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
รีวิวโทรศัพท์มือถือ Infinix Zero 20
ขอขอบคุณ : Infinix Thailand
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://www.siamphone.com/spec/infinix/zero_20.htm
จอ OLED 10-bit
1188 x 2790 พิกเซล
กล้องหน้า 16MP
Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core
Android 13
RAM 8 GB
ROM 256 GB
4,310 mAh
ชาร์จไว 33W
nubia Flip สมาร์ทโฟน หน้าจอ 6.9 นิ้ว Snapdragon 7 Gen 1 Octa Core ราคา 19,990 บาท