ไปเที่ยวกันนะ! รวม 17 เทศกาลจากทั่วโลก พร้อมไปรู้จักถึงความหมายของแต่ละเทศกาล ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร?

สำหรับเทศกาลนั้นถือเป็นไฮไลท์อย่างหนึ่ง ที่คอยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างแดนให้มาพักผ่อนภายในประเทศของเรา ซึ่งถ้าเป็นประเทศไทยแน่นอนว่าต้องเป็นเทศกาลสงกรานต์ หรือเทศกาลลอยกระทง แต่ถ้าของต่างประเทศละ มันจะมีเทศกาลใดบ้างที่น่าสนใจ และก็เชื่อได้ว่าหลายคนคงเคยสงสัยกันว่าเทศกาลของแต่ละประเทศที่เกิดขึ้นนั้นมีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นมาดูกันว่าจากทั่วทุกมุมโลก จะมีประเทศใดบ้างที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก..?

1. Holi Color Festival (อินเดีย) สำหรับเทศกาลดังกล่าวนิยมเรียกกันในชื่อ "เทศกาลสาดสี" ซึ่งสีที่นำมาสาดนั้นเป็นแบบผง บ้างก็นำเอามาผสมกับนํ้า โดยสีที่นำมาสาดกันจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะเป็นสีจากธรรมชาติจำพวกเครื่องเทศ, ดอกไม้, พืช เป็นต้น ด้วยความเชื่อว่าถ้าหากดูแลร่างกายจากธรรมชาติ ร่างกายก็จะแข็งแรงตามไปด้วย อีกทั้งผู้คนในอินเดียถูกปลูกฝังให้มองเห็นธรรมชาติเป็นเรื่องสำคัญ  จึงปรับการดำเนินชีวิตเพื่อเข้าใกล้กับธรรมชาติมากที่สุด

โดยเทศกาลสาดสีจัดขึ้นในเดือนมีนาคมของทุกปี ซึ่งเวลาของการเล่นสาดสีจะเล่นกันในช่วงเช้า ถึงเที่ยง และพอถึงช่วงเย็นก็จะมาพบปะสังสรรค์กันอีกครั้งหนึ่ง มอบของขวัญให้กันและกัน อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลแห่งความรัก และมิตรภาพเลยทีเดียว

2. Albuquerque International Balloon Fiesta (สหรัฐอเมริกา) เทศกาลบอลลูนนานาชาติมีจุดเริ่มต้นมาจากปีค.ศ. 1972 สำหรับการฉลองครบรอบการจัดตั้ง 50 ปีสถานีวิทยุ 707 KOB และก็เริ่มเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นสถานที่แข่งขันการชิงแชมป์บอลลูนระดับโลกภายในปีถัดมา ซึ่งเทศกาลดังกล่าวก็สามารถทำให้นักท่องเที่ยวตื่นเต้นได้อยู่ตลอดกับบอลลูนหลากหลายรูปแบบที่ได้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้านั่นเอง

3. The Carnival in Rio de Janeiro (บราซิล) ถือได้ว่าเป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงระดับโลก นักท่องเที่ยวจากต่างแดนมักพามาดูการละเล่น, ศิลปะ, การแสดงต่างๆ ตลอดที่จัดงาน โดยเทศกาลนี้มีอารยธรรมมาอย่างยาวนาน ซึ่งถูกจัดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปีค.ศ. 1723 หรือพ.ศ. 2266 เป็นระยะเวลากว่า 292 ปีเลยทีเดียว

4. Beryeong Mud Festival (เกาหลีใต้) เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลสำหรับคนที่สนใจมีสุขภาพผิวดีอย่างแน่นอน ซึ่งโคลนเหล่านี้ได้มีนักวิจัยค้นพบว่ามีแร่ธาตุมากมายเป็นส่วนประกอบ จึงได้เริ่มนิยมนำมาทำเครื่องสำอางกันมากขึ้น และเพื่อเป็นการโฆษณาผลิตภัณฑ์ทั้งหลาย ผู้คนภายในเมืองก็จัดงานเทศกาลโคลนขึ้นภายในปีค.ศ. 1998 ซึ่งตั้งแต่นั้นมาก็เป็นที่นิยมจากคนทั่วโลก

5. Baby-Jumping Festival หรือประเพณีกระโดดข้ามเด็กทารก (ประเทศสเปน) มีจุดเริ่มต้นมาจากปีค.ศ. 1620 หรือพ.ศ. 2163 โดยถูกจัดขึ้นเพื่อป้องกันเด็กทารกให้พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ ภยันอันตรายต่างๆ  รวมถึงกรรมเก่าที่ได้สร้างมาไว้แต่ก่อน เรียกได้ว่าเป็นประเพณีเก่าแก่ ซึ่งมีระยะเวลามากว่า 395 ปี

6. The International Highline Meeting Festival, Monte Piana (อิตาลี) ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้หายง่วงหรือเปล่า เมื่อได้นอนบนเทือกเขาแบบนี้ ซึ่งผู้เข้าร่วมงานต้องนอนบนเปลจากความสูงบนพื้นดิน 100 ฟุต และนอกจากกิจกรรมนอนเปลก็ยังมีการทำอาหาร, เครื่องดื่ม, ดนตรี หรือแม้แต่โดดร่ม เรียกได้ว่าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความชิลอยากลืมไปแวะเวียนกับเทศกาลดังกล่าว

7. Els Enfarinats Festival Celebrated With Flour Fight In Ibi หรือเทศกาลสาดแป้ง หรือไข่ (สเปน) เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างความสนุก รวมถึงความเหนียวเหนอะหนะจากไข่ไม่น้อย โดยกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเลยของประเทศสเปน

เพราะคนที่มาร่วมงานต้องสวมเครื่องแบบทหาร และทำเหมือนเป็นเจ้าของเมือง โดยจะปกครองแบบไร้กฏหมาย ซึ่งถ้าหากใครทำผิด ก็ลงโทษโดยการปาแป้ง ปาไข่ใส่กัน นอกจากนี้หากใครก็ตามที่ได้ปาไข่ชนะกรรมการเมือง จะได้ออกกฏหมายเป็นของตนเอง และสามารถบังคับใช้ได้ 1 วัน ว่าแต่จะออกกฏหมายอะไรกันบ้าง ก็คงต้องขึ้นอยู่กันผู้ชนะแล้วละ

8. Ágitagueda Art Festival (โปรตุเกส) นอกจากเป็นประเทศขึ้นชื่อด้านการทำไวน์แล้ว ก็ยังมีเทศกาลต่างๆ ให้ได้สัมผัสกันอีกมากมาย เช่นเดียวกับเทศกาลร่มหลากหลายสีสัน ซึ่งเป็นสีสันอย่างหนึ่งของประเทศโปรตุเกสเลยก็ว่าได้ โดยเทศกาลดังกล่าวจะจัดขึ้นทุกปีในเดือนกรกฎาคม มาประดับ ตกแต่งตามท้องถนน เพื่อสร้างสีสันให้กับเมือง Ágitagueda

9. Sapporo Snow Festival (ญี่ปุ่น) หรือเทศกาลหิมะซัปโปะโระ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ. 1950 หรือพ.ศ. 2193 จากสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเทศกาลดังกล่าวในปัจจุบันก็ได้กลายเป็นการแข่งขันสำหรับกลุ่มคนจากทั่วโลก และนับได้ว่าเป็นกิจกรรมที่โด่งดังไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งเทศกาลหิมะซัปโปะโระจะจัดขึ้นทุกเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

10. La Tomatina Festival (สเปน) หรือเทศกาลปามะเขือเทศ เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลที่อยู่คู่ประเทศสเปนมาอย่างช้านาน โดยมีไฮไลท์สำคัญคือการนำมะเขือเทศมาขว้างปาใส่กันอย่างเมามัน แต่มีกฏอยู่ว่าห้ามนำวัสดุของแข็งมาใช้ ก็เรียกได้ว่ามีทั้งความสนุก และผิวพรรณดีไปพร้อมๆ กัน

11. Throwing Of The Grape Festival (ออสเตรเลีย) เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลอย่างหนึ่งที่สามารถมอบความสนุกให้กับผู้ร่วมงานได้เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะได้ชิมไวน์ รวมถึงผลองุ่นหวานๆ แล้ว ยังมีการนำองุ่นมาขว้างปาใส่กันอีกด้วย โดยจุดเริ่มต้นมากจากการที่มีผลองุ่นเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีบางผลที่ไม่ดีพอนำมาทำเป็นไวน์ได้ ดังนั้นจึงเกิดไอเดียนำมาขว้างปาใส่กัน จนโด่งดังไปทั่วโลก

12. Winter Light Festival (ญี่ปุ่น) เป็นอีกหนึ่งเทศกาลแห่งแสงสี พร้อมการสัมผัสความหนาวเย็นไปพร้อมๆ กัน โดยแสงไฟทั้งหมดเป็นหลอดไฟ LED ที่ใช้พลังงานจากแสง อาทิตย์ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวแห่งความโรแมนติก

13. Cherry Blossom Lantern Festival (ญี่ปุ่น) เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองสำหรับการเข้าหน้าฤดูซากุระ ซึ่งก็จะมีร้านอาหารออกมาขายตามสวนสาธารณะ และตกแต่งด้วยโคมไฟบนต้นซากุระ

14. The Fuji Shibazakura Festival (ญี่ปุ่น) เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลแห่งความสวยงามของหมู่ดอกไม้ชิบะซากุระ (Moss Phlox) หลากหลายสีสัน อีกทั้งยังมีทิวทัศน์ของภูเขาฟูจิ และร้านค้า บริการต่างๆ ภายในเทศกาลมากมาย โดยเทศกาลดังกล่าวจะขึ้นเป็นเวลา 3 เดือน (เมษายน - มิถุนายน)

15. Golden Retriever Festival (สกอตแลนด์) นับเป็นเทศกาลสำหรับคนชื่นชอบสุนัขพันธุ์ Golden Retriever เลยก็ว่าได้ เพราะจะมีเจ้าสุนัขสุดน่ารักวิ่งรายล้อมอยู่รอบตัว รวมถึงมีกิจกรรมระหว่างผู้เลี้ยง กับสุนัขให้ทำร่วมกัน และการประกวดหาสุนัขแสนเก่งจากผู้เข้าแข่งขันทั่วโลก

16. Yi Peng Lantern Festival (ไทย) สุขใดเท่าสุขท่องเที่ยวในประเทศไทย กับประเพณีที่สวยงามอย่าง "ประเพณียี่เป็ง" โดยเป็นเทศกาลของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่นอกจากการลอยกระทง ยังมีการปล่อยโคมลอยนับพันขึ้นสู่ท้องฟ้ายามคํ่าคืน และสิ่งสำคัญของเทศกาลลอยกระทงคือขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของท้องถิ่นนั้นๆ จึงทำให้สีสันของการลอยกระทงต่างกันไปอีกด้วย

17. Songkran Water Festival (ไทย) เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลแห่งความสุขของคนไทย เพราะครอบครัวจะได้อยู่กันพร้อมหน้า พร้อมตา ได้พูดคุย ได้กอด ขอพรผู้สูงอายุ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมแห่งมิตรภาพ และความรัก ความอบอุ่นภายในครอบครัว จึงทำให้ประเพณีสงกรานต์โด่งดังไปทั่วโลก

นับได้ว่าเทศกาลถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของประเทศที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ ดังนั้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจึงถือเป็นเรืองที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากช่วยประชาสัมพันธ์ เสริมสร้างรายได้แล้ว ยังทำให้ผู้คนในประเทศเกิดมิตรภาพอีกด้วย อย่างไรก็ตามประเทศไทยของเราก็มีแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงเทศกาลต่างๆ มากมายตลอดทั้งปี อย่าลืมแวะเวียนไปเที่ยวกันนะครับ!!

หากต้องการดูเทศกาลเพิ่มเติมสามารถคลิกอ่านได้ที่เว็บไซต์ boredpanda.com