www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 31 มกราคม 2559
ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด ทว่าในยุคที่สมาร์ทโฟนกำลังรุ่งเรืองเช่นนี้ ย่อมมีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย และแน่นอนว่าของปลอมก็มีมากขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นตัวดีไวซ์, แบตเตอรี่, อุปกรณ์เสริม อย่างการ์ดหน่วยความจำภายนอกหรือที่เรารู้จักกันในชื่อ MicroSD Card ซึ่งก็เชื่อว่ามีใครหลายคนที่ไม่รู้วิธีตรวจสอบว่า MicroSD Card ควรตรวจสอบแยกแยะอย่างไรว่าเป็นของจริง ของปลอม ดังนั้นบทความนี้จึงขอแนะนำวิธีเช็คสินค้า เพื่อที่จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของกลโกง....?
ก่อนจะเริ่มวิธีตรวจสอบเรามาดูกันหน่อยว่า MicroSD Card มีความจำเป็นอย่างไร...?
อย่างที่เราทราบกัน MicroSD Card นั้นมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการเก็บบันทึกข้อมูล ซึ่งก็มีหลักการคล้ายกับของคอมพิวเตอร์อย่าง Hard drive เพียงแต่ว่าจะมีขนาดเล็กกว่าเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าอุปกรณ์ดังกล่าวมีความจำเป็นต่อการใช้งาน ด้วยเหตุที่ว่าแอพฯ หรือกิจกรรมต่างๆ ที่เราทำในแต่ละวัน ล้วนแต่ต้องอาศัยหน่วยความจำภายนอกเข้ามาเสริม ถ้าอาศัยเฉพาะหน่วยความจำภายใน (Rom) เพียงอย่างเดียวคงต้องลบภาพ หรือต้องบริหารจัดการกันให้วุ่นวาย
ทั้งนี้นอกจาก MicroSD Card ยังมีความจำเป็นต้องเราแล้ว อีกข้อที่เราควรทราบนั่นคือตัวเลขบน MicroSD Card คืออะไร มีไว้ทำไม...?
หมายเหตุ : อ่านรายละเอียดฉบับเต็มความรู้เรื่องตัวเลข MicroSD Card ได้ที่ Siamphone.com
โดยตัวเลขที่ปรากฏอยู่บน MicroSD Card มีไว้สำหรับบอกระดับ Class ของ MicroSD Card ว่าอยู่ในระดับ Class ไหน ซึ่งก็จะเป็นตัวชี้วัดถึงความสามารถด้านความเร็วในการเขียนหรือโอนถ่ายข้อมูลของ MicroSD Card และแน่นอนว่าถ้ายิ่ง Class เยอะ ราคาวางจำหน่ายก็สูงตามไปด้วย ส่งผลให้มีผู้ขายทำกลโกงมาหลอกลวงผู้บริโภคอย่างเราด้วยเหตุที่ว่าช่องทางการซื้อสินค้าในปัจจุบันมีหลากหลายเหลือเกินจึงมีช่องโหว่มาก ยากที่จะควบคุม!!
แล้วคำถามคือของปลอมสามารถสร้างความเสียหายอะไรกับเราได้บ้าง...?
1. อย่างแรกเลยถ้าเกิดเราซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ เราจะมีโอกาสสูญเสียเงินสูงมาก
2. ข้อมูลที่เราโอนถ่ายอาจเป็นส่วนที่เสียหาย กล่าวคือ ยกตัวอย่างการ์ด MicroSD Card ของปลอมเขียนระบุไว้ว่าเป็นความจุ 32GB Class 10 ซึ่ง ณ ที่นี้ก็อาจเป็นแค่ 8GB Class 4 ก็เป็นได้ เพราะไม่สามารถตรวจสอบได้ภายนอกได้อย่างถ่องแท้ ด้วยเหตุที่ว่ามีการปลอมแปลงที่แนบเนียน บางตัวไม่สามารถแยกแยะได้ด้วยตาเปล่า อีกทั้งเมื่อนำไปใส่สมาร์ทโฟนหรือเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ยังแสดงเป็นความจุ 32GB ด้วยซํ้าไป ทั้งๆ ที่มีเพียงแค่ 8GB ส่งผลให้เมื่อเขียนข้อมูลไปส่วนเกิน 8GB ก็จะไม่ได้รับการบันทึก หรือเขียนทับของเดิมไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็กลายเป็นข้อมูลเสีย
3. และนอกจากจะสูญเสียเงิน อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อดีไวซ์และข้อมูลส่วนตัวได้อีกด้วย เพราะใน MicroSD Card อาจมีการฝังสแปมไว้!!
วิธีป้องกันและตรวจเช็คการ์ด MicroSD จะทำได้อย่างไรบ้าง....?
ถ้าหากซื้อผ่านช่องทางออนไลน์
ถ้าหากเราซื้อ MicroSD Card ผ่านช่องทางออนไลน์ แน่นอนว่ารูปของสินค้าที่นำมาแปะอาจเป็นของจริง หรือของปลอม และเราไม่สามารถแยกแยะตรวจสอบได้ ดังนั้นวิธีตรวจสอบเบื้องต้นคือ...
ถ้าหากซื้อด้วยตัวเอง
แน่นอนว่าสินค้าแบบนี้ซื้อด้วยช่องทางออนไลน์นั้นคงสะดวกสบาย ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง หรือเวลาแต่อย่างใด ทว่าสินค้าบางประเภทก็อย่าลืมเตือนตัวเองว่า การดูสินค้าด้วยตาตนเองนั้นจะมีมาตรฐานกว่า ทั้งยังไม่ต้องเสียใจเมื่อซื้อสินค้ามาเป็นของปลอม เพราะอย่างน้อยเราก็สามารถใช้วิจารณญาณรวมถึงประสบการณ์ของตนเองตัดสินใจได้ ดังนั้นแล้วเราลองมาดูวิธีตรวจเช็คกันหน่อย...?
1. แพ็กเกจต้องไม่มีรอยแกะ ดูดีมีมาตรฐาน และที่สำคัญดูเครื่องหมายรับรองต่างๆ อีกทั้งควรสังเกต MicroSD Card ว่ามีหน้าตาที่ดูผิดเพี้ยน ไม่ว่าจะเป็นพื้นหลัง, ตัวอักษร, เฉดสี, รอยตัดของการ์ด ว่าดูเลอะเทอะไม่เป็นไปตามรูปลักษณ์ดังที่เราเคยเห็น
2. ถ้าหากมีของจริงที่เคยใช้งานควรนำติดตัวมาด้วย เพื่อเปรียบเทียบดูว่า มีความแตกต่างกันหรือไม่ซึ่งอย่างน้อยก็ทำให้เรามั่นใจได้
3. สุดท้ายการเลือกซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก็ขอฝากไว้ว่าเราควรซื้อกับร้านขายที่มีมาตรฐาน ใบอนุญาตประกอบการที่ถูกต้อง เพราะสินค้าประเภทนี้ไม่ได้มีราคาถูก ทั้งยังมีการประกันสินค้าอีกด้วย
เราลองมาดูหน้าตา MicroSD Card ของจริงกับของปลอมกันหน่อย....?
ด้านซ้ายของแท้ ส่วนด้านขวา (ของปลอม)
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะตรวจเช็คดีแค่ไหน บางครั้งก็อาจแยกแยะไม่ออก เราก็ต้องอาศัยโปรแกรมเข้ามาช่วย ตัวอย่างเช่น SD Insight (สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์), H2testw และ FakeFlashtest (สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์) แต่ก็มีข้อแนะนำว่าหนทางที่ดีที่สุดในการตรวจสอบกับโปรแกรมคือใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพราะอย่างน้อยก็มีพวกโปรแกรมแอนตี้ไวรัสช่วยดักจับพวกสแปม และเราต้องนำข้อมูลมาใส่ลง MicroSD Card ให้เกือบเต็ม หรือเต็มความจุ เพื่อดูว่าข้อมูลใช้งานได้จริงทั้งหมดหรือไม่
สุดท้ายหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างไร เพราะต้องบอกว่าในปัจจุบันของปลอมมีเยอะมากมายเหลือเกิน ทั้งปลอมแปลงเหมือน และวางขายราคาเท่าของจริงอีกต่างหากทำให้ตรวจสอบได้ยาก ซึ่งในประเทศไทยควรเลือกซื้อตัวแทนจำหน่ายที่ถูกต้อง และมีสติ๊กเกอร์รับประกันกับผู้รับผิดชอบที่เชื่อถือได้
ที่มา : www.phonearena.com วันที่ : 31 มกราคม 2559
Apple ลั่นกลองประกาศกิจกรรม 7 พ.ค. 2024 คาดส่ง iPad รุ่นใหม่ อาจเห็น Apple Pencil รุ่น 3 มาด้วย4 ชั่วโมงที่แล้ว
realme C65 5G ขุมพลัง Dimensity 6300 เพิ่มหน้าจอรีเฟรช 120Hz9 ชั่วโมงที่แล้ว
NEW MG4 ELECTRIC ขึ้นแท่นรถอีวียอดนิยมในประเทศไทย5 พ.ค. 67 15:00
vivo Y18e มือถือราคาประหยัดรุ่นใหม่ล่าสุด รอลุ้นเข้าไทยในราคาไม่เกิน 4,000 บาท5 พ.ค. 67 13:00
ASUS ส่ง Vivobook S 14 และ S 16 OLED ปรับโฉมใหม่รุ่นล่าสุด พร้อมวางจำหน่าย5 พ.ค. 67 07:00
realme C65 5G ขุมพลัง Dimensity 6300 เพิ่มหน้าจอรีเฟรช 120Hz
vivo Y18e มือถือราคาประหยัดรุ่นใหม่ล่าสุด รอลุ้นเข้าไทยในราคาไม่เกิน 4,000 บาท
เลือกอะไรดี! OPPO A60 vs realme 12x 5G ราคา 5,999 บาทเท่ากัน แตกต่างกันอย่างไร
Redmi Note 13 Pro+ World Champions Edition รุ่นพิเศษฉลองแชมป์
ทำความรู้จัก HONOR X8b หน้าจอ 6.7 นิ้ว กล้องเซลฟี่ 50MP ชาร์จเร็ว 35 วัตต์
HUAWEI FreeBuds Lipstick 2 หูฟังไร้สายดีไซน์ลิปสติก เจาะกลุ่มสาวรักแฟชั่น
ทำความรู้จัก HONOR X8b หน้าจอ 6.7 นิ้ว กล้องเซลฟี่ 50MP ชาร์จเร็ว 35 วัตต์
realme Narzo 70x 5G และ realme Narzo 70 5G หน้าจอ 120Hz แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W
vivo Y18e มือถือราคาประหยัดรุ่นใหม่ล่าสุด รอลุ้นเข้าไทยในราคาไม่เกิน 4,000 บาท