www.siamphone.com

ข่าว

เมื่อ Apple บอก iPhone SE ประสิทธิภาพเท่า iPhone 6S คำถามคือแตกต่างกันอย่างไร แล้ว 5s ละควรซื้ออีกไหม...?

สมาร์ทโฟน (Smartphone)   |   วันที่ : 22 มีนาคม 2559

เผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ iPhone SE รุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Apple โดยคาดการณ์ว่าเหล่าสาวกอาจจะได้จับจองกันเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ดีไฮไลท์ที่สำคัญคงหนีไม่พ้นประโยคที่ว่า "Apple ยืนยันว่า SE มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ iPhone 6S และก็ยังเป็น iPhone ที่มีราคาเปิดตัวถูกกว่าทุกรุ่นเท่าที่เคยมีมาด้วย เพราะฉะนั้นด้วยข้อความข้างต้นจึงมาเล่าสู่กันฟังว่าระหว่างทั้งสองรุ่น ได้แก่ iPhone SE และ iPhone 6S นั้นแตกต่างกันด้านใดบ้าง อีกทั้งเนื่องจากด้านดีไซน์ยังมีความเหมือนกับ iPhone 5s เสียเหลือเกิน ดังนั้นแล้วเราจะมาให้คำตอบว่า "ควรที่จะซื้อ 5S อีกไหม"

เริ่มกันที่ด้านขนาดตัวเครื่องและนํ้าหนัก iPhone ทั้งสองรุ่น ได้แก่ iPhone SE และ iPhone 6S มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • iPhone SE : 123.8 x 58.6 x 7.6 มิลลิเมตร นํ้าหนัก 113 กรัม
  • iPhone 6S : 138.3 x 67.1 x 7.1 มิลลิเมตร นํ้าหนัก 143 กรัม

ส่วนด้านดีไซน์ต้องบอกว่าเสมือนถอดแบบมา iPhone 5s เลยก็ว่าได้ กล่าวคือตัวเครื่องจะใช้วัสดุโลหะแบบ Unibody พร้อมขอบตัวเครื่องทั้ง 4 มุมที่ออกแบบให้เข้ากับสรีระของฝ่ามือได้ดียิ่งขึ้น โดยจะตรงกับคอนเซ็ปต์คือ "สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กแต่ใจใหญ่" และส่วนของโลโก้แอปเปิ้ลจะมีลูกเล่นความพรีเมี่ยมด้วยการให้แสงสะท้อนแวววับเนื่องจากใช้วัสดุสแตนเลสสตีลในเฉดสีที่เข้ากับตัวเครื่องได้อย่างลงตัว

แต่ในส่วนของปุ่ม Home มีรายงานว่า Touch ID จะเป็นเซ็นเซอร์ที่ใช้งานอยู่ใน iPhone 6 ไม่ใช่ที่ใช้ใน iPhone 6s (อ้างอิง apple.com/th)

ด้านหน้าจอและความละเอียดของ iPhone SE และ iPhone 6S

สำหรับ iPhone SE ก็มีหน้าจอขนาดกว้าง 4 นิ้ว โดยจะเล็กกว่า iPhone 6S อยู่ 0.7 นิ้ว ส่วนความละเอียดมาพร้อม 1136 x 640 พิกเซล ที่ความหนาแน่นต่อพิกเซล 326 ppi ขณะที่ความละเอียดของอีกรุ่นจะอยู่ที่ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซลที่ 326 ppi ให้ความสว่างสูงสุดที่ 500 nits เท่ากัน

ทั้งสองใช้หน้าจอแบบ Retina - IPS - ไวด์สกรีน แบ็คไลท์แบบ LED - มาตรฐาน sRGBเต็มช่วงสี - เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าสเปกของหน้าจอนั้นไม่ต่างกันเท่าไรเลย มีเพียงข้อเสียเดียวคือไม่รองรับฟีเจอร์ 3D Touch

ส่วนสเปกของฮาร์ดแวร์ละเป็นอย่างไร....

โดยทั้งคู่ใช้ชิปเซ็ตประมวลผลตัวเดียวกันคือ A9 ผสมผสานการทำงานร่วมกับ M9 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหว บนสถาปัตยกรรมแบบ 64 บิต เช่นเดียวกับหน่วยประมวลผลกราฟฟิกที่ความสามารถเท่ากันเลยอีกด้วย โดยยืนยันได้จากภาพด้านล่าง.....

ทว่าในส่วนของ Ram มีการระบุออกมาจากการทดสอบสำนักข่าวต่างประเทศว่ามีขนาด 2GB เทียบเท่ารุ่น iPhone 6S (อ้างอิง theverge.com)

ขณะที่หน่วยความจำแบ่งออกเป็นดังนี้ iPhone SE (16GB และ 64GB) ส่วน iPhone 6S แบ่งออกเป็น (16GB, 64GB และ 128GB)

สุดท้ายเรื่องของแบตเตอรี่ทาง Apple บอกว่า iPhone SE มีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีกว่า iPhone 5s และ iPhone 6s (ตัวเลขที่ตารางด้านล่าง หมายถึง/ชั่วโมง)

 

แน่นอนว่าตามแบบฉบับของแอปเปิ้ลจึงไม่มีรายละเอียดของสเปกด้านอื่นๆ เท่าไรนัก จึงต้องรอตัวเครื่องจริง เพื่อมาทดสอบอีกครั้งหนึ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่คอนเฟิร์มได้คือ ระบบปฏิบัติการจะสามารถอัพเดทได้อย่างน้อยอีก 2 - 3 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน (ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่) อีกทั้ง iPhone SE จะขับเคลื่อนด้วย iOS เวอร์ชั่น 9.3 เช่นเดียวกับ iPhone 6s เมื่อทำการอัพเดท

ด้านระบบเชื่อมต่อของทั้งคู่ก็มาเหมือนกันเป๊ะๆ ได้แก่ 3G, 4G LTE, Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, GPS และ GLONASS, VoLTE, NFC สำหรับ Apple Pay แต่มีความแตกต่างเล็กน้อยของ iPhone คือระบบ Wi-Fi ที่ไม่มีเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบ MIMO เช่นเดียวกับ 4G ที่ใช้ได้แค่แบบธรรมดาเท่านั้น ไม่รองรับการใช้งานแบบ Advanced

 

สุดท้ายความแตกต่างกล้องดิจิตอล ด้านหน้าและด้านหลังระหว่าง iPhone SE และ iPhone 6S มีรายละเอียดดังต่อไปนี้...?

เรียกว่า iPhone SE ถอดแบบสเปกกล้องหลัง iPhone 6S เลยทีเดียว กล้อง iSight ความละเอียด 12 เมกะพิกเซล ด้วยพิกเซลขนาด 1.22µ พร้อมรูรับแสงขนาด ƒ/2.2 ไฟแฟลชคู่ True Tone รองรับคุณสมบัติ Live Photos ตัวเลนส์กล้องได้รับการปกปองจากผลึกแซฟไฟร์ภายในประกอบด้วยเลนส์ 5 ชิ้น ผสมผสานฟิลเตอร์ Hybrid IR โฟกัสแบบ Focus Pixels ส่วนบันทึกวิดีโอรองรับสูงสุด 4K (3840 x 2160) ที่ 30 fps หรือระดับ 1080p ที่ 30 fps และ 60 fps 

ตัวอย่างภาพกล้องหลังของ iPhone SE

ส่วนกล้องหน้ามีความแตกต่างเรื่องจำนวนความละเอียด/พิกเซลและรูรับแสง โดย iPhone SE มาพร้อมความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซลรูรับแสง ƒ/2.4 ขณะที่ iPhone 6S จะมีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล และรูรับแสง ƒ/2.2 รองรับการบันทึกวิดีโอระดับ HD เหมือนกัน

สุดท้ายแล้วคงต้องบอกว่าเป็นไปตามที่ Apple ระบุไว้เลยว่า iPhone SE นั้นประสิทธิภาพเทียบเท่า iPhone 6S ขาดก็แต่เพียงฟีเจอร์ 3D Touch เท่านั้น อย่างไรก็ตามเหล่าสาวกในบ้านเราคงต้องลุ้นกันหน่อยละครับ ว่าจะเคาะราคามาเท่าใด!? คลิกอ่านเรื่องราวน่ารู้เพิ่มเติม.....

หลังจากทราบข้อมูลเกี่ยวกับความแตกต่าง iPhone SE และ iPhone 6S ไปบ้าง ลำดับต่อไปเรามาดูในส่วนของคำถามที่ว่า "เรานั้นควรที่จะซื้อ iPhone 5s อีกต่อไปหรือไม่"

คำตอบ : เชื่อว่าใครหลายคนต่างเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของราคา iPhone 5s อย่างใจจดใจจ่อ ว่าจะปรับราคาไปน้อยสุดเท่าใด แต่เดี๋ยวก่อนถึงแม้ว่าตอนนี้จะเหลือราคาตํ่ากว่าหนึ่งหมื่นแล้วทุกความจุ (บางช่องทางการซื้อ) แต่ก็ใช่ว่าจะน่าจับจองมาเป็นเจ้าของใช้งานในระยะยาว 

ด้วยเหตุผลที่ว่าถ้าเรามีกำลังเงินที่เพียงพอและไม่เดือดร้อน เราควรที่จะเลือกซื้อรุ่นใหม่ เพราะว่า iPhone SE มีการพัฒนาเทียบเท่ากับรุ่นท็อปสุด ณ ตอนนี้เลยคือ iPhone 6S เพียงแต่ไม่ต้องจ่ายในราคาที่สูง ดังนั้นถ้าเคาะราคามาแล้ว และไม่หนีห่างมากนัก ระหว่าง 5S กับ SE ก็ขอฟันธงว่าเลือกรุ่นใหม่ครับ เพื่อการใช้งานระยะยาว

วันที่ : 22 มีนาคม 2559

25,861
อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข่าวล่าสุด

ไฮไลท์ข่าว

หมวดข่าว

None AMP version