รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ Moto กับการกลับมาลุยตลาดโทรศัพท์ในไทยอีกครั้ง ใครกำลังสนใจต้องอ่าน!

กลับมาลุยตลาดโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว สำหรับอดีตบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Motorola ที่เพิ่งทำการเปิดตัวการกลับมาของแบรนด์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปเมื่อคืนที่ผ่านมา (30/3/59) และได้ขนสมาร์ทโฟนที่เตรียมจะนำกลับมาลุยตลาดในประเทศไทยครั้งนี้มาด้วยกันถึง 3 รุ่น รวมทั้งยังได้นำ smartwatch อย่าง Moto 360 Gen2 ที่มีผู้ใช้งานหลายคนถามถึงมากที่สุดมาจำหน่ายด้วยเช่นกัน

แต่! การกลับมาทำตลาดโทรศัพท์ในไทยครั้งนี้ มาพร้อมความน่าสนใจอยู่หลายจุดเลยทีเดียว และเชื่อว่าน่าจะมีแฟนคลับของค่าย "Hello Moto" ในไทย ที่รอคอยกันอยู่มากพอสมควรเกิดความสงสัยกันแน่นอนว่า การกลับมาภายใต้เจ้าของใหม่อย่าง Lenovo นั้น จะมีทิศทางในด้านการตลาดอย่างไร? รวมถึงจะเป็นการแย่งการตลาดกันเองไหม? สำหรับทั้ง 2 แบรนด์ระหว่าง Lenovo กับ Moto และเรื่องราวในด้านอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นบทความนี้จะพาไปหาคำตอบให้ได้ทราบกัน

เริ่มกันที่ชื่อของบริษัท

อย่างที่เราทราบกันดีว่าในตลาดสมาร์ทโฟนโลกนั้น ทาง Lenovo ได้ทำการเปลี่ยนชื่อสำหรับการทำตลาดของแบรนด์ Motorola มาเป็น Moto เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทาง Lenovo ให้เหตุผลว่า เพื่อให้เป็นที่จดจำได้ง่าย และสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้หลากหลายกลุ่ม รวมทั้งยังเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ให้ดูสนุก มีไลฟ์สไตล์มากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าในตลาดสมาร์ทโฟนไทยเองทาง Lenovo ก็จะใช้ชื่อในการทำตลาดว่า "Moto" ด้วยเช่นกัน

ทำไมถึงเลือกกลับมาลุยตลาดประเทศไทยอีกครั้ง?

ทางคุณ Dillon Ye รองประธานบริษัท ซึ่งทำหน้าที่ดูแลโซนประเทศเอเชียแปซิฟิก ได้กล่าวถึงความเป็นไปเป็นมาของการเลือกกลับมาลุยตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยครั้งนี้ว่า "จากข้อมูลการวิจัย IDC พบว่าในปี 2018 ตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยจะยังคงเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยสามารถรองรับสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนได้มากถึง 23 ล้านเครื่องเลยทีเดียว และกลุ่มสมาร์ทโฟน 4G จะเป็นสินค้าที่เติบโตมากที่สุด รวมไปถึงกระแสความสนใจในแบรนด์ Moto จากกลุ่มผู้ใช้งานเดิมยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงเป็นจุดที่เหมาะสมกับการกลับมาอีกครั้งของ Moto" 

กลับมาครั้งนี้ลุยเต็มที่แค่ไหน?

ทาง Moto ได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า การกลับมาครั้งนี้ไม่ได้กลับมาแบบเงียบๆ แต่มีความตั้งใจที่จะกลับมาลุยตลาดสมาร์ทโฟนในไทยแบบเต็มรูปแบบ โดยที่บริษัทได้เลือกที่จะนำทั้งสมาร์ทโฟน และสมาร์ทวอซท์เข้ามาวางจำหน่าย ในขณะที่บางประเทศจะได้รับสิทธิ์วางจำหน่ายเฉพาะอย่างเท่านั้น รวมทั้งยังเตรียมที่จะเผยโฉม TVC บนโทรทัศน์ รวมไปถึงการโปรโมทแบรนด์สินค้าในช่องทางต่างๆ เร็วๆ นี้ ด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะนำประสบการณ์การใช้งานของแบรนด์ Moto ส่งต่อไปยังกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นแฟนคลับเดิม รวมถึงการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานใหม่ๆ ด้วย

การทำตลาดสมาร์ทโฟนไม่ทับกับ Lenovo ?

ทาง Lenovo ได้วางตำแหน่งการทำตลาดสมาร์ทโฟนของทั้งสองแบรนด์ไว้ว่า จะให้สินค้าสมาร์ทโฟนของ Lenovo ที่เป็นแบรนด์ VIBE ทำตลาดสมาร์ทโฟนในกลุ่ม Low Entry หรือกลุ่มสมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 8,xxx บาท ลงไป ในขณะที่สินค้าสมาร์ทโฟนของ Moto จะเข้ามาทำตลาดสมาร์ทโฟนในระดับ Mid - High End

โดยชูจุดเด่นของสินค้าที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแบรนด์ Moto จะเน้นไปที่การเป็นผู้นำด้านดีไซน์ มีไลฟ์สไตล์เป็นเอกลักษณ์ ในขณะที่ VIBE จะเน้นไปที่สมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ครบครั้น ในราคาคุ้มค่า และทาง Lenovo ยังคงนำ VIBE รุ่นใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม (ใครที่สนใจ K5 Note เตรียมตัวได้เลย)

สมาร์ทโฟน 3 รุ่นที่นำเข้ามาจำหน่าย

Moto ได้นำสมาร์ทโฟน 3 รุ่นล่าสุด ของบริษัทเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย โดยการจับมือกับทางทรูมูฟเอชในการจัดวางจำหน่ายสินค้าในช่องทางต่างๆ ซึ่งสมาร์ทโฟนที่จัดจำหน่ายทั้ง 3 รุ่น ได้แก่

Moto X Style : สมาร์ทโฟนตัวท็อปสุดของบริษัท โดยมาพร้อมดีไซน์ฝาหลังเป็นไม้ไผ่จริงๆ สำหรับตัวเครื่องสีขาว มีหน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ QHD (2K) เลือกใช้งาน CPU Snapdragon 808 Hexa-core ความเร็ว 1.8GHz, RAM 3GB, ROM 32GB กล้องถ่ายรูปหลักความละเอียด 21 ล้านพิกเซล (F2.0) กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช รัน Android OS 6.0 มีคุณสมบัติในการกันน้ำแบบกระเด็น แบตเตอรี่ขนาดความจุ 3000 mAh รองรับการชาร์จแบบ TurboCharge ราคาจำหน่าย 19,990 บาท

Moto X Play : สมาร์ทโฟนระดับกลาง มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด FHD, CPU Snapdragon 615 ความเร็ว 1.7GHz, RAM 2GB, ROM 16GB กล้องถ่ายรูปหลักความละเอียด 21 ล้านพิกเซล (F2.0) กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช รัน Android OS 6.0 มีคุณสมบัติในการกันน้ำแบบกระเด็น แบตเตอรี่ขนาดความจุ 3630 mAh รองรับการชาร์จแบบ TurboCharge ราคาจำหน่าย 12,990 บาท

Moto G Turbo Edition : สมาร์ทโฟนน้องเล็กสุดมาพร้อมคุณสมบัติในการกันน้ำตามมาตรฐาน IP67 สามารถกันน้ำลึกได้ 1 เมตร นาน 30 นาที มีหน้าจอแสดงผลขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD, CPU Snapdragon 615 ความเร็ว 1.5GHz, RAM 2GB, ROM 16GB กล้องถ่ายรูปหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (F2.0) กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รันบน Android OS 6.0 รองรับการใช้งาน Dual SIM แบตเตอรี่ขนาดความจุ 2470 mAh รองรับการชาร์จ TurboPower ราคาจำหน่าย 8,290 บาท

**โดยทุกรุ่นใช้ซอฟต์แวร์ Android OS จาก Google (Pure Android) และรองรับการอัพเดทจาก Google โดยตรง**

และอีกหนึ่งดีไวซ์เสริมอย่าง Moto 360 Gen 2 นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นที่ 2 ของ Moto ที่ครั้งนี้กลับมาพร้อมขนาดตัวเรือนที่แบบเป็นสำหรับคุณผู้ชาย และคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ ตัวเรือนมีการปรับปรุงด้านดีไซน์เพิ่มเติมใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์หน้าปัดทรงกลมตามชื่ออยุ่เหมือนเดิม ในขณะที่ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ยังคงยกมาจากรุ่นก่อนอย่างครบครั้น และเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ในบางส่วน

สามารถอ่านรายละเอียดเนื้อหาเพิ่มเติมจากข่าว PR ได้ที่นี้ (คลิก)

โปรโมชั่นพิเศษที่จับมือกับพันธมิตรอย่าง Truemove H

Moto เลือกที่จะจับมือกับทาง Truemove H ในการจัดวางจำหน่ายสินค้าทั้งหมดในครั้งนี้ หลังจากเป็นพันธมิตรในนาม Lenovo-True กันมาอย่างยาวนานเกือบ 1 ปี ซึ่งทาง Truemove H จะเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้า และกระจายสินค้าไปยังร้านค้าชั้นนำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น TG FONE, JAY MART, BANANA IT ฯลฯ ด้วยตนเอง

โดยโปรโมชั่นพิเศษที่ทาง Moto จับมือกับ Truemove H นั้นคือ

ซื้อ Moto X Style พร้อมสมัครแพ็กเกจ 4G+ Super Smart แบบ Non Stop 699 บาท/เดือนขึ้นไป นาน 1 ปี และชำระค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาท รับสิทธิ์แถมนาฬิกาสมาร์ทวอซท์ Moto 360 Gen 2 ฟรี 1 เรือนทันที

หรือเลือกซื้อ Moto X Play หรือ Moto G Turbo พร้อมสมัครแพ็กเกจ 399บาท/เดือนขึ้นไป นาน 1 ปี พร้อมชำระค่าบริการล่วงหน้า 1,000 บาท รับสิทธิ์แลกซื้อ Moto 360 Gen 2 ในราคา 50% ทันที

อ่านรายละเอียดการซื้อเพิ่มเติมได้ที่นี้ (คลิก)

เรื่องของบริการหลังการขาย

Moto ยืนยันว่า จากความตั้งใจที่จะกลับมาทำตลาดสมาร์ทโฟนในไทยครั้งนี้ และเพื่อให้ผู้ใช้งานอุ่นใจในการใช้งานตัวเครื่องทุกรุ่น ทาง Moto จึงให้การรับประกันตัวเครื่องสมาร์ทโฟนที่ยาวนานถึง 1 ปี 6 เดือน ในขณะที่ตัวเรือนสมาร์ทวอซท์ Moto 360 Gen 2 มีการรับประกันแบบเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้อีกด้วย

สำหรับช่องทางการส่งเคลมหรือส่งซ่อมนั้น ผู้ใช้งานสามารถส่งตัวเครื่องผ่านร้านค้าที่จัดจำหน่าย หรือ Truemove H ได้ทุกสาขา เพราะสุดท้ายแล้วทั้งหมดจะถูกส่งมาให้ทาง Moto อีกครั้ง

*เงื่อนไขในการรับประกันสอบถามกับทางร้านค้าเพิ่มเติมอีกครั้ง*

และทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับการกลับมาลุยตลาดสมาร์ทโฟนในไทยอีกครั้งของ Moto ที่น่าจะถูกใจเหล่าสาวกที่รอคอยกันมาอย่างยาวนาน หลังจากหายไปของแบรนด์ในตลาดสมาร์ทโฟนไทยที่ยาวนานเกือบ 4-5 ปีแล้ว โดยทาง Moto จะจัดจำหน่ายสินค้าทั้งหมดผ่าน Truemove H และร้านค้าชั้นนำพร้อมกันในวันที่ 2 เมษายนนี้ โดยในช่วงแรกสินค้ายังคงมีจำนวนจำกัด และอาจเกิดของขาดตลาดได้ อย่างไรแล้วลองโทรสอบถามที่ร้านค้าที่สนใจอีกครั้ง