Peter Chou อดีต CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง HTC ลาออกจากบริษัทแล้ว

Peter Chou อดีต CEO ผู้ร่วมก่อตั้ง HTC ได้ลาออกจากบริษัทแล้วหลังจากที่ก่อนหน้านี้เขามีส่วนสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ของอุปกรณ์สมาร์ทโฟนค่าย HTC ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมาเป็นเวลานาน โดยเดิมทีเดียว HTC มีบทบาทเป็นเพียงผู้ผลิตอุปกรณ์สมาร์ทโฟนตามสัญญาจ้างที่อยู่เบื้องหลังอุปกรณ์หลายๆ รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Sony Ericsson Xperia X1, Nexus One, T-Mobile G1 เป็นต้น

HTC สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้ชัดเจนขึ้นในปี ค.ศ. 2008 เมื่อมีการเปิดตัว HTC Touch Diamond, HTC Touch Pro สองอุปกรณ์ Windows Mobile ที่มีฟีเจอร์หลายๆ อย่างที่พบใน iPhone ของ Apple โดยในรุ่น HTC Touch Pro มาพร้อมกับคีย์บอร์ดปุ่มกด QWERTY ที่สามารถสไลด์เลื่อนออกมาได้

HTC เริ่มหันเข้าหาอุปกรณ์ Android เมื่อเดือนตุลาคมในปีเดียวกัน ทางบริษัทได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Android รุ่นแรกออกมาสู่ตลาดนั่นคือ HTC G1 ตามมาด้วย HTC Droid Incredible, HTC EVO 4G และอื่นๆ อีกมากมาย โดยในเดือนเมษายนปี ค.ศ. 2011 HTC มีราคาหุ้นทะยานสูงถึง 40.37 เหรียญต่อหุ่นในตลาดหุ้นไต้หวัน (เป็นจุดสูงสุดของ HTC ณ เวลานั้น)

แต่ข่าวดีก็อยู่ได้ไม่นานหลังจากที่ HTC ผิดหวังกับผลงานของสมาร์ทโฟนตระกูล One X series ที่ไม่ประสบความสำเร็จนัก ทางบริษัทก็ปรับเปลี่ยนดีไซน์ครั้งใหญ่และก็เป็น Peter Chou ที่นำเสนอผลงานใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ปี ค.ศ. 2013 ด้วยการเปิดตัว HTC One (M7) สมาร์ทโฟนรุ่นท๊อปที่ตัวเครื่องเป็นวัสดุอลูมิเนียมโดยสมาร์ทโฟนสายพันธุ์นี้เปิดตัวออกมาทุกปี (One M8, One M9) จนรุ่นล่าสุดคือ HTC 10 แต่ผลงานก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดหวังเมื่อตัวเลขผลประกอบการชี้ชัดว่าทางบริษัทยังคงขาดทุนอย่างต่อเนื่องประกอบกับการตลาดที่ไม่แข็งแกร่งเพียงพอ HTC ลงทุนไปกว่า 12 ล้านเหรียญเพื่อจ้าง Robert Downey Junior หรือโทนี่ สตาร์ค ในภาพยนตร์ Iron Man มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในแคมเปญโฆษณาเพื่อหวังสร้างภาพลักษณ์ให้ดีขึ้นแต่ผลที่ได้กลับไม่คุ้มค่า สุดท้ายแล้ว Peter Chou ก็ตัดสินใจยุติบทบาท CEO และเป็น Cher Wang ผู้ร่วมก่อตั้ง HTC ที่เข้ามารับหน้าที่นี้ไปเมื่อต้นปี ค.ศ. 2015

Cher Wang ได้เดิมพันใหญ่ในอุปกรณ์ VR (HTC Vive) และอุปกรณ์เพื่อสุขภาพ โดยปรับแผนการลงทุนในอุปกรณ์สมาร์ทโฟน HTC ให้กระชับมากขึ้นและไม่ฟุ่มเฟือยเหมือนในอดีต ทิศทางของ HTC จะเป็นอย่างไรต่อไปยังน่าสนใจและแวดวงไอทียังคงจับตามองบริษัทไต้หวันรายนี้อยู่ว่าจะสามารถยืนหยัดเอาตัวรอดท่ามกลางกระแสการแข่งขันที่ดุเดือดจากจีนและเกาหลีใต้ได้หรือไม่