Microsoft ประกาศพร้อมหนุนทุกองค์กรสู่ยุคดิจิทัล ในงาน Office 365 User Conference ครั้งแรกในประเทศไทย

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ จัดงาน Office 365 User Conference ครั้งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี นำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่จะช่วยเสริมศักยภาพการทำงานและเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล เพื่อเปิดมุมมองใหม่ในการใช้งาน Office 365 สำหรับองค์กรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้นในยุคโมบายและคลาวด์ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานกลุ่มองค์กร ระดับผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจและฝ่ายไอทีกว่า 500 ราย รวมไปถึงพันธมิตรชั้นนำทางธุรกิจของไมโครซอฟท์จำนวนกว่า 15 องค์กร โดยงานจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

จากผลสำรวจของบริษัท ไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ พบว่า 86% ของกลุ่มผู้บริหารระดับสูง เห็นว่าดิจิทัลคือส่วนสำคัญในการช่วยปฎิรูปและเสริมประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร ทั้งยังเป็นรากฐานสู่ความสำเร็จในการทำธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับการทำธุรกิจทั่วโลกที่ถูกปรับเปลี่ยนให้ตอบรับกับยุคดิจิทัล และเทคโนโลยีก็เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานและการใช้ชีวิตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายตามแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือที่เรียกว่า

“ประเทศไทย 4.0” ของรัฐบาล ในการตอบโจทย์การพัฒนาเหล่านี้ ไมโครซอฟท์ Office 365 คือบริการที่เข้ามาช่วยปฎิรูปกระบวนการสร้างประสิทธิภาพทางธุรกิจให้กับทุกองค์กร โดยผ่าน 1) การทำงานร่วมกันเป็นทีม (Collaboration) แม้ว่าพนักงานจะอยู่คนละที่หรือคนละทวีปก็สามารถประชุม แก้ไขและตัดสินใจแผนงานร่วมกันได้ในเวลาเดียวกันและทันท่วงทีด้วยการประชุมผ่าน Skype for Business ช่วยประหยัดทั้งเวลาในการทำงานและการเดินทาง 2) โมบิลิตี้ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของพนักงานรุ่นใหม่ให้สามารถเข้าถึงเครื่องมือที่ใช้ในการทำงานจากที่ใดก็ได้ เช่นเช็คอีเมลจาก Outlook หรือทำงานบน Word, Excel หรือ PowerPoint ร่วมกันได้ทุกเวลา บนทุกอุปกรณ์ ช่วยยืดหยุ่นเวลาการทำงานได้เป็นอย่างดี 3) การวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัจฉริยะ (Intelligence) รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำด้วย Power BI ทำให้ผู้บริหารตัดสินใจได้อย่างถูกต้องได้ทุกที่แบบ real time 4) มากับเทคโนโลยีที่ไว้วางใจได้ (Trust) Office 365 คือบริการที่ปกป้องข้อมูลบนคลาวด์ได้อย่างปลอดภัย ทำให้ทุกข้อมูลที่สื่อสารในองค์กรไม่รั่วไหล ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสามารถเก็บข้อมูลความรู้ต่างๆ จากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างไม่ตกหล่นนายอรพงศ์ เทียนเงิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด “โลกของธุรกิจได้เปลี่ยนไปแล้ว การทำงานบนดิจิทัลต้องประสานกับโลกการทำงานจริงให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมบูรณ์ ธุรกิจจึงจะประสบความสำเร็จ และสามารถเข้าใจลูกค้า เข้าถึงข้อมูล สร้างโอกาสพร้อมไปกับการสร้างศักยภาพให้แก่พนักงาน ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่ เพื่อตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกรอบตัว” นายอรพงศ์ เทียนเงิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “ไมโครซอฟท์เชื่อว่านวัตกรรมที่สามารถเติมเต็มความต้องการทั้งหมดนี้ได้จะไม่ได้มาในรูปของวัตถุหรืออุปกรณ์ที่จับต้องได้เพียงอย่างเดียว ไมโครซอฟท์จึงคิดค้นและให้บริการเทคโนโลยีที่ไว้วางใจได้ที่จะทำงานอยู่เบื้องหลัง อย่าง Office 365 เพื่อสนับสนุนองค์กรที่ต้องการใช้เทคโนโลยีเพื่อเดินหน้าเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างจริงจัง การทำงานจะอยู่บนโลกเสมือนอย่างมีอัจฉริยะภาพและเสถียรภาพมากขึ้น แต่หากสามารถตอบโจทย์บนโลกแห่งความเป็นจริงได้รวดเร็วและแม่นยำ”

ไมโครซอฟท์ได้นำแนวคิดดังกล่าวนี้มาเป็นแรงผลักดันในการพัฒนา Office 365 ให้เป็นบริการที่มีความคุ้มค่าและตอบโจทย์การทำงานในด้านความปลอดภัยและความยืดหยุ่นในการใช้งานในยุคโมบายและคลาวด์ ด้วยการให้บริการโซลูชั่นและแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่รองรับและส่งเสริมการทำงานร่วมกันในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ Skype for Business, OneDrive for Business, SharePoint Online หรือ Yammer ซึ่งให้บริการบนคลาวด์ที่ทำให้พนักงานสามารถติดต่อสื่อสาร เข้าถึงหรือแบ่งปันข้อมูลได้อย่างอิสระแบบไม่จำกัดสถานที่หรือเวลา ทั้งยังรองรับการใช้งานได้บนทุกแพลตฟอร์ม ทำให้เข้าถึงแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ช่วยลดต้นทุนทั้งด้านเวลาและการเงิน ทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยในงานได้มีการเชิญบริษัทชั้นนำมากมาย จากหลากหลายธุรกิจมาแบ่งปันประสบการณ์การใช้งาน Office 365 ในหลากหลายรูปแบบ อาทิ บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป บริษัท จอห์น ฮาร์ดี้ บริษัท เดอะ ไวท์เสปซ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ บริษัท อินเตอร์โปรไฟล์ บริษัท อุ๊คบี บริษัท เอซิส โปรเฟสชันเนล เซ็นเตอร์ และ บริษัท น้ำตาลมิตรผล เป็นต้น

นายภาณุพันธ์ สงวนพรรค ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและการปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไวท์สเปซ จำกัด เผยว่า “เราเป็นผู้ให้บริการซิมเพนกวิน ซิมเติมเงินแบบ eco ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ และเป็นบริษัทใหม่จึงมีพนักงานจำนวนไม่มากและส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีไลฟ์สไตล์การทำงานและการใช้ชีวิตแบบโมบิลิตี้ เราจึงต้องการมองหาเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยให้เราบริหารจัดการองค์กรขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เราจึงเลือกใช้ไมโครซอฟท์ Office 365 บริการที่มีความยืดหยุ่น และตอบโจทย์การทำงานแบบไม่จำกัดสถานที่ของพนักงานได้เป็นอย่างดี และการให้บริการบนคลาวด์ เมื่อเราต้องการเพิ่มบัญชีผู้ใช้งาน เราก็สามารถเพิ่มการใช้งาน Office 365 ได้อย่างรวดเร็วและไม่จำกัด ซึ่งเหมาะกับบริษัทแบบเดอะ ไวท์สเปซ ที่เป็นบริษัทขนาดเล็กซึ่งเพิ่งเริ่มก่อตั้งขึ้นมาได้เพียงหนึ่งปี อีกทั้งต้องการนำเวลาและกำลังที่เรามีทั้งหมดไปทุ่มเทให้กับการทำธุรกิจ โดยให้ไมโครซอฟท์ดูแลงานไอทีหลังบ้านให้กับเรา เราแทบไม่จ้างแอดมินดูแล เมื่อเราโตขึ้นเราก็สามารถซื้อออฟฟิศเพิ่มไม่เสียเวลาในการติดตั้งระบบใหม่ รวดเร็วตอบโจทย์ ด้วยเหตุนี้ เราจึงมั่นใจว่าการตัดสินใจเลือกใช้บริการไมโครซอฟท์ Office 365 เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว และพร้อมจะเติบโตไปกับเรามากที่สุด”

นายสันติ สิริทวีชัย ผู้อำนวยการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท น้ำตาลมิตรผล กล่าวว่า “บริษัทน้ำตาลมิตรผลเป็นองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่ไม่ได้ทำธุรกิจน้ำตาลเท่านั้น เรายังทำธุรกิจที่หลากหลาย อาทิ ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจเอทานอล รวมไปถึงธุรกิจวัสดุทดแทนไม้ เราจึงมีข้อมูลจำนวนมหาศาลที่เป็นความลับที่สำคัญของบริษัท และต้องการเก็บรักษาอย่างปลอดภัย ด้วย Office 365 ซึ่งมาพร้อมระบบความปลอดภัยของข้อมูลระดับสูง ที่สามารถป้องกันเอกสารสูญหายได้อย่างดีเยี่ยม และสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาบนทุกแพลตฟอร์มได้อย่างปลอดภัย ทำให้บริหารจัดการทุกข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่น เราจึงตัดสินใจเลือกใช้ไมโครซอฟท์ Office 365 เพราะไมโครซอฟท์คือผู้เชี่ยวชาญในการจัดเก็บข้อมูลและการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานระดับโลก ที่ทำให้เรามั่นใจว่าเราได้ฝากความลับของมิตรผลให้มืออาชีพเป็นผู้ดูแลปกป้องอย่างแท้จริง”

โดยลูกค้าองค์กรสามารถศึกษาข้อมูล Office 365 สำหรับองค์กร ซึ่งเป็นบริการคลาวด์ระดับองค์กรในรูปแบบใหม่ที่ให้ความปลอดภัยในระดับสูง พร้อมเปรียบเทียบแผนการใช้งานหลากหลายแผน โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://products.office.com/th-th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-263-6888