Samsung และรัฐบาลเกาหลีใต้เริ่มดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุที่ Galaxy Note 7 ลุกไหม้

Samsung และรัฐบาลเกาหลีใต้เริ่มดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุที่ทำให้สมาร์ทโฟน Galaxy Note7 เกิดลุกไหม้ขึ้นจนต้องยุติการผลิตและเลิกจำหน่ายทั่วโลก

Samsung ได้ตรวจสอบชิ้นส่วนของสมาร์ทโฟนรุ่นท๊อปตัวล่าสุดหลังจากมีรายงานว่าอุปกรณ์รุ่นดังกล่าวลุกไหม้ขึ้นจำนวนมาก ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลกดำเนินการเรียกคืน Galaxy Note7 ครั้งแรกไปเมื่อเดือนที่แล้วโดยอ้างว่าแบตเตอรี่มีข้อผิดพลาด แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจยกเลิกการจำหน่ายหลังจากพบว่าอุปกรณ์ที่เปลี่ยนแบตเตอรี่ล็อตใหม่แล้วยังมีปัญหาความร้อนสูงเกิดขึ้นอีก

Korea Testing Laboratory (KTL) บริษัททดสอบการประเมินและการรับรองคุณภาพความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในเกาหลีใต้เริ่มต้นตรวจสอบ Galaxy Note7 จำนวน 5 เครื่องที่ได้รับจาก Samsung เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา (13 ตุลาคม ค.ศ. 2016) โดยทุกเครื่องเป็นเครื่องที่ผู้บริโภคส่งกลับมาด้วยปัญหาเดียวกันคือเกิดการลุกไหม้

KTL จะไม่จำกัดการตรวจสอบเฉพาะส่วนของแบตเตอรี่เท่านั้นแต่จะใช้เทคโนโลยีการตรวจสอบใหม่ล่าสุดที่มีทั้ง X-ray และเครื่องสแกนด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาดังกล่าว

นอกจากจะรอฟังผลการตรวจสอบจาก KTL แล้ว Samsung ก็ได้ระดมทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ในขณะเดียวกัน Samsung ยังได้พิจารณาการทดสอบอุปกรณ์ที่มีข้อผิดพลาดซึ่งรวบรวมไว้โดย U.S. Consumer Product Safety Commission หรือหน่วยงานส่งเสริมความปลอดภัยของสินค้าอุปโภคบริโภคในสหรัฐฯ ด้วย

Samsung ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรในไตรมาสที่สามของปีนี้เป็น 5.2 ล้านล้านวอน ลดลงจากเดิม 7.8 ล้านล้านวอน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการสูญเสียรายได้จากการเลิกจำหน่าย Galaxy Note7

นักลงทุนที่อยู่ในแวดวงใกล้ชิดกับ Samsung ให้ความเห็นว่าการหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา Galaxy Note7 ลุกไหม้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับ Samsung ที่จะกลับมาสร้างความไว้วางใจของผู้บริโภคก่อนที่ทางบริษัทจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นท๊อปตัวใหม่ Galaxy S8 ในปีหน้า