www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 21 ตุลาคม 2559
หลังจาก Apple Inc. ได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของบริษัทไปเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2559 ที่ผ่านมาและได้ว่างจำหน่ายบ้างแล้วในบางประเทศ เสียงตอบรับส่วนใหญ่ยังคงกล่าวถึง iPhone 7 Plus ในแง่ของประสิทธิภาพในการใช้งาน ความเสถียร การกันน้ำ และคุณภาพของกล้องที่ไว้ใจได้ ทั้งนี้เราจะได้นำเสนอรายละเอียดต่างๆ เหล่านั้นในบทความถัดไป แต่ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงลักษณะตัวเครื่องภายนอกของ Apple iPhone 7 Plus ซึ่งเครื่องนี้ก็คือเครื่องที่วางจำหน่ายจริงในประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปในเช้าวันนี้ (21 ตุลาคม 2559)
เครื่องที่เราจะนำมาให้ชมนั้นเป็นรุ่นสีดำเงา หรือ Jet Black ซึ่งเป็นสีใหม่ มีความจุ 256GB ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่แรงที่สุดใน Generation นี้เลยก็ว่าได้
รูปลักษณ์ภายนอกยังคงแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์การออกแบบโดยยังคงใช้รูปแบบเช่นเดียวกับ iPhone 6 Plus มีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณ 15 ซม. (หน้าจอ 5.5 นิ้ว) มองผิวเผินแล้วอาจจะยังไม่เห็นความต่าง แต่แน่นอนว่าได้มีการปรับแต่งเพียงเล็กน้อยเกิดขึ้น
ด้านหน้ายังคงเป็นจอภาพ Ratina HD ความละเอียด FullHD 1920 x 1080 Pixel วางอยู่ภายในกระจก Corning Gorilla Glass 5 ซึ่งก็ถือว่าเป็นกระจกที่สามารถกันการขีดข่วนได้ดี (แต่ก็ไม่ควรทดลองเล่น แนะนำให้หากระจกนิรภัยมากันไว้อีกชั้นจะดีกว่า)
ด้านบนของตัวเครื่องมีลำโพงเสียงซึ่งจะทำหน้าที่กำเนิดเสียงในการโทร และการใช้งานฟังก์ชั่นมัลติมีเดียต่างๆ ซึ่งใน Apple iPhone 7 Plus นั้น ลำโพงตัวนี้หากใช้งาน Multimedia จะกำเนิดเสียงไปพร้อมกับลำโพงด้านล่างของตัวเครื่องทำให้ระบบเสียงที่ได้เป็นแบบ Stereo ซึ่งจะแยกช่องสัญญาเป็นซ้าย-ขวานั่นเอง
ด้านข้างของลำโพงเป็นกล้องหน้าไว้สำหรับถ่ายภาพ Selfie หรือ Wefie ส่วนด้านบนของลำโพงจะมีเซนเซอร์ตรวจวัดระยะห่างเพื่อใช้ปิดหน้าจอเวลาวางคว่ำหน้าตัวเครื่องหรือขณะทำการสนทนา และยังมีเซนเซอร์สำหรับปรับเพิ่ม-ลดความสว่างของจอภาพโดยอัตโนมัติซ่อนอยู่
เนื่องจากการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกส่วนใหญ่ถูกปรับตามจุดประสงค์เพื่อการกันน้ำ โดยเราจะเห็นได้ชัดว่าปุ่ม Home ของ iPhone รุ่นนี้กลายเป็นแบบใหม่ โดยจะไม่ใช่ปุ่มกดแบบเดิม แต่จะเป็นปุ่มระบบสัมผัสและใช้ระบบสั่นตอบสนองการสัมผัสเพื่อให้ความรู้สึกยังคงคล้ายการกดปุ่มแบบเดิม และเมื่อปุ่มมันไม่ได้ยุบตัวลงไปแบบเมื่อก่อนน้ำจึงซึมเข้าไปได้ยากขึ้น
ด้านล่างตัวเครื่องจะพบว่าไม่มีช่องเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร อีกต่อไป ซึ่งหายไปเหลือไว้เพียงแค่ช่องไมโครโฟนที่ออกแบบเหมือนช่องลำโพงด้านขวา และตรงกลางก็เป็นช่องเสียบสาย USB Lightning สำหรับชาร์จและ Sync ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ และเพราะไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบธรรมดา หูฟังที่แถมมาให้ในกล่องจึงมีหัวเชื่อมต่อเป็นแบบ Lightning แทน
ด้านข้างตัวเครื่องทางซ้ายของหน้าจอก็ยังคงมีสวิทซ์สำหรับโหมดปิดเสียง ปุ่มเพิ่ม ปุ่มลด ระดับเสียง วางอยู่เรียงกันในแบบเดิม
ด้านข้างขวานั้นก็เช่นกันยังคงเป็นตำแหน่งของถาดใส่ nanoSIM และ ปุ่ม Power
ด้านหลังตัวเครื่องจะไม่ใช่กระจกเหมือนด้านหน้าแต่จะเป็นโลหะดำเงาซึ่งตรงนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นรอยง่ายมาก แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปเนื่องจากจัดวางตัวกล้องที่ยังคงนูนออกมาจากตัวเครื่องซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ยังไงแล้วผู้ใช้ก็ยังต้องซื้อเคสมาใส่อยู่ดี
กล้องหลังที่ให้มา 2 ตัว เลนส์ชิ้นแรกประกอบเลนส์ระยะใกล้ (Wide) ทำให้ได้ภาพในมุมกว้าง อีกตัวเลนส์ส่องไกล (Tele) ทำให้การถ่ายภาพวัตถุที่อยู้ไกลชัดเจนขึ้น มีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน และไฟแฟลช โทนขาว 2 ดวง โทนแสงแดดอีก 2 ดวง รวมเป็น 4 ดวง
*และจะสังเกตได้ว่าขอบพลาสติกของสีดำเงานั้น จะเป็นสีเดียวกันกับตัวเครื่องซึ่งทำให้เราแทบมองไม่เห็นรอยแยกของตัวเครื่องเลย (ยกเว้นสีโรสโกลด์และสีทองที่ขอบยังเป็นสีขาว ส่วนสีเทาที่ยังคงเห็นแถบพาสติกชัดเจน)
เป็นอย่างไรกันบ้างกับรูปลักษณ์ภายนอกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างเพียงเล็กน้อย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วนั้นก็เพื่อเป็นการทำให้เครื่องสามารถกันน้ำได้นั่นเอง หูฟังที่ต้องเปลี่ยนมาเสียบที่ช่องเดียวกับการชาร์จตัวเครื่องทำให้ไม่สามารถชาร์จไฟไปพร้อมกับการฟังเพลงได้ ปุ่ม Home ที่เปลี่ยนจากปุ่มกดแบบเดิมมาเป็นปุ่มสัมผัสกล้องที่มาเป็นคู่แต่ต่างกันที่เลนส์ และนี่ก็เป็นแค่รูปลักษณ์ภายนอก ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่เราจะได้นำเสนอในโอกาสถัดไปเกี่ยวกับ Apple iPhone 7 Plus สมาร์ทโฟน "7 ที่ไช่"
วันที่ : 21 ตุลาคม 2559
Samsung Galaxy S25 Ultra มาแน่! พร้อมตัวเลือกสีสุดอลังการถึง 7 เฉด4 ชั่วโมงที่แล้ว
เปลี่ยนทุกการสื่อสารให้ลึกซึ้งกว่าที่เคยกับ buz แอปฯ ข้อความเสียงอันดับหนึ่งในไทย8 ชั่วโมงที่แล้ว
Nubia Z70 Ultra กำลังจะเปิดตัวแล้ว 21 พฤศจิกายนนี้!10 ชั่วโมงที่แล้ว
Honor Magic 7 RSR Porsche Design สเปคเทพ ดีไซน์สวย รอเปิดตัวเดือนธันวาคมนี้14 ชั่วโมงที่แล้ว
Redmi K80 Pro โชว์พลังเหนือคู่แข่ง ครองแชมป์ประสิทธิภาพด้วยคะแนน AnTuTu ทะลุ 3 ล้าน23 ชั่วโมงที่แล้ว
Apple ปรับลดราคา iPhone รุ่นไหนบ้าง! แล้ว iPhone รุ่นไหนเลิกขาย?
เมื่อ Apple นำเทรนด์ ปุ่มควบคุมกล้องบนสมาร์ทโฟนจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่?
Apple A18 และ Apple A18 Pro เน้นประมวลผล Apple Intelligence เล่นเกมระดับ AAA ได้ ถ่ายวิดีโอความละ...
Apple ขยับฐานผลิตใหญ่ iPhone 16 Pro Series นอกจีน แล้วทำไมถึงเลือกอินเดีย?
คาดการณ์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในงาน Apple Event เดือนกันยายน 2024
ไม่พลิกโผ! Apple ประกาศเปิดตัว iPhone 16 วันที่ 10 กันยายน เที่ยงคืนตรง ตามเวลาไทย