ข่าว

Selfie Challenge! เปรียบเทียบสองรุ่นฮอต OPPO F1s กับ vivo V5 ราคา 8,990 บาทเท่ากัน เลือกรุ่นไหนดี

สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 4 ธันวาคม 2559

ต้องบอกว่าช่องกลางปี 2016 เป็นต้นมาโลกของสมาร์ทโฟนกลายเป็นเทรนด์กล้องอย่างเต็มรูปแบบ โดยแต่ละแบรนด์ต่าง ก็งัดสเปกเด็ดมาเอาใจลูกค้าที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ซึ่งสองแบรนด์ตอนนี้อย่าง OPPO กับ vivo ถือว่ามีขุมกำลังอยู่ในมือที่น่าสนใจไม่น้อยเลยระหว่าง F1s กับ V5 ที่อยู่ในช่วงราคาจับต้องได้ เพราะฉะนั้นสิ้นปีแบบนี้ถ้าหากใครกำลังเล็งสองรุ่นนี้อยู่แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ ในบทความนี้ก็ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ให้แล้ว รายละเอียดมีดังต่อไปนี้

ก่อนจะไปดูความแตกต่าง มาท้าวความกันก่อนว่าทั้งสองรุ่นเปิดตัวเมื่อใด

สำหรับ OPPO F1s เปิดตัวในเดือนสิงหาคมพุทธศักราช 2559 ชูจุดเด่นกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มาพร้อมโหมดหน้าสวยหล่อ Beautify 4.0 ที่ได้รับการออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพแชร์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์คแบบไม่ต้องตกแต่งอะไรเพิ่มเลย

ขณะที่ vivo V5 เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช 2559 สามารถสร้างความเซอร์ไพร์สด้วย กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช Moonlight ออกแบบมาให้อ่อนนุ่มสวยงามกว่าไฟแฟลชแบบทั่วไป

จุดเด่นเป็นอย่างไร

สำหรับ OPPO F1s อย่างที่ทราบกันว่ารุ่นนี้ มีจุดเด่นด้านการเซลฟี่และโหมดปรับแต่งหน้าสวยหล่อไม่ต้องพึ่งแอพฯ อะไร โดยถูกปรับแต่งออกแบบมาโดยเฉพาะ ทั้งยังมาพร้อมโหมดเซลฟี่พาโนราม่าให้สามารถภาพเซลฟี่ได้ครบถ้วนทุกรายละเอียดและเพิ่มความสวยงามยิ่งขึ้น และใช้งานได้ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม

ส่วน vivo V5 ก็ชูจุดเด่นกล้องหน้าความละเอียดชัด 20 ล้านพิกเซล มีซอฟต์แวร์ปรับหน้าสวยหล่อเวอร์ชั่น 6.0 มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม โดยมีระบบเสียงแบบ HiFi AK4346 ทั้งยังรองรับการใช้งานแบ่งสองหน้าจอด้วยฟีเจอร์ Smart Split 2.0

ด้านระบบปฏิบัติการ

ทั้งสองรุ่นจะมี UI ของตัว ได้แก่ Color OS 3.0 (F1s) และ Funtouch OS 2.6 (V5) บนพื้นฐานแอนดรอยด์แต่จะมีเวอร์ชั่นแตกต่างกันโดยรุ่นแรกแค่ Lollipop เท่านั้น ส่วนอีกหนึ่งรุ่นเป็น Marshmallow นอกจากนี้ยังไม่มีหน้ารวมแอพพลิเคชั่นด้วย

ด้านดีไซน์

ทั้งสองรุ่นเป็นบอดี้โลหะแบบ Unibody โดยมีรูปลักษณ์เหมือนกัน แตกต่างตรงที่ตำแหน่งของพอร์ตและปุ่มควบคุม ขณะที่บริเวณหน้าจอจะครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla แบบ 2.5D

ขนาดตัวเครื่องและนํ้าหนัก

OPPO F1s : 154.5 x 76 x 7.3 มม. นํ้าหนัก 160 กรัม
vivo V5 : 153.8 x 75.5 x 7.55 มม. นํ้าหนัก 154 กรัม

ข้อแตกต่างด้านดีไซน์อื่นๆ ที่น่าสนใจ

ปุ่มควบคุมจะอยู่บริเวณด้านล่างหน้าจอเหมือนกัน และไม่มีสัญลักษณ์แสดงไว้ แต่เมื่อใช้งานจะมีไฟ LED แสดงขึ้นมาทั้งสองรุ่น ทำให้สามารถใช้งานได้ไม่สับสนหากพื้นที่นั้นแสงน้อย

นอกจากนี้ vivo V5 มีไฟแจ้งเตือนสีเขียวบริเวณมุมขวาบน โดย OPPO F1s อยู่ฝั่งซ้ายมีสีขาว

ส่วนด้านซิมการ์ด OPPO F1s สามารถใส่ได้สองซิมการ์ด และเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้พร้อมกัน ขณะที่ทาง vivo V5 กลับต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง (Micro SIM + 1 Nano SIM) หรือใช้หนึ่งซิมการ์ด + MicroSD Card (หน่วยความจำนอก)

OPPO F1s

vivo V5

สุดท้ายด้านปุ่มโฮม OPPO F1s จะกดได้ แต่ว่า vivo V5 ไม่สามารถกดได้หากต้องการกลับหน้าโฮม สิ่งที่ต้องทำคือสัมผัสหนึ่งครั้งที่ปุ่มโฮม

ด้านหน้าจอ

สำหรับทั้งสองรุ่นก็จะมีหน้าจอ IPS และขนาดกว้างรวมถึงความละเอียดเหมือนกัน (5.5 นิ้ว ความละเอียด HD) มาพร้อมฟังก์ชั่นถนอมสายตา ทำให้ผู้ใช้สามารถอ่านเว็บไซต์ หรือว่า E-Book ได้ไม่ส่งผลเสียต่อสายตา

ด้านฮาร์ดแวร์ (หน่วยประมวลผล, GPU, Ram, Rom, MicroSD Card, แบตเตอรี่)

OPPO F1s vivo V5 หน่วยประมวลผล MediaTek MT6750 CPU Octa-core MediaTek MT6750 CPU Octa-core GPU Mali-T860 Mali-T860 RAM 3GB 4GB ROM 32GB 32GB MicroSD Card สูงสุด 128GB สูงสุด 128GB แบตเตอรี่ 3,075 mAh 3,000 mAh

ผลคะแนน Antutu และ Geekbench 4 ฝั่งซ้าย (OPPO F1s) และฝั่งขวา (vivo V5)

พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน และRam เหลือเท่าไร เมื่อเปิดเครื่องครั้งแรก (OPPO F1s) และฝั่งขวา (vivo V5)

สรุป : จะเห็นว่าพื้นที่เก็บข้อมูลภายในเหลือประมาณ 23 GB ส่วน RAM ต่างกันเนื่องจากมีสเปกไม่เหมือนกัน เพราะ OPPO มี 3GB (เหลือ 1.5GB) ขณะที่ vivo มี 4GB (2.12GB)

เหล่าเซ็นเซอร์ที่มีภายในเครื่อง (OPPO F1s) และฝั่งขวา (vivo V5)

Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
Orientation Sensor ตรวจวัดความเอียง
Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
Gyroscope Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
Temperature Sensor ตรวจวัดอุณหภูมิ
Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
Pressure Sensor ตรวจวัดความแตกต่างของความดัน

หมายเหตุ : OPPO F1s ต้องทำการอัพเดทเวอร์ชั่น โดยจะมีเซ็นเซอร์ Gyroscope

หน้าตา Quick Setting และหน้า Notification bar ด้านบน (OPPO F1s) และด้านล่างเป็น (vivo V5)

ระบบเชื่อมต่อ : 3G, 4G LTE, Wi-Fi 2.4/5GHz แบบ 802.11 a/b/g/n, GPS, A-GPS, Bluetooth, OTG, FM Radio

ฝั่งซ้าย (OPPO F1s) และฝั่งขวา (vivo V5)

เครือข่าย : ทั้งสองมีความแตกต่างกันเล็กน้อย

OPPO F1s : คลื่น 3G : 850/900/2100MHz และ 4G : 900/1800/2100MHz
vivo V5 : คลื่น 3G : 850/900/2100MHz และ 4G : 850/ 900/ 1800/ 2100/ 2600MHz

เทียบสเปกกล้องหน้าเป็นอย่างไร

F1s มีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.1 นิ้ว รูรับแสง f/2.0 มีซอฟต์แวร์ Beautify 4.0 ปรับหน้าให้สวยหล่อตามต้องการ มาพร้อมจุดเด่น โหมดเซลฟี่พาโนราม่า และสามารถบันทึกวิดีโอสูงสุดระดับ FullHD

vivo V5 มีกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซลรูรับแสง f/2.0 กับจุดเด่นพิเศษ โหมดหน้าสวยหล่อเวอร์ชั่น 6.0 มีขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.78 นิ้วด้วยเซ็นเซอร์ของ SONY IMX376 และไฟแฟลชเพิ่มความสว่างในการถ่ายภาพ รองรับการบันทึกวิดีโอ FullHD

ตัวอย่างภาพเซลฟี่ของทั้งสองรุ่น ฝั่งซ้าย (OPPO F1s) และฝั่งขวา (vivo V5)

ปรับโหมดหน้าสวยแบบกลาง (คลิกภาพเพื่อดูภาพใหญ่)

ปรับโหมดหน้าสวยแบบสุด (คลิกภาพเพื่อดูภาพใหญ่)

ข้อดี และส่วนที่ควรพิจารณาเพิ่มเติมของแต่ละรุ่น

OPPO F1s

ข้อดี จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่ม ตัวเลือกปรับแต่งโหมดหน้าสวยหล่อทำได้ดีกว่า แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 5.1 มีโหมดเซลฟี่พาโนราม่า ไม่ต้องเลือกทางใดทางหนึ่งสำหรับซิมการ์ดและ MicroSD Card

vivo V5

ข้อดี จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่ม ชิปเซ็ตเสียงแยกให้พลังเสียงได้ดีกว่า UI มีความซับซ้อนเล็กน้อย แต่ไอคอนทำได้สวยงาม กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล มีฟังก์ชั่น DLNA

ด้านเฉดสีและราคาวางจำหน่าย

vivo V5 มีสองเฉดสีให้เลือก ได้แก่ สีโรสโกลด์และสีทอง วางจำหน่ายที่ร้านค้าชั้นนำทั่วไปในราคา 8,990 บาท

OPPO F1s มีสามเฉดสี ได้แก่ Gold, Rose Gold และ Classic Black Edition วางจำหน่ายในราคา 8,990 บาท

จบลงแล้วสำหรับการเปรียบเทียบสมาร์ทโฟนเน้นการเซลฟี่ของทั้งสองแบรนด์ดัง อย่างไรก็ดีสิ้นปีแบบนี้ ตัวแทนจัดจำหน่ายต้องมีโปรโมชั่นมาเอาใจลูกค้าที่สนใจแน่นอน หากใครสนใจและคิดจับจองเป็นเจ้าของ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลที่เว็บไซต์ หรือช่องทางติดต่อต่างๆ ของผู้จัดจำหน่ายเพิ่มเติม เพื่อรับโปรโมชั่นความคุ้มค่ามากที่สุด

สามารถคลิกอ่านรีวิวจากทีมงาน Siamphone.com