www.siamphone.com
หมวดอื่นๆ (Other) | วันที่ : 24 พฤศจิกายน 2559
โลกของเทคโนโลยียังคงก้าวไกลและพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยมาพร้อมข้อดีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจุดประกายความหวังของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หรืออำนวยความสะดวกสบายให้กับกิจวัตรประจำวันในแต่ละคน รวมถึงประโยชน์อันใหญ่หลวงคือเปลี่ยนโมเดลเมืองให้เข้าสู่ความสมาร์ทกับคำที่เราคุ้นเคยอย่าง "Smart City" แน่นอนว่าการจะปรับใช้ได้อย่างสมบูรณ์ต้องอาศัยแหล่งพลังงานสูง จึงทำให้ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสิ้นเปลืองงบประมาณ เพราะฉะนั้นหลายฝ่ายก็หันมาเล็งเห็นประโยชน์พลังงานธรรมชาติ อาทิ นํ้า, ลม, แสงอาทิตย์ เป็นต้น ดังนั้นจึงขอหยิบยกเรื่องราวของการได้นำพลังงานแสงอาทตย์มาเพิ่มความสุขและความสะดวกสบายให้พื้นที่ห่างไกลมาเล่าสู่กันฟัง
พลังงานแสงอาทิตย์ถือว่าเริ่มมีการนำมาประยุกต์ใช้กับโรงงาน, โรงพยาบาล, ไฟจารจร, ตู้โทรศัพท์ หรือแม้แต่บ้านเรือนที่ในบางสัปดาห์ก็ไม่ต้องใช้พลังงานจากไฟฟ้าเลยด้วยซํ้า อย่างไรก็ตามเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีข่าวว่าบริษัท Tesla ร่วมมือกับ SolarCity จุดประกายความสุขให้กับเกาะ Ta’u หนึ่งในพื้นที่ห่างไกลจากเดิมมีความเป็นอยู่ยากลำบาก แต่ตอนนี้พวกเขามีไฟฟ้าใช้ตลอดเวลาแล้ว
แบรนด์ Tesla ทำธุรกิจหลักด้านการผลิตรถยนต์ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่ที่น่าจับตามองในอุตสาหกรรมเลยทีเดียว เนื่องจากมีเทคโนโลยีและโซลูชั่น รวมถึงขุมกำลังของบริษัทลูกที่มีอยู่ในมือ หนึ่งในนั้นก็คือ SolarCity บริษัทรับติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์สำหรับบ้านเรือน ที่ร่วมมือทำโครงการมอบพลังงานไฟฟ้าให้กับเกาะ Ta’u
อย่างที่เกริ่นข้างต้นเกาะ Ta’u อยู่ในอเมริกันซามัวห่างไกลจากสหรัฐอเมริกาฝั่งตะวันตกกว่า 4,000 ไมล์ มีผู้คนอาศัยประมาณ 600 คน การเดินทางทำได้ยากเพราะสภาพอากาศแปรปรวนตลอดเวลา
Keith Ahsoon หนึ่งผู้อาศัยอยู่ในเกาะเล่าให้ฟังว่าก็เคยแม้กระทั่งเรือไม่สามารถออกจากเกาะได้สองเดือน ซึ่งเป็นความยากลำบากอย่างยิ่ง ทุกครอบครัวจะต้องใช้สอยทรัพยากรสำหรับประทังชีวิตอย่างประหยัด และเมื่อเรือไม่สามารถออกไปได้นํ้ามันดีเซลใช้ปั่นไฟอาจหมดลง จึงต้องปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ไฟฟ้าเหลือแค่ตอนเช้ากับช่วงบ่าย อีกทั้งปั๊มนํ้ายังต้องใช้ไฟฟ้าด้วย ซึ่งทุกคนใช้นํ้าอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องยากลำบากอย่างมากที่ต้องใช้ชีวิตอย่างไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เขา (Ahsoon) ยังทิ้งท้ายอีกว่า เขาเติบโตมาพร้อมกับการจุดเทียน และนี่ปีคริสต์ศักราช 2016 เราก็ยังเจอปัญหาแบบเดิม
อย่างไรก็ดีปัญหาการไม่มีไฟฟ้าใช้หมดไปแล้วเมื่อได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย อาทิ American Samoa Economic Development Authority, Environmental Protection Agency, Department of Interior ต่างมุ่งหวังให้ผู้คนในเกาะ Ta’u มีคุณภาพชีวิตที่ขึ้นและลดค่าใช้จ่ายต่อการจ่ายนํ้ามันดีเซลที่ปีหนึ่งใช้ประมาณ 109,500 แกลอน รวมถึงค่าขนส่งต่างๆ ด้วย
โดย Solar City และ Tesla จะทำการติดตั้งอุปกรณ์เช่นแผงโซลาร์เซลล์ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 1.4 เมกะวัตต์ และมีตู้เก็บไฟฟ้าที่สามารถกักเก็บได้ 6 เมกกะวัตต์ต่อชั่วโมง จำนวน 60 ตู้ สามารถผลิตไฟฟ้าทั่วทั้งเกาะได้เกือบเต็มที่ 100% (can supply nearly 100 percent) ซึ่งใช้ระยะเวลาในการติดตั้งประมาณ 1 ปี
ผลที่ได้เมื่อโครงการดังกล่าวเสร็จสิ้น คือทุกคนและทุกวันมีไฟฟ้าใช้ ระบบสาธารณูปโภคถูกเพิ่มเติม ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของทุกคนกลับมามีความสุข สุดท้ายการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ก็เป็นหนึ่งทางเลือกน่าสนใจในอนาคต การจัดทำโครงการนี้เสมือนเป็นการปูทางเข้าสู่ยุค SmartCity และพิสูจน์ว่านี่คือทางเลือกใหม่สามารถทดแทนพลังงานรูปแบบเดิมๆ ได้
ที่มา : blog.solarcity.com วันที่ : 24 พฤศจิกายน 2559
Samsung โชว์ออฟใช้ฟังก์ชัน AI ในสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S25 คิดเมนูอาหารให้!!7 ชั่วโมงที่แล้ว
Sony เปิดตัวจอย DualSense ลาย Death Stranding 2 สุดลิมิเต็ด ราคาไทย 2,890 บาท เตรียมเปิดพรีออเดอร์ 22 พ.ค. นี้7 ชั่วโมงที่แล้ว
Titaner Dragon Pearl ปากกาที่ถูกพัฒนามาให้ใช้ได้ยันรุ่นพ่อรุ่นหลาน นาน 100 ปี!!13 ชั่วโมงที่แล้ว
Samsung Galaxy F56 5G เน้นหุ่นเพรียวบาง ขับเคลื่อนด้วย Exynos 148015 ชั่วโมงที่แล้ว
Neuralink ได้รับการรับรองจาก อย. สหรัฐฯ เป็นอุปกรณ์ล้ำยุค ช่วยฟื้นฟูการพูดให้ผู้ป่วย10 พ.ค. 68 15:00