www.siamphone.com
หมวดอื่นๆ (Other) | วันที่ : 25 มกราคม 2560
Microsoft ประกาศผลสำรวจผู้บริหารฝ่ายไอทีทั่วเอเชียแปซิฟิกรวม 1,200 คน ใน 12 ประเทศ เผยแนวทางการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การพลิกโฉมธุรกิจในโลกดิจิทัล แม้ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารจัดการระบบโครงสร้างไอทีแบบเดิมๆ ไปพร้อมกัน โดยพบว่าผู้บริหารกว่า 48% ในภูมิภาคนี้เลือกที่จะใช้งานระบบคลาวด์แบบไฮบริดในอนาคตอันใกล้นี้ แทนระบบคลาวด์แบบสาธารณะหรือคลาวด์ภายในองค์กรเพียงอย่างเดียว เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบขององค์กรให้ตอบสนองต่อความต้องการของโลกธุรกิจยุคดิจิทัลได้ดียิ่งขึ้น
ช่วงเวลาไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ถือเป็นเวลาสำคัญสำหรับผู้บริหารฝ่ายไอทีที่กำลังเดินหน้าตามแผนการองค์กรด้วยโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ทันสมัยและมีพื้นฐานอยู่บนเทคโนโลยีคลาวด์ ดังจะเห็นได้จากผลการวิจัยของ IDC ที่ระบุว่าภายในช่วงปลายปี 2560 กว่า 60% ขององค์กรธุรกิจชั้นนำ 1,000 รายทั่วเอเชียแปซิฟิก จะมีกลยุทธ์เพื่อการพลิกโฉมธุรกิจสู่โลกดิจิทัลเป็นหัวใจหลักขององค์กร
หนทางสู่โลกดิจิทัล: ชัดเจนหรือชวนสับสน
ทุกวันนี้ ผู้บริหารฝ่ายไอทีต่างต้องพยายามหาความสมดุลระหว่างการบริหารระบบไอทีแบบเก่า การจัดการงบประมาณ และการปรับเปลี่ยนองค์กรให้พร้อมรับโลกยุคดิจิทัล ผลสำรวจของไมโครซอฟท์ระบุว่าราว 34% ของผู้เข้าร่วมการสำรวจในประเทศไทยได้เริ่มต้นเดินหน้าวางระบบไฮบริดคลาวด์แล้ว โดยคาดว่าจำนวนองค์กรที่เลือกใช้เทคโนโลยีไฮบริดคลาวด์จะเพิ่มขึ้นเป็น 50% ภายในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้านี้ ขณะที่ในปัจจุบัน องค์กรราว 52% ยังใช้ระบบคลาวด์แบบส่วนตัว และอีก 14% ใช้คลาวด์แบบสาธารณะ ทั้งนี้ ผลสำรวจดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่องค์กรต่างๆ จะเลือกลงทุนในโซลูชั่นไฮบริดคลาวด์ แทนที่จะเลือกใช้คลาวด์ส่วนตัวหรือคลาวด์สาธารณะเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
ผู้บริหารฝ่ายไอทีในยุคนี้ ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่พวกเขาต่างมองหาความเรียบง่าย
พลิกโฉมระบบไอทีด้วยเทคโนโลยีไฮบริดคลาวด์
เทคโนโลยีไฮบริดคลาวด์ คือทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบริษัทที่ต้องการใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีคลาวด์ โดยที่ยังรักษาระบบเดิมที่มีอยู่ไว้ด้วย
จากกลุ่มผู้บริหารฝ่ายไอทีราว 50% ที่เลือกพัฒนาระบบไฮบริดคลาวด์ให้กับองค์กรของตนเป็นอันดับแรก พบว่า 8 จาก 10 คนจะมุ่งเน้นการพัฒนาไฮบริดคลาวด์ที่ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว โดยใช้เครื่องมือเพียงชุดเดียวในการบริหารจัดการคลาวด์ทุกส่วน
ฌอน ลอยเซลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจองค์กรและพันธมิตร ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ไฮบริดคลาวด์เป็นก้าวต่อไปที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทุกองค์กรในแถบเอเชียแปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็กหรือใหญ่ มีงบประมาณด้านดิจิทัลมากน้อยเพียงใด การบริหารจัดการทั้งระบบไอทีในปัจจุบันร่วมกับการพัฒนาระบบเพื่ออนาคตถือเป็นภารกิจที่ท้าทายมาก และเทคโนโลยีคลาวด์ก็สามารถเข้ามาตอบโจทย์ได้ด้วยแอพพลิเคชั่นที่เปี่ยมศักยภาพ พร้อมปูทางไปสู่การพัฒนาเครื่องมือบริหารจัดการระบบที่ดีกว่าเดิม แอพพลิเคชั่นอัจฉริยะ และระบบวิเคราะห์ข้อมูลชั้นสูง จึงทำให้องค์กรสามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสรรสร้างนวัตกรรมออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้เราไม่สามารถมองข้ามเทคโนโลยีคลาวด์ไปได้เลย”
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของไมโครซอฟท์กลับเผยว่าผู้บริหารฝ่ายไอทีในประเทศไทยโดยส่วนใหญ่ยังคงมีมุมมองแบบเดิมๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีคลาวด์ โดยถึงแม้ว่ากว่า 89% ของผู้เข้าร่วมการสำรวจจะระบุว่าตนเองมีความพร้อมในการย้ายแอพพลิเคชั่นเชิงธุรกิจขององค์กรขึ้นสู่ระบบคลาวด์สาธารณะในอนาคต แต่เกือบครึ่งหนึ่งของผู้บริหารกลุ่มนี้กลับระบุว่าแอพพลิเคชั่นเหล่านี้จะจำกัดอยู่เพียงแค่แอพพื้นฐานอย่างอีเมลหรือเว็บไซต์บริษัทเท่านั้น โดยมีเพียง 29% ที่ใช้คลาวด์รองรับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นและการดำเนินธุรกิจ
มร. ลอยเซลล์ กล่าวเสริมอีกว่า “ผู้บริหารด้านไอทีจะต้องมุ่งยกระดับศักยภาพใน 4 ด้านหลักๆ เพื่อก้าวสู่โลกดิจิทัลอย่างมั่นใจ ประการแรกคือการเลือกใช้งานเครื่องมือบริหารระบบที่สามารถรับมือความต้องการด้านความปลอดภัยและความซับซ้อนที่เพิ่มมากขึ้น ตามมาด้วยการควบคุมโครงสร้างพื้นฐานระบบขององค์กรด้วยซอฟต์แวร์ที่รองรับทั้งคลาวด์สาธารณะและคลาวด์แบบส่วนตัวจากผู้ให้บริการต่างแบรนด์กัน ส่วนประการที่สามคือการถ่ายโอนระบบสู่โครงสร้างแบบไฮบริดคลาวด์ที่ให้ประโยชน์กับองค์กรได้สูงสุด และประการสุดท้าย คือการใช้คลาวด์ทำงานที่ซับซ้อน เอื้อต่อการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว และปูทางไปสู่การใช้งานเทคโนโลยีคลาวด์ให้ได้ประโยชน์สูงสุด”
ไมโครซอฟท์พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่ไฮบริดคลาวด์ ด้วย วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2016 และ ซิสเต็ม เซ็นเตอร์ 2016
ผู้บริหารฝ่ายไอทีต้องเริ่มวางแผนเพื่อพลิกโฉมธุรกิจสู่โลกดิจิทัลตั้งแต่วันนี้ โดยมีไฮบริด คลาวด์ เป็นหัวใจหลักของกลยุทธ์ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้สามารถรองรับการขยายตัวและการทำงานที่ยืดหยุ่นกว่าที่เคย โดยไม่ส่งผลกระทบกับการควบคุมหรือความปลอดภัยในทุกด้าน
มร. ลอยเซลล์ อธิบายอีกว่า “การเปลี่ยนแปลงธุรกิจสู่รูปแบบดิจิทัลอย่างเต็มตัวถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับองค์กรส่วนมาก เนื่องจากเราต้องคำนึงถึงระบบไอทีและขั้นตอนการทำงานที่ใช้อยู่เดิมด้วย ผู้บริหารฝ่ายไอทีจะต้องเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้สูญเสียศักยภาพในการแข่งขันกับกลยุทธ์ธุรกิจแนวใหม่ในโลกยุคนี้ สำหรับไมโครซอฟท์เอง เรามีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนลูกค้าองค์กรทุกรายและทุกขนาดให้เดินทางสู่จุดหมายได้สำเร็จในโลกดิจิทัล ไม่ว่าจะมีงบลงทุนมากหรือน้อยก็ตาม”
บริการคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานระบบแบบไฮบริดของไมโครซอฟท์ มาพร้อมมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เหนือชั้นและแตกต่าง ครอบคลุมทุกภาคส่วนของการทำงานในทุกระดับ นับตั้งแต่ดีไวซ์ไปจนถึงแอพพลิเคชั่นและโครงสร้างพื้นฐาน ดังจะเห็นได้จากการเปิดตัว วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2016 และ ซิสเต็ม เซ็นเตอร์ 2016 ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของไมโครซอฟท์ในการสนับสนุนภาคธุรกิจให้ก้าวสู่โลกดิจิทัล
ผู้สนใจสามารถทดลองใช้งานซิสเต็ม เซ็นเตอร์ 2016 และ Operations Management Suite พร้อมด้วยวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2016 รุ่นทดลองได้แล้ววันนี้
ที่มา : www.microsoft.com วันที่ : 25 มกราคม 2560
Infinix HOT 50 Pro+ Series สีสันใหม่ เติมเต็มความสดใส ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข47 นาทีที่แล้ว
HMD Key สมาร์ทโฟนสุดประหยัด หน้าจอ 6.52 นิ้ว แบตเตอรี่ 4000mAh6 ชั่วโมงที่แล้ว
Google เลือกใช้โมเด็ม MediaTek T900 ใน Pixel 10 Series ก้าวใหม่ของสมาร์ทโฟนเรือธง8 ชั่วโมงที่แล้ว
HONOR MagicBook X16 Plus และ X14 Plus พลังแห่งประสิทธิภาพในดีไซน์สุดบางเบา11 ชั่วโมงที่แล้ว
Redmi 14C 5G อัปเกรดชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 4 Gen 2 เพิ่มขนาดหน้าจอ และรีเฟรช 120Hz14 ชั่วโมงที่แล้ว
ใช้ชีวิตสมาร์ทๆ กับ Xiaomi 14T และ Xiaomi 14T Pro สมาร์ทโฟนที่คุณต้องมี!!
HONOR Magic7 RSR Porsche Design ตัวท็อปดีไซน์พรีเมียม กล้องหลังหกเหลี่ยม Periscope Telephoto 200MP
OnePlus Ace 5 และ OnePlus Ace 5 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Ace Series ชิปฯ เร็วแรง เอาใจสายเกมมิ่ง
HONOR MagicBook X16 Plus และ X14 Plus พลังแห่งประสิทธิภาพในดีไซน์สุดบางเบา