www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 30 มีนาคม 2560
เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว Galaxy S8 และ Galaxy S8+ สองรุ่นใหม่จาก Samsung ที่ดูเหมือนว่าไม่หนีจากข่าวลือนัก สำหรับไฮไลท์ต้องยกให้กับการเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์ที่ผิดหูผิดตาไปมากทีเดียว แต่ก็ยังคงกลิ่นอายของซีรีย์ S ไว้ครบถ้วน นอกจากนี้ระบบ AI นามว่า Bixby ลูกเล่นใหม่ของแบรนด์ มาพร้อมแพลตฟอร์ม Qualcomm Snapdragon 835 และก็ Samsung Exynos 8895 ที่วางจำหน่ายแตกต่างกันตามกลุ่มตลาด รายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้
ด้านดีไซน์
อย่างแรกที่ต้องเกริ่นก่อนเลยคือเรื่องดีไซน์ที่ทางแบรนด์ดูพิถีพิถันมากขึ้น โดยเน้นการออกแบบให้หน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้น ทว่าขนาดตัวเครื่องไม่เพิ่มตาม ดังนั้นผู้ใช้งานจึงสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนหน้าจอกว้างแต่ขนาดเหมาะสมกับมือ ซึ่งบอดี้ตัวเครื่องจะเป็นโลหะทั้งหมดด้านหน้าด้านหลังครอบทับกระจก Corning Gorilla Glass 5 และที่สำคัญจะไม่มีปุ่มโฮมอีกต่อไปแล้ว ส่วนปุ่ม Power ก็ถูกวางตำแหน่งไว้ฝั่งขวา ขณะที่ฝั่งซ้ายจะเป็นในส่วนของปุ่มเพิ่ม/ลด เสียง ถัดลงมาเป็นปุ่มพิเศษที่ให้ผู้ใช้สามารถกดเพื่อเรียกงาน "Bixby"
ไร้ปุ่ม Home แต่มีปุ่มควบคุมแบบแอนดรอยด์บนหน้าจอ ทว่าปุ่มโฮมมีคุณสมบัติรับรู้แรงกด
ตามข่าวลือเลยว่าสองพี่น้องจะไร้ปุ่มโฮม สำหรับปุ่มควบคุมถูกย้ายไปไว้ในหน้าจอแทน ซึ่งมีลักษณะการใช้งานไม่แตกต่างจากแอนดรอยด์ทั่วไป และสามารถเปลี่ยนตำแหน่งสลับซ้ายขวาตามถนัดได้
ทว่าปุ่มโฮมมีความพิเศษคือสามารถรับรู้แรงกดที่แตกต่างกันจึงทำให้มีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งต้องรอการใช้งานจริงอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร
หน้าจอ
Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ จะมีขนาดหน้าจอแตกต่างกันแต่ใช้เทคโนโลยีเหมือนกันคือ Super AMOLED เพิ่มความละเอียดมากขึ้น 2960 × 1440 พิกเซลหรือ Quad HD+ นั่นก็เพื่อตอบโจทย์คอนเทนต์วิดีโอแบบ HDR มากขึ้น พร้อมอัตราส่วนใหม่ 18.5:9 และก็ฟีเจอร์ Always-on display โดยขนาดหน้าจอมีดังต่อไปนี้
เซ็นเซอร์สแกนม่านตาและเหล่าเซ็นเซอร์ที่น่าสนใจ
สำหรับพี่น้องจะมีระบบความปลอดภัยทางกายภาพสองชั้น ได้แก่ ระบบสแกนม่านตาและสแกนลายนิ้วมือ โดย Iris scanner (สแกนม่านตา) วางตำแหน่งไว้เหนือหน้าจอซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยมากที่สุด ณ ตอนนี้ไม่สามารถปลอมแปลงและเปลี่ยนแปลงได้อันเนื่องมากจากอายุไข ขณะที่ด้านหลังก็มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือถูกพัฒนาให้สามารถปลดล็อคได้รวดเร็วกว่าเดิมแค่แตะก็ใช้ได้เลย ทั้งยังใช้ปุ่มสแกนลายนิ้วมือร่วมกับกล้อง, แอพฯ เป็นต้น นอกจากนี้ฝั่งซ้ายมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วยเพื่อใช้งานควบคู่กับเหล่าอุปกรณ์เสริม
รองรับการทำงานร่วมกับ Secure Folder, Samsung Pass และ Samsung Pay
ทำความรู้จัก Bixby ผู้ช่วยส่วนตัวที่มาพร้อมความอัจฉริยะ
อย่างที่เกริ่นข้างต้นทาง Samsung ได้เพิ่มปุ่มกดเพื่อเรียกใช้งานผู้ช่วยส่วนตัวนี้ขึ้นมาฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง โดยความสามารถแบ่งออกเป็น 4 หัวข้อหลัก ได้แก่
หน่วยประมวลผล
Galaxy S8 และ Galaxy S8+ จะใช้แพลตฟอร์ม Qualcomm Snapdragon 835 และ Samsung Exynos 8895 ในการเป็นหัวใจประมวลผล โดยมีการวางจำหน่ายแตกต่างกันในปลุ่มตลาด ส่วนสเปกอื่นๆ เหมือนกัน มี Ram 4GB, พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 64GB (UFS2.1) รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256GB ส่วนแบตเตอรี่จะมีความจุต่างกัน S8 มาพร้อม 3000mAh และ S8 Plus มีความจุ 3500mAh รองรับการชาร์จเร็วและสามารถชาร์จไร้สาย (WPC&PMA) ซึ่งจะสามารถใช้งานได้สองซิมการ์ด แต่ก็น่าเสียดายเพราะเป็นแบบ Hybrid หมายความต้องเลือกสองซิมการ์ดหรือหนึ่งซิมการ์ด + MicroSD Card
ระบบปฏิบัติการ
ทั้งคู่รันแพลตฟอร์มแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0 (Nougat) ครอบทับด้วย Samsung Experience ความน่าสนใจคือทางซัมซุงได้ลดแอพฯ ที่ติดตั้งมากับเครื่อง และเปลี่ยนแปลงให้เหล่า UI ทันสมัยพร้อมความสวยงามยิ่งขึ้นในแบบฉบับเรียบง่าย สามารถสังเกตได้เลยว่าเปลี่ยนไป
กล้องดิจิตอล
ดูเหมือนว่าครั้งนี้ทางซัมซุงไม่ได้มุ่งเน้นการพัฒนากล้อง เพราะอาจเข้าใจว่าของเดิมก็ดีอยู่แล้ว ซึ่งก็มีข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าเพิ่งได้รับรางวัลไป อย่างไรตามทั้งสองมาพร้อมกล้องด้านหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เทคโนโลยี Dual Pixel ที่มีการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ให้ดียิ่งขึ้นโดยก็มีตัวอย่างคือ จะทำการจับภาพนั้นที่เราได้ถ่ายไว้หลายภาพในเฟรมเดียวแล้วรวมกันเป็นหนึ่งภาพเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด เรียกกระบวนการนี้ว่า " Multiframe Processing "
กล้องหน้าเพิ่มความละเอียดขึ้นเป็น 8 ล้านพิกเซลปรับปรุงซอฟต์แวร์ด้วยกระบวนการ " Multiframe Processing " พร้อมระบบออโต้โฟกัสแบบ Clever face detection ทั้งนี้รูรับแสงของกล้องหน้าและกล้องหลังกว้าง F/1.7
ประเด็นน่าสนใจเพิ่มเติมของ Galaxy S8 และ Galaxy S8+
ทั้งคู่มาพร้อมคุณสมบัติกันนํ้ากันฝุ่นมาตรฐาน IP68 โดยภายในกล้องทางแบรดน์ยังใจปลํ้าแถมหูฟังแบรนด์เสียงชื่อดังระดับโลกมาด้วยนั่นคือ AKG ที่มีราคาประมาณ $100 หรือ 3,4xx บาท นอกจากนี้ผู้ชื่นชอบการใช้งานสองหน้าจอพร้อมกันหรือสองแอพฯ พร้อมกันก็เล่นได้เลยไม่มีปัญหา
Bluetooth 5 มาตรฐานใหม่ เริ่มใช้แล้วเป็นต้นไป
สำหรับ Samsung Galaxy S8 และ Galaxy S8+ มีเฉดสีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Midnight Black, Orchid Gray, Coral Blue, Arctic Silver และ Maple Gold ส่วนราคาดังนี้
ที่มา : www.androidheadlines.com วันที่ : 30 มีนาคม 2560
ENNXO แนะนำ 5 เครื่องรางเสริมฮวงจุ้ย ด้านโชคลาภ เงินทองและค้าขาย1 ชั่วโมงที่แล้ว
vivo T3x 5G สมาร์ทโฟนเริ่มต้นระดับกลาง ชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 1 ได้หน้าจอ 120Hz มาด้วย2 ชั่วโมงที่แล้ว
Moondrop MIAD 01 สมาร์ทโฟนเพื่อเสียงเพลง MasterHIFI บอร์ดเสียงชุบทองคำ มีช่องเสียบหูฟัง 2 ช่อง!6 ชั่วโมงที่แล้ว
เลือกอะไรดี! HONOR Pad9 vs Samsung Galaxy Tab S6 Lite (2024) ราคาต่างกัน 2,000 บาท8 ชั่วโมงที่แล้ว
ส่องฟีเจอร์ใหม่! ปุ่ม Lookup บนแอปฯ Phone ของสมาร์ทโฟน Android ช่วยเช็คเบอร์มือถือ ป้องกันมิจฉาชีพ10 ชั่วโมงที่แล้ว
vivo T3x 5G สมาร์ทโฟนเริ่มต้นระดับกลาง ชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 1 ได้หน้าจอ 120Hz มาด้วย
Moondrop MIAD 01 สมาร์ทโฟนเพื่อเสียงเพลง MasterHIFI บอร์ดเสียงชุบทองคำ มีช่องเสียบหูฟัง 2 ช่อง!
รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G ในย่านนี้พี่ขอ กับสเปคสุดเตะตา รวดเร็วจอลื่นได้กล้องระดับ 200MP มี OIS
สรุปจุดเด่นและสเปค Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ชาร์จเร็วโคตร 100 วัตต์ ลำโพงคู่ JBL หน้าจอ 120Hz อุปก...
realme Narzo 70x 5G และ realme Narzo 70 5G หน้าจอ 120Hz แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W
Nothing Ear และ Nothing Ear (a) ประกาศวันเปิดตัว มีการรีเซ็ตชื่อ และมาด้วยกัน 2 รุ่น
Maono WM620 PC2 ไมโครโฟนไร้สาย ที่สายคอนเทนต์ต้องมี เพราะใช้งานง่ายมาก
Polestar Phone เมื่อแบรนด์รถยนต์ EV เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตนเอง สเปคจัดเต็ม!
TECNO CAMON 30 Premier 5G หน้าจอ AMOLED 6.77 นิ้ว ชิปเซ็ต Dimensity 8200 Ultimate กล้อง 3 ตัว 50MP
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,700 บาท