www.siamphone.com

ข่าว

ทริคเด็ดๆ ที่ทำให้ 3 ปัญหาหลักของ iPhone ไม่กวนใจผู้ใช้อีกต่อไป

หมวดอื่นๆ (Other)   |   วันที่ : 26 มิถุนายน 2560

ในตอนนี้ iPhone ขอบคุณกำลังเจอปัญหาเครื่องที่ช้าลงหรือแบตเตอรี่หมดไวอยู่หรือเปล่า? ซึ่งสัญญาณเตือนแรกเมื่อ iPhone ขอบคุณเริ่มเสื่อมสภาพก็คือการที่แบตเตอรี่ของคุณอยู่ได้ไม่นานกว่าที่เคยเป็น และนี่ก็คือวิธีที่สามารถแก้ปัญหา 3 อย่างหลักๆ ได้แก่ แบตเตอรี่หมดไว เครื่องดับเองโดยไม่ทราบสาเหตุ และเครื่องที่ร้อนเกินไปในขณะกำลังชาร์จ

อย่างแรก คือ ปัญหาแบตเตอรี่หมดไว :

เป็นปัญหาหลักของใครหลายๆ คน โดยวิธีการแก้วิธีแรกการสำรวจการใช้งานของแบตเตอรี่ของคุณ ให้ไปที่ Settings > Battery ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงการใช้งานของแอพฯ ต่างๆ ที่ใช้งานแบตเตอรี่ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาหรือใน 1 สัปดาห์ หลังจากที่สำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากแอพฯ ไหนที่ไม่จำเป็นก็จัดการลบทิ้งได้เลย นอกจากนี้การปิด "Hey Siri" ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ผู้ใช้งานเลือกใช้ ซึ่งผู้ใช่สามารถปิดฟีเจอร์นี้ด้วยการไปที่ Settings > Siri และปิดการทำงานของ "Hey Siri" ได้ทันที

ปัญหาต่อมา คือ iPhone ดับเองโดยอัติโนมัติก่อนที่แบตเตอรี่จะกลายเป็น 0% :

มีวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นคือปล่อยให้แบตเตอรี่หมด แล้วชาร์จให้เต็ม 100% แต่ถ้าใครที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ให้ลองทำตามด้วย 2 วิธีนี้ คือ การอัพเดตเครื่องให้เป็นรุ่นล่าสุดอยู่เสมอ สามารถเช็คได้โดยการไปที่ Settings > General และ Software Update ส่วนวิธีที่ 2 คือ การแบ็คอัพข้อมูลและรีเซ็ตแบบคืนค่าโรงงาน ซึ่งหาก iPhone ของคุณเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว อาจจะลองด้วยการกดปิดและเปิดเครื่องใหม่ในเบื้องต้น หรือทำการเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ใน iTune หรือ iCloud ก่อน จากนั้นจึงทำการรีเซ็ตคืนค่าโรงงาน และไม่ต้องห่วงว่าการแอพฯ ที่คุณได้ซื้อมาจะต้องกลับมาซื้อใหม่ เพราะคุณสามารถกลับมาซื้อได้ฟรีหลังจากเข้าระบบ App Store ใหม่อีกครั้ง ซึ่งการคืนค่าโรงงานสามารถทำได้โดยการไปที่ Settings > General > Reset และกดที่ Erase All Content and Settings

และปัญหาหลักๆ สุดท้าย คือ การที่แบตเตอรี่มีความร้อนผิดปกติตอนกำลังชาร์จ :

สาเหตุหลักๆ ของการเกิดปัญหานี้คือการใช้สายชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานของ Apple นั่นเอง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นสายชาร์จของ Apple เพียงอย่างเดียว แต่ให้คุณใช้สายชาร์จที่ได้รับรองมาตรฐานที่ใช้สำหรับ iPhone, iPad หรือ iPod

ที่มา : www.cnet.com วันที่ : 26 มิถุนายน 2560

Tags :
20,119
อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข่าวล่าสุด

ไฮไลท์ข่าว

หมวดข่าว

None AMP version