www.siamphone.com
แอปพลิเคชัน (Application) | วันที่ : 4 กรกฎาคม 2560
เก็บตกจากงาน LINE MAN 1st Anniversary ไปเมื่อกลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า O2O เป็นเทรนด์ธุรกิจที่น่าจับตามองในประเทศไทยในตอนนี้ โดยเฉพาะในประเทศที่มีการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือที่มากเป็นพิเศษอย่างไทยเรา การจะเอาสื่อออนไลน์มาทำประโยชน์ให้ธุรกิจ ออฟไลน์ซึ่งถือเป็นรูปแบบธุรกิจที่ดำเนินมาช้านาน เช่น ธุรกิจค้าปลีก นับว่าเป็นสิ่งที่ดี ทว่า สิ่งที่เราหวังกับความเป็นจริงยังคงต่างกัน จากสถิติพบผู้ค้าปลึกในไทยที่เป็นออนไลน์หรือผันตัวเองเข้ารูปแบบออนไลน์ ยังมีไม่ถึง 3% ของจำนวนผู้ค้าปลึกทั้งหมดเท่านั้น!
ผู้ค้าปลีกดั้งเดิมหลายคน ไม่กล้าที่จะก้าวเข้าสู่ออนไลน์ เหตุจากความเข้าใจผิดกับคำว่า Digital Disruption หรือการเข้ามาแทรกแซงของดิจิตอล ว่าจะเป็นตัวทำให้ธุรกิจออฟไลน์หรือธุรกิจที่มีหน้าร้านถดถอยลงและทยอยปิดตัวลงไปในที่สุด แต่ความจริงแล้ว การที่จะทำให้ธุรกิจออฟไลน์เหล่านั้นอยู่รอดท่ามกลางสภาวะ Digital Disruption นั้นไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณรู้จักการดำเนินธุรกิจประเภท “O2O”
O2O หรือธุรกิจแบบ Online to Offline คนไทยอาจจะยังไม่คุ้นเคยซักเท่าไหร่ แต่เชื่อว่านักการตลาดน่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้วบ้างแน่นอน โดยประเทศผู้นำด้าน O2O คงหนีไม่พ้นประเทศจีน ที่มีพฤติกรรมผู้บริโภคใช้งานบริการออฟไลน์ต่างๆ ผ่านออนไลน์สูงเป็นอันดับต้นๆ ด้วยมูลค่าการค้าขายออนไลน์เกินกว่า 20 ล้านล้านบาท ในขณะที่ไทยเราตอนนี้ยังคงไม่เกิน 3 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อให้เห็นภาพ O2O ชัดขึ้น ขอหยิบ quote อ้างอิงมาจากคุณ Pawoot ที่ว่า “O2O คือ "การใช้ความสามารถของสื่อออนไลน์กระตุ้นให้เกิดความต้องการ (Demand) และไปเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของธุรกิจที่มีหน้าร้านค้าในโลกออฟไลน์" และในแง่ของเทคโนโลยี O2O คือ “การผสมผสานของเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต + โซเชียลเน็ตเวิร์ค + โทรศัพท์มือถือ + การค้าหน้าร้านค้า เข้าด้วยกันอย่างลงตัว”
เห็นแบบนี้ อาจคิดว่า “งั้นทุกแอพฯ ก็เป็น O2O สิ” แต่ช้าก่อน! อย่าลืมว่า O2O ต้องมาจากการดึงออนไลน์มาสร้างผลประโยชน์ให้กับออฟไลน์ ใช่ว่าทุกแอพฯ จะนำไปสู่บริการที่เกิดในออฟไลน์หรือมีหน้าร้านกันหมดทุกแอพ ดังนั้น คิดใหม่! ใช่ว่าทุกแอพฯ จะเป็น O2O หมดเสมอไป ถ้าจะเรียกให้ง่าย ในภาษาบ้านเรา อาจจะพูดได้ว่า “กิจกรรม/บริการออฟไลน์อะไรก็ตามที่คุณเรียกใช้ผ่านมือถือหรือผ่านออนไลน์ นั่นแหละคือ O2O”
มาที่ LINE คนไทยส่วนใหญ่หลายคนก็รู้จักในฐานะแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำในหลากประเทศรวมถึงไทย ด้วยเหตุนี้ LINE จึงอยากดึงเอาความเป็นออนไลน์ มาเป็นตัวช่วยทำให้กิจกรรมหรือบริการออฟไลน์ในบ้านเรา ได้มีความพัฒนา ก้าวหน้ายิ่งขึ้น และที่สำคัญ ขายได้มากขึ้น! และทำให้เกิดผลประโยชน์ต่อผู้รับประโยชน์ปลายทางคือผู้บริโภคด้วย ให้สามารถใช้บริการออฟไลน์เหล่านั้นได้สะดวกสบายมากขึ้น รวมๆ คือพัฒนาทั้งผู้ประกอบการ พัฒนาทั้งคุณภาพชีวิตผู้บริโภคไปในตัว!
กิจกรรมหรือบริการออฟไลน์ที่ LINE ดึงเอามาพัฒนานั้นคืออะไร? เราก็ต้องมาย้อนดู Demand จากคนทั่วไปในสังคมซะก่อน ผลการสำรวจภายในของ LINE จากกลุ่มตัวอย่างผู้บริโภคในเมืองกรุง ถึงความต้องการผู้ช่วยในชีวิตประจำวันว่าถ้าเป็นไปได้ อยากได้ความช่วยเหลือในด้านไหนมากที่สุด พบว่า อันดับแรก "อาหาร" มาอันดับ 1 สำคัญที่สุดทั้งในด้าน Value และ Volume คือต้องการสูงและต้องการบ่อย ทุกวัน ไม่มีวันไหน ยอมแพ้เรื่องอาหารแน่นอน!
รองลงมาที่คนกรุงต้องการสูงเช่นกัน คือ "แมสเซนเจอร์" ผู้ช่วยที่จะคอยส่งของ เอกสารด่วนให้เราในเวลาที่เราต้องการ โดยปัจจัยหลักคงหนีไม่พ้นสภาพการจราจร และชีวิตอันเร่งรีบในแต่ละวันที่จะต้องแข่งกับเวลา ทำให้บริการแมสเซนเจอร์ เป็นอีกหนึ่งบริการที่หลายคนต้องการเพื่อมาตอบโจทย์ในการดำรงชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว
อันดับต่อมาคือ การซื้อของใช้อุปโภคบริโภคต่างๆ ในการดำรงชีพตาม "ร้านสะดวกซื้อ" ผู้ช่วยที่จะตอบโจทย์เมื่อยามฉุกเฉิน แม้ร้านสะดวกซื้อจะเปิดให้บริการใกล้บ้านเพียงใดก็ตาม แต่เมื่อถึงยามคับขันแล้ว การได้ผู้ช่วยมาช่วยซื้อของจากร้านสะดวกซื้อก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ชาวกรุงยังคงเรียกร้องอยู่อีกด้วย และรองลงมาคือการ "ส่งพัสดุ" ยิ่งโดยเฉพาะในยุคที่ SME กำลังเติบโต ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ แต่มีฐานลูกค้าอยู่ทั่วประเทศได้ ความต้องการส่งของที่ปลอดภัย รวดเร็วและครอบคลุมทั่วไทยจึงกลายเป็นอีกหนึ่งผู้ช่วยที่คนในเมืองกรุงต้องการตามลำดับ
และด้วยผลการสำรวจนี้เองจึงเป็นที่มาและต้นกำเนิดของ 4 บริการหลักใน LINE MAN ถามว่าแล้วมันเป็น O2O ด้วยการใช้สื่อออนไลน์สร้างประโยชน์ให้ธุรกิจออฟไลน์ในรูปแบบไหน มาดูกัน
จะเห็นได้ว่า LINE MAN เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยเสริมสร้างผลประโยชน์ให้กับธุรกิจออฟไลน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนส่ง ธุรกิจการค้าปลีก ทั้งในรูปแบบร้านค้าและร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจร้านอาหาร เช่น ร้านเจ๊โอว ร้านมาม่าชื่อดังยามดึกย่านจุฬา หรือร้านเรือธง ร้านอาหารทะเลย่านรามอินทราที่สามารถสร้างรายได้จากลูกค้าที่สั่ง LINE MAN ถึงหลักล้านเลยทีเดียว! ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ธุรกิจออฟไลน์หรือ O ตัวที่สอง ให้มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยี ให้มียอดขายเพิ่มขึ้นเท่านั้น LINE MAN ยังตอบโจทย์ผู้ใช้งานคือบุคคลทั่วไปให้มีชีวิตที่ดี สะดวกสบายยิ่งขึ้นอีกด้วย
เรียกได้ว่า LINE MAN เป็น O2O ที่สร้างกำไรสองต่อทั้งกับธุรกิจออฟไลน์และกับผู้ใช้งานไปพร้อมๆ กัน ทำให้ผู้รับประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่ายคือผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้ก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ (ผ่าน Mobile) ไปด้วยกันได้อย่างสมดุล ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจแบบ O2O จึงนับว่าเหมาะที่จะนำมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย และ LINE MAN ก็พร้อมจะเป็นผู้นำในธุรกิจแบบ O2O เพื่อจะขยายให้เอื้อประโยชน์ไม่ใช่เพียงแต่ในเมืองกรุงเท่านั้น แต่จะก้าวไปสู่การพัฒนาเพื่อผลประโยชน์ต่อคนไทยทั้งประเทศในอนาคตอย่างแน่นอน
ที่มา : linecorp.com วันที่ : 4 กรกฎาคม 2560
เครื่องฟอกอากาศ Dyson Purifier Big+Quiet Formaldehyde ใหญ่และเงียบสมชื่อ9 ชั่วโมงที่แล้ว
Redmi Note 13 Pro+ World Champions Edition รุ่นพิเศษฉลองแชมป์11 ชั่วโมงที่แล้ว
ทำความรู้จัก HONOR X8b หน้าจอ 6.7 นิ้ว กล้องเซลฟี่ 50MP ชาร์จเร็ว 35 วัตต์15 ชั่วโมงที่แล้ว
เก็บโค้ดลดเพิ่ม ให้ช็อปบนเว็บไซต์ Mercular คุ้มค่ายิ่งขึ้น17 ชั่วโมงที่แล้ว
TCL จัดโปรโมชั่นเทศกาล Back to School แท็บเล็ต 3 รุ่น ซื้อรับของแถมไปเลย!!17 ชั่วโมงที่แล้ว
ส่องฟีเจอร์ใหม่! ปุ่ม Lookup บนแอปฯ Phone ของสมาร์ทโฟน Android ช่วยเช็คเบอร์มือถือ ป้องกันมิจฉาชีพ
Google เปิดตัว Find My Device เวอร์ชันใหม่ ค้นหาอุปกรณ์ Android ได้แม้ปิดเครื่องหรือไม่มีเน็ต!
Google รีแบรนด์ Fitbit อีกครั้ง! เปลี่ยนชื่อใหม่ โลโก้ใหม่ และรวมเข้ากับ Google Store
สแกนเอกสารง่าย ๆ บนสมาร์ทโฟน กับฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดจาก Files by Google
Samsung รวม How-to มือใหม่เปลี่ยนบ้านให้ Smart แบบง่ายๆ กับ SmartThings
เตรียมเปิดตัว Samsung Galaxy Watch FE สมาร์ทวอทช์ราคาย่อมเยาในปีนี้
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,700 บาท
สรุปจุดเด่นและสเปค realme 12x 5G มือถือราคาครึ่งหมื่นก็ใช้งานเน็ต 5G ได้แล้ว อย่างคุ้ม!
Maono WM620 PC2 ไมโครโฟนไร้สาย ที่สายคอนเทนต์ต้องมี เพราะใช้งานง่ายมาก
vivo T3x 5G สมาร์ทโฟนเริ่มต้นระดับกลาง ชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 1 ได้หน้าจอ 120Hz มาด้วย