มีงบไม่เกิน 10,000 บาท ซื้อสมาร์ทโฟนในงาน Thailand Mobile Expo 2017 รุ่นใดได้บ้าง

อีกหนึ่งงานใหญ่สำหรับมหกรรมรวมเหล่าสมาร์ทโฟนครั้งสุดท้ายของปี 2017 ต้องบอกว่ารอบนี้มีแต่รุ่นเด็ดๆ น่าสนใจทั้งนั้น โดยขอชี้เป้าแนะนำช่วงราคามากกว่า 3,000 ไม่เกิน 10,000 บาท และในบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว เพราะฉะนั้นใครที่เจอรุ่นไหนถูกใจแค่เตรียมเงิน และเดินเข้าไปซื้อเลย อย่าลืมตรวจเช็คสินค้าก่อนจ่ายเงิน และต่อรองเรื่องของแถมกับพวกลดราคา เนื่องจากรอบนี้ก็เป็นเหมือนกับการระบายสินค้าและกระตุ้นยอดขายสิ้นปี

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

• [คัมภีร์มือถือ] รวมทุกเรื่องราวสมาร์ทโฟน และเกร็ดความรู้ต่างๆ

หมายเหตุ : สมาร์ทโฟนที่แนะนำเป็นรุ่นที่เปิดตัวปี 2017

 

เริ่มกันที่ AIS LAVA 4G VoLTE 80 ชูจุดเด่นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 7.0 (Nougat) สามารถโทรติดต่อสื่อสารได้คมชัดด้วยเทคโนโลยี 4G LTE ประมวลผลด้วย CPU Quad-Core หน้าจอขนาดพอดีมือ 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1,080 x 720 พิกเซล ส่วนกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีออโต้โฟกัส ทั้งยังเล่นเน็ตได้ไม่อั้น โทรฟรีในเครือข่าย พร้อมดูซีรีย์ดี หนังสนุกจาก HOOQ ไม่อั้น 45 วัน

ราคาวางจำหน่าย 3,190 บาท พร้อมรับสิทธิ์โทร+เน็ต มูลค่า 2,800 บาท เน็ตฟรี 3GB รวม 3,250 บาท

ต่อกันด้วย Asus หากเป็นรุ่นราคาตํ่ากว่าหนึ่งหมื่นบาทมีทั้งหมดสองรุ่นที่เปิดเผยราคาออกมา ได้แก่

• ZenFone 4 Selfie จะวางจำหน่าย ในราคา 8,990 บาท
• ZenFone 4 Max Pro จะวางจำหน่าย ในราคา 7,990 บาท

รายละเอียดสเปกสรุปข้อมูลได้ดังต่อไปนี้

  ZenFone 4 Max Pro ZenFone 4 Selfie ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat ครอบทับด้วย ZenUI 4.0 Android 7.1.1 Nougat ครอบทับด้วย ZenUI 4.0 หน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 430 Qualcomm Snapdragon 430 GPU Adreno 505 Adreno 505 RAM 3GB 4GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 32GB 64GB MicroSD Card 256GB 2TB เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ รองรับ รองรับ แบตเตอรี่ 5,000mAh 3,000mAh

รุ่น Asus Zenfone 4 Max Pro เน้นถ่ายภาพมากขึ้นด้วยสเปกดีกว่าเลนส์ตัวแรกความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ใช้เซ็นเซอร์ Omnivision 16880 จุดพิกเซลขนาด 1.12um มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 79 องศา ส่วนอีกเลนส์มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเซ็นเซอร์ Omnivision 5675 จุดพิกเซลเท่ากัน รูรับแสง f/2.2 มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 120 องศา

กล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 76 องศา ไฟแฟลช Softlight และรูรับแสง f/2.0 รวมถึงโหมดบิวตี้ Selfie Panorama ถ่ายได้กว้างถึง 140 องศา

Asus Zenfone 4 Selfie

เริ่มที่กล้องหน้าเลนส์คู่ เลนส์แรกมีความละเอียด 20MP ใช้เซ็นเซอร์ Omnivision 20880 จุดพิกเซลขนาด 1.0um มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 69 องศา รูรับแสง f/2.0 และก็อีกหนึ่งเลนส์ความละเอียด 8 MP ส่วนมุมมองการถ่ายภาพกว้าง 120 องศา รูรับแสง f/2.4 เซ็นเซอร์ Omnivision 8856 พร้อมจุดพิกเซล 1.12um ซึ่งมีโหมดบิวตี้ ไฟแฟลชแบบ Softlight นอกจากนี้มีโหมด Beauty Live ปรับหน้าสวยหล่อขณะที่ทำการถ่ายทอดสดได้สูงสุด 10 ระดับ รวมถึงโหมด Portrait

ส่วนกล้องหลังมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซลเซ็นเซอร์ Omnivision 16880 มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 80 องศา ระบบจับโฟกัส PDAF มีไฟแฟลช RealTone รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด FullHD พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว EIS จำนวน 3 แกน ขณะที่โหมดถ่ายภาพ ได้แก่ โหมดโปร โหมดบิวตี้ โหมด GIF โหมด Super Resolution โดยถ่ายภาพความละเอียด 64MP โหมด Time Lapse โหมดเซลฟี่พาโนราม่าเก็บมุมมองรอบตัวเองได้กว้างถึง 270 องศา เป็นต้น

นอกจากนี้ภายในงานแบรนด์เอซุสเตรียมเปิดราคาสองพี่น้อง Zenfone 4 & Zenfone 4 Pro ด้วย รอติดตามกันได้เลย ทางเราจะนำรายการของแถมพร้อมโปรโมชั่นเด็ดๆ มารายงาน

ส่วน Gionee ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะลุยตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทย โดยนอกจากเตรียมเปิดตัว M7 Power ภายในงานแล้ว ยังมีขุนพลราคาไม่ตํ่ากว่าหนึ่งหมื่นบาทมาวางจำหน่าย

• ทำความรู้จัก Gionee X1 หน้าจอ 5 นิ้ว HD เน้นเซลฟี่ 8MP แบตฯ 3000mAh ราคา 4,990 บาท
• ทำความรู้จัก Gionee X1s หน้าจอ 5.2 นิ้ว HD สแกนนิ้วมือได้ กล้องหน้าเซลฟี่ 16MP แบตฯ 4,000mAh ราคา 6,990 บาท
• ทำความรู้จัก Gionee A1 Lite เน้นเซลฟี่ 20MP สแกนนิ้วได้ มีฟังก์ชั่น IR แบตฯ 4000mAh ราคา 7,990 บาท

ต้องบอกว่า Huawei ไม่มีพลาดการลุยงานมหกรรมสมาร์ทโฟนครั้งยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีด้วยการส่ง 3 รุ่น ในครอบครัว Y Series ได้แก่ Y3 (2017), Y5 (2017) และ Y7 รายละเอียดดังนี้

  Y3 (2017) Y5 (2017) Y7 ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 6.0 ครอบทับ EMUI 4.1 Mini แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 6.0 ครอบทับ EMUI 4.1 แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0 ครอบทับ EMUI 5.1  หน้าจอ 5 นิ้ว ความละเอียด 854 x 480 พิกเซล 5 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 720 พิกเซล  5.5 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 720 พิกเซล  หน่วยประมวลผล MediaTek MT6737M CPU Quad-Core  MediaTek MT6737T CPU Quad-Core Qualcomm Snapdragon CPU Octa-Core  GPU Mali T720 MP2 Mali T720 MP2   Adreno 505 RAM 1GB 2GB 2GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 8GB 16GB 16GB  MicroSD Card รองรับ รองรับ รองรับ  กล้องหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล   ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล กล้องหน้า ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล  ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล  ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ระบบเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11b/g/n 2.4GHz, BT4.0 LE, GPS/AGPS, 3G, 4G LTE Wi-Fi 802.11b/g/n 2.4GHz, BT4.0 LE, GPS/AGPS, 3G, 4G LTE   Wi-Fi 802.11b/g/n 2.4GHz, BT4.1, GPS/AGPS, 3G, 4G LTE  แบตเตอรี่ 2200mAh 3000mAh   4000mAh  ราคา 3,290 บาท  4,290 บาท  5,490 บาท

ส่วนแบรนด์ Infinix มีสมาร์ทโฟน 3 รุ่นที่น่าสนใจในราคาแตกต่างกัน รายละเอียดดังนี้

  Infinix HOT4 Pro X556 Infinix S2 Pro Infinix NOTE4 Pro ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 6.0 ครอบทับ XOS แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 6.0 ครอบทับ XOS แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0 ครอบทับ XOS หน้าจอ IPS-LCD 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 720 พิกเซล  IPS-LCD 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 720 พิกเซล  IPS-LCD 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1,920 x 1080 พิกเซล  หน่วยประมวลผล MediaTek MT6737 CPU Quad-Core  MediaTek MT6753 CPU Octa-Core MediaTek MT6753 CPU Octa-Core GPU Mali T720 MP2 Mali T720 MP2 Mali T720 MP2 RAM 2GB 3GB 3GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 16GB 32GB 32GB  MicroSD Card สูงสุด 128GB สูงสุด 128GB สูงสุด 128GB กล้องหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล   ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล  ความละเอียด 13 + 8 ล้านพิกเซล  ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ระบบเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, 2.4GHz, BT4.1 LE, GPS/AGPS, 3G, 4G LTE WI-FI IEEE 802.11 a/b/g/n, BT4.2, GPS/AGPS, 3G, 4G LTE, USB OTG WI-FI IEEE 802.11 a/b/g/n, BT4.2, GPS/AGPS, 3G, 4G LTE, USB OTG แบตเตอรี่ 4000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 3000mAh   4500mAh รองรับการชาร์จเร็ว สแกนลายนิ้วมือ รองรับ รองรับ รองรับ ราคา 3,990 บาท  5,590 บาท  7,990 บาท

สมาร์ทโฟน Infinix NOTE4 Pro มีปากกา Xpen

 ต่อกันด้วยแบรนด์ iMi ที่มีรุ่นใหม่ล่าสุดให้เลือกจับจองทั้งหมด 3 รุ่น 3 สไตล์ ได้แก่

  iMi Vin3 S iMi Vin3 X Edition iMi Wisdom Limited ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0 ครอบทับ iMi UI แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0 ครอบทับ iMi UI แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0 ครอบทับ iMi UI หน้าจอ 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 720 พิกเซล  5.7 นิ้ว ความละเอียด 1,080 x 540 พิกเซล อัตราส่วน 18:9 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1,080 x 540 พิกเซล  หน่วยประมวลผล CPU Quad-Core 1.7GHz CPU Octa-Core 1.7GHz CPU Octa-Core 1.7GHz RAM 2GB 3GB 3GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 16GB 32GB 32GB  MicroSD Card สูงสุด 64GB สูงสุด 128GB สูงสุด 128GB กล้องหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล   ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล  ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล  ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ 2500mAh 3000mAh   3000mAh สแกนลายนิ้วมือ ไม่รองรับ ไม่รองรับ แต่ใช้ระบบสแกนใบหน้า รองรับและมีระบบสแกนใบหน้า ราคา 2,990 บาท 4,590 บาท 4,990 บาท

สำหรับแบรนด์ Moto มีสมาร์ทโฟนที่อยู่ในเงื่อนไขจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ E4, E4 Plus และ C Plus ซึ่งยังมีสองรุ่นใหม่เพิ่มเติมด้วยนั่นคือ G5s กับ G5s Plus อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

• รีวิว Moto E4 สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์หน้าจอ 5 นิ้ว, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ในราคาสบายกระเป๋า
• ทำความรู้จัก Moto E4 Plus จุดเด่นแบตฯ 5000mAh หน้าจอ 5.5 นิ้ว HD ราคา 5,990 บาท
• รีวิว moto C Plus สมาร์ทโฟนแบตฯ ใหญ่ความจุ 4000 mAh หน้าจอ 5 นิ้ว กล้องถ่ายรูป 8 ล้านพิกเซลมีแฟลช รันบน Android 7.0

เปรียบเทียบสเปกสองสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ G5s กับ G5s Plus

  G5s G5s Plus ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat Android 7.1.1 Nougat หน้าจอ ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด FullHD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 430 Qualcomm Snapdragon 625 GPU Adreno 505 Adreno 506 RAM 3GB 3GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 32GB 32GB MicroSD Card 128GB 128GB เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ รองรับ รองรับ กล้องหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ความละเอียด 13MP + 13MP  กล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ 3,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 3,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว ราคาวางจำหน่าย 6,990 บาท 9,990 บาท

สำหรับแบรนด์ Nokia ขนทัพไปลุยงานนี้เช่นกัน แน่นอนว่าไฮไลท์คือ Nokia 3310 (2017) แต่ราคาวางจำหน่ายจะเปิดเผยในงานราคาจะเป็นอย่างไรเราจะรายงานให้ทราบ ส่วนรุ่นอื่นที่น่าสนใจมีดังต่อไปนี้ เปรียบเทียบให้แล้ว ทั้งนี้ทุกรุ่นสามารถอัปเดตเป็น Android Oreo ได้ด้วย

• รีวิว Nokia 3 สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ 7.0 รองรับ 2 ซิม หน้าจอ 5 นิ้ว กล้องถ่ายรูปหน้าและหลัง 8 ล้านพิกเซล
• Hands On : Nokia 5 สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์หน้าจอ 5.2 นิ้ว พร้อมระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และราคาสบายกระเป๋า
• Hands On : Nokia 6 สมาร์ทโฟนจอ FHD 5.5 นิ้ว ระบบเสียง Dolby Atmos รันบน Pure Android ในราคา 7,990 บาท

  Nokia 3 Nokia 5 Nokia 6 ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.1.1 แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.1.1 แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.1.1 หน้าจอ IPS 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 720 พิกเซล  IPS- LCD 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 720 พิกเซล 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1,920 x 1,080 พิกเซล  หน่วยประมวลผล Mediatek 6737 CPU Quad-Core 1.3GHz Snapdragon 430 Snapdragon 430 GPU Mali - T720 Adreno 505 Adreno 505 RAM 2GB 2GB 3GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 16GB 16GB 32GB  MicroSD Card สูงสุด 128GB สูงสุด 128GB สูงสุด 128GB กล้องหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล   ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล  ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล  ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ 2630mAh 3000mAh   3000mAh สแกนลายนิ้วมือ ไม่รองรับ รองรับ รองรับ ราคา 4,850 บาท 6,490 บาท 7,990 บาท

 

ต่อกันด้วย nubia ก็มีสมาร์ทโฟนหลายรุ่นให้เลือกซื้อจับจองเป็นเจ้าของ แต่ถ้าเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดคือ M2 Play ดีไซน์เอกลักษณ์ตัดขอบมุมเครื่องทั้ง 4 ด้วยเทคนิค Diamond Cut ขอบเครื่องด้านหลังมีความโค้งงอเล็กน้อยเพื่อให้จับถือสะดวกยิ่งขึ้น และด้านล่างหน้าจอมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ตอบโจทย์ความบันเทิงยิ่งขึ้นด้วยระบบเสียง DTS Sound รวมถึงยังเคลมว่ารับสัญญาณไม่ว่าจะเป็น WiFi หรือ 4G LTE มีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิม เพราะมีเสาสัญญาณคู่ ราคา 5,790 บาท

สรุปสเปกสมาร์ทโฟน nubia M2 Play

• ระบบปฏิบัติการ : แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0 (Nougat) ครอบทับ nubia 5.0
• หน้าจอ : TFT ขนาด 5.5 นิ้ว (1280x720 พิกเซล) ครอบทับกระจกขอบโค้ง 2.5D 
• หน่วยประมวลผล : Snapdragon 435 CPU Octa-Core 
• GPU : Adreno 505 
• Ram : 3GB
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 32GB
• รองรับ MicroSD Card : สูงสุด 128GB
• ระบบเชื่อมต่อ : 3G, 4G LTE, 802.11 b/g/n/ac (2.4GHz), Bluetooth 4.x, GPS, GLONASS, USB OTG
• กล้องหลัง : ความละเอียด 13MP เซ็นเซอร์ Sony Exmor RS CMOS ระบบจับโฟกัส Hybrid Focus รูรับแสง f/2.2 เทคโนโลยีประมวลผลภาพ NeoVision 6.0
• กล้องหน้า : ความละเอียด 5MP เซ็นเซอร์ BSI CMOS รูรับแสง f/2.4 มุมมองการถ่ายภาพกว้าง 84 องศา มีโหมดปรับแต่งผิว Skin Retouching 2.0
• พอร์ต MicroUSB 2.0
• แบตเตอรี่ : 3000mAh มีโหมดจัดการพลังงาน NeoPower 2.5

OPPO A71 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจุดเด่นหน่วยประมวลผล CPU Octa-Core (Mediatek MT6750) RAM 3GB ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Color OS 3.1 พื้นฐานแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.1 ส่วนดีไซน์เป็นบอดี้โลหะ สามารถใช้งานได้สองซิมการ์ดพร้อมหน่วยความจำภายนอกสูงสุด 256GB เพราะเป็นถาดซิมการ์ดแบบ Triple ทั้งยังรองรับการใช้งาน 4G LTE มีโหมดถนอมสาย แบ่งหน้าจอใช้งานสองแอปฯ (Split Screen) ราคา 5,990 บาท

• รีวิว OPPO A71 สมาร์ทโฟนเซลฟี่กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล มาพร้อม RAM 3 GB หน่วยประมวลผล Octa-core

 

ส่วนแบรนด์ Samsung แน่นอนว่าต้องเป็นสามพี่น้องตระกูล J ซีรีย์ที่ออกมาวางจำหน่ายเมื่อกลางปี อย่างไรก็ตามด้านราคาอาจไม่ลดเท่าใดนัก แต่คงเน้นของแถมมากว่า ดังนั้นอาจต้องเดินสำรวจก่อน

หมายเหตุ : Samsung Galaxy J7 Pro จะมีราคาเกินมานิดหน่อยแต่ภายในงานคาดว่าอาจมีการลดราคา

• รีวิว Samsung Galaxy J7 Core สมาร์ทโฟนจอใหญ่ 5.5 นิ้ว กล้องหน้าเซลฟี่ 5 ล้านพิกเซล มีแฟลช ใช้งานโซเชียล 2 บัญชีพร้อมกันในเครื่องเดียว

สเปกทั้งสามรุ่นจะเป็นอย่างไรเปรียบเทียบไว้ให้แล้ว

  Samsung Galaxy J7 Core Samsung Galaxy J5 Pro Samsung Galaxy J7 Pro ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0 แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0 แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0 หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 720 พิกเซล Super AMOLED ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1,280 x 720 พิกเซล Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1,920 x 1,080 พิกเซล หน่วยประมวลผล Exynos 7870 CPU Octa-Core ความเร็ว 1.6GHz Exynos 7870 CPU Octa-Core ความเร็ว 1.6GHz Exynos 7870 CPU Octa-Core ความเร็ว 1.6GHz GPU Mali-T830 MP3 Mali-T830 MP3 Mali-T830 MP3 RAM 2GB 2GB 3GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 16GB 16GB 32GB  MicroSD Card สูงสุด 256GB สูงสุด 256GB สูงสุด 256GB กล้องหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล   ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล  ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล  ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ 3000mAh 3000mAh   3600mAh สแกนลายนิ้วมือ ไม่รองรับ รองรับ รองรับ ราคา 6,890 บาท 9,990 บาท0 10,900 บาท

ขณะที่ Sony ส่งรุ่นเล็กเข้าประกวดคือ Xperia L1 ชูจุดเด่นความคุ้มค่าที่จับต้องได้ มาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 7.0 ระบบเสียง XLOUD และ Claer Audio+ กับระบบเชื่อมต่อ Google Cast, NFC, Bluetooth 4.2 + aptX + A2DP, A-GNSS, พอร์ต USB Type-C ส่วนแบตเตอรี่สามารถชาร์จได้อย่างอุ่นใจเนื่องจากมีระบบป้องกัน Qnovo Adaptive Charging ราคาวางจำหน่าย 5,990 บาท

สรุปสเปกสมาร์ทโฟน Xperia L1

• ระบบปฏิบัติการ : แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.0 (Nougat)
• หน้าจอ : ขนาด 5.5 นิ้ว (1280x720 พิกเซล) 
• หน่วยประมวลผล : Mediatek MT6737T CPU Quad-Core 
• GPU : Mali T720 MP2
• Ram : 2GB
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 16GB
• รองรับ MicroSD Card : สูงสุด 256GB
• กล้องหลัง : ความละเอียด 13MP ออโต้โฟกัส รูรับแสง f/2.2
• กล้องหน้า : ความละเอียด 5MP รูรับแสง f/2.2 
• แบตเตอรี่ : 2620mAh 

นอกจากนี้หากใครชื่นชอบไร้ขอบจากโซนี่ อีกหนึ่งรุ่น Sony Xperia XA1 ราคา 8,490 บาท

• รีวิว Sony Xperia XA1 สมาร์ทโฟนหน้าจอไร้ขอบ จอกว้าง 5 นิ้ว 720p กล้องหลัง 23MP โฟกัสแบบ Hybrid ขุมพลัง Helio P20 CPU Octa-core แบตฯ 2300mAh และระบบชาร์จเร็ว

ถ้าใครชอบหน้าจอใหญ่ๆ แต่ราคาสุดแสนจะประหยัด ต้องมองหา Wiko แล้ว เพราะมาคราวนี้เต็มตากันเลย มีเปิดตัวทั้งหมด 3 รุ่น แบ่งเป็น Wiko View, Wiko View XL และ Wiko View Prime โดยจะขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 7.1 อัตราส่วนหน้าจอขนาด 18:9 รายละเอียดดังนี้

  Wiko View Wiko View XL Wiko View Prime ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.1 แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.1 แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 7.1 หน้าจอ IPS ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1,440 x 720 พิกเซล IPS ขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด 1,440 x 720 พิกเซล IPS ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1,440 x 720 พิกเซล หน่วยประมวลผล Snapdragon 425 CPU Quad-Core ความเร็ว 1.4GHz Snapdragon 425 CPU Quad-Core ความเร็ว 1.4GHz Snapdragon 430 CPU Octa-Core ความเร็ว 1.4GHz GPU Adreno 308 Adreno 308 Adreno 308 RAM 3GB 3GB 4GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 16GB 32GB 64GB  MicroSD Card สูงสุด 128GB สูงสุด 128GB สูงสุด 128GB กล้องหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล   ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล กล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล  ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล  ความละเอียด 20MP + 8MP แบตเตอรี่ 2900mAh 3000mAh   3000mAh สแกนลายนิ้วมือ รองรับ รองรับ รองรับ ราคา 4,990 บาท 5,990 บาท 7,490 บาท

 

Xiaomi Redmi Note 4 ชูจุดเด่นดีไซน์บอดี้โลหะไร้รอยต่องานประกอบแน่นจับถือได้มั่นคง พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง อีกทั้งด้านล่างตัวเครื่องก็เป็นลำโพงคู่จัดเต็มด้านความบันเทิง ขณะที่ด้านบนตัวเครื่องมีรูยิงคลื่น Infrared สำหรับควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้มีหน่วยที่ขึ้นชื่อเรื่องการประหยัดงาน ผสมผสานด้วย RAM ขนาด 4GB เก็บข้อมูลรวมกันมากถึง 192GB โดยมีหน่วยความจำภายใน 64GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 128GB แบตเตอรี่ความจุ 4,100mAh

สรุปสเปกของสมาร์ทโฟน Xiaomi Redmi Note 4 มีดังต่อไปนี้

• ขนาดตัวเครื่อง : 151 x 76 x 8.45 มม.
• นํ้าหนัก : 165 กรัม
• ระบบปฏิบัติการ : แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 6.0 ครอบทับ MIUI 8.0
• หน้าจอ : IPS ขนาดกว้าง 5.5 นิ้ว (1920 x 1080 พิกเซล) ครอบทับกระจกขอบโค้ง 2.5D มีโหมดถนอมสายตา
• หน่วยประมวลผล : Snapdragon 625
• GPU : Adreno 506
• RAM : 4GB
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 64GB
• รองรับ MicroSD Card : สูงสุด 128GB
• ระบบเชื่อมต่อ : 3G, 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n (2.4/5GHz) , Bluetooth 4.1, GPS, GLONASS, WiFi Display, WiFi Direct, Infrared
• รองรับการใช้งานสองซิมการ์ด
• ถาดซิมการ์ดประเภท Hybrid
• กล้องหลัง : ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ CMOS + เทคโนโลยี ISP และมีเลนส์จำนวน 5 ชิ้น ,รูรับแสง f/2.0 จุดพิกเซลขนาด 1.12um พร้อมระบบจับโฟกัส PDAF สามารถจับโฟกัสได้ในระยะเวลา 0.1 วินาที
• กล้องหน้า : ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลมีโหมดปรับแต่งผิว รูรับแสง f/2.0
• พอร์ต MicroUSB 2.0
• แบตเตอรี่ : 4100mAh พร้อมชาร์จเร็ว
• วางจำหน่ายในราคา 6,790 บาท

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับทุกรุ่นที่หยิบมาแนะนำกันในงบประมาณมากกว่า 3,000 บาทแต่จะไม่เกิน 10,000 บาท ดังนั้นใครชื่นแบรนด์ไหน รุ่นใดก็สามารถเดินไปจับจองกันได้เลย แต่อย่าลืมตรวจเช็คสินค้าและต่อรองให้มากที่สุด เพื่อความคุ้มค่าส่งท้ายปีงาน Thailand Mobile 2017 ในครั้งนี้ และถ้าพบทีมงาน Siamphone.com อย่าลืมทายทักทักทายกันด้วยนะครับ