www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 13 กันยายน 2560
Apple เปิดตัว iPhone 8 และ iPhone 8 Plus สมาร์ทโฟนรุ่นอัพเกรดจาก iPhone 7 และ iPhone 7 Plus อย่างเป็นทางการไปเมื่อกลางดึกของวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา โดยหากมองจากภายนอกทั้ง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ยังคงมีดีไซน์คล้ายกับรุ่นก่อนหน้าแต่หากวิเคราะห์อย่างละเอียดจะพบว่ามีการอัพเกรดฟีเจอร์ใหม่มาให้ใช้งานด้วย และเพื่อให้มองภาพได้ง่ายขึ้นเราได้รวมข้อมูลฟีเจอร์ใหม่ของ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มาให้แล้วด้านล่างนี้
iPhone 8 and iPhone 8 Plus: All the new features
1. การใช้กระจกเพื่อออกแบบอย่างเหนือชั้น
ด้านหลังตัวเครื่อง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มีการนำกระจกใสมาครอบทับตัวเครื่องทั้งยังเสริมความแข็งแรงด้วยโครงสร้างเหล็กและทองแดงภายในซึ่ง Apple อ้างว่านี่คือกระจกที่ทนทานที่สุดเท่าที่เคยถูกนำมาใช้บนสมาร์ทโฟน นอกจากนี้เฉดสีที่พ่นลงตัวเครื่องสมาร์ทโฟนนั้นผ่านกระบวนการเคลือบสีถึง 7 ชั้นทำให้สีที่ออกมามีความโดดเด่น
2. วิถีใหม่ของการชาร์จ
ทั้ง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus รองรับการชาร์จไร้สายผ่านเครื่องชาร์จเทคโนโลยี Qi wireless charger โดย Apple ได้ทำงานร่วมกับผู้ผลิตเครื่องชาร์จไร้สายหลาย ๆ เจ้าเพื่อผลิตอุปกรณ์เสริมสำหรับชาร์จแบตเตอรี่มาจำหน่ายผ่าน Apple Store ส่วนเครื่องชาร์จไร้สาย Apple AirPower จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ช่วงต้นปี ค.ศ. 2018 เป็นต้นไป ซึ่งเครื่องชาร์จรุ่นนี้สามารถชาร์จแบตฯ ให้ iPhone, Apple Watch และ AirPods ได้พร้อมกัน
3. ชิปเซ็ต A11 Bionic ใหม่ล่าสุด
A11 Bionic ชิปเซ็ต hexa-core (CPU 6 คอร์) ตัวใหม่ของ Apple ถูกนำมาใช้งานบน iPhone 8 และ iPhone 8 Plus โดยประกอบด้วย CPU เน้นความแรง 2 คอร์ซึ่งเร็วกว่าชิป Apple A10 ถึง 25% และ CPU เน้นประหยัดพลังงาน 4 คอร์ซึ่งใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า Apple A10 ถึง 70%
A11 Bionic ยังมีตัวควบคุมประสิทธิภาพรุ่นใหม่ที่ช่วยให้ใช้งาน CPU ทั้ง 6 คอร์พร้อมกัน ส่งผลให้การประมวลผลแบบหลายเธรดเร็วกว่าชิปรุ่นก่อนหน้า 70%
4. การปรับปรุงกล้องที่ดีขึ้น
ในข้อมูลสเปกกล้องของ iPhone 8 และ iPhone 8 Plusดูเหมือนจะเป็นรุ่นเดียวกับสเปกกล้องของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เมื่อปีที่แล้ว โดย iPhone 8 มีเซ็นเซอร์ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.8 ขณะที่ iPhone 8 Plus มีกล้องหลังเลนส์คู่ที่เพิ่มเลนส์ถ่ายไกล รูรับแสง f/2.8 เข้ามาช่วย
อย่างไรก็ตาม Apple ระบุว่ากล้องใน iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เป็นของใหม่ เนื่องจากมีขนาดใหญ่และเร็วกว่ากล้องบน iPhone รุ่นก่อน ๆ โดยเซ็นเซอร์รับภาพสี RGB จะรับแสงได้มากขึ้นถึง 83% ซึ่งจะช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีส่วนประมวลผลภาพ (image signal processing : ISP) ที่ปรับปรุงใหม่โดยสามารถตรวจจับองค์ประกอบที่อยู่ภายในฉากที่ผู้ใช้งานกำลังจะถ่ายภาพได้ นอกจากนี้ยังประมวลผลข้อมูลแสงบนจุดพิกเซลได้ดีขึ้น จับรายละเอียดของสีได้กว้างขึ้น มีโฟกัสอัตโนมัติที่เร็วขึ้นและถ่ายภาพ HDR ได้ดีขึ้น
ในส่วนของการบันทึกวิดีโอยังมีการนำตัวเข้ารหัสที่ Apple พัฒนาขึ้นเองมาใช้ซึ่งจะวิเคราะห์ข้อมูลในแต่ละเฟรมภาพเป็นส่วน ๆ และตรวจจับวัตถุในภาพแต่ละชิ้นเพื่อเพิ่มคุณภาพการบันทึกวิดีโอ ส่วนผู้ที่ชื่นชอบการบันทึกวิดีโอสโลว์โมชั่นก็มีข่าวดีเพราะสามารถบันทึกวิดีโอ 240 เฟรม / วินาที ได้ที่ความละเอียด FullHD 1080p (จำนวนเฟรมเรทเพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับ iPhone 7 series)
5. โหมดการจัดแสงภาพบุคคล (Portrait Lighting)
โหมดการจัดแสงภาพบุคคล Portrait Lighting เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่มีใช้งานบน iPhone 8 series และ iPhone X เท่านั้น ฟีเจอร์นี้จะใช้อัลกอริทึมตรวจจับความลึกของชิป A11 Bionic ซึ่งจะจับรายละเอียดความโค้งบนใบหน้าที่อยู่บนภาพอย่างชาญฉลาดและสามารถเติมรายละเอียดแสงบนในหน้าโดยเลียนแบบแสงบนเวที แสงไฟคอนทัวร์และเทคนิคอื่น ๆ ที่ช่างภาพมืออาชีพนิยมใช้งาน
6. True Tone displays
จอแสดงผลขนาด 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว บน iPhone 8 และ iPhone 8 Plus อาจจะดูไม่แตกต่างกับรุ่นก่อน แต่ Apple ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยโดยจอทั้งสองใช้เทคโนโลยี True Tone ซึ่งเน้นการแสดงข้อมูลสีขาวให้ถูกต้องภายใต้สภาพแวดล้อมแหล่งกำเนิดแสงต่าง ๆ เช่น การอ่าน e-book บนหน้าจอที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังอ่านหนังสือ
7. ลำโพงสเตอริโอที่ดีขึ้น
iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เป็นสมาร์ทโฟนของ Apple รุ่นแรกที่มาพร้อมลำโพงสเตอริโอ (บางทีอาจจะเป็นการปลอบใจที่ถอดแจ็คเสียบหูฟัง 3.5มม. ออกไป) สำหรับปีนี้ Apple ได้ทำให้ลำโพงในตัว iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ดังขึ้นกว่ารุ่นก่อน 25% และมีเสียงเบสลงลึกกว่าเดิม
8. Bluetooth 5.0
เทคโนโลยี Bluetooth เวอร์ชั่นล่าสุดถูกนำมาใช้งานบน iPhone รุ่นใหม่ของ Apple ทำให้สามารถส่งข้อมูลไร้สายได้เร็วกว่าอุปกรณ์ที่รองรับ Bluetooth 4.2 และได้ระยะการรับส่งข้อมูลที่ไกลกว่าด้วย
9. พื้นที่เก็บข้อมูลมากขึ้น
Apple ได้กำหนดความจุพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่องเริ่มต้นที่ 64GB (มากกว่าความจุเริ่มต้นของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ถึง 2 เท่า) ซึ่งผู้ที่ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเยอะ ๆ ก็สามารถเลือกรุ่นความจุ 256GB ได้
iPhone 8 และ iPhone 8 Plus จะเริ่มเปิดจองล่วงหน้าในบางประเทศตั้งแต่ 15 กันยายน ค.ศ. 2017 และวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 2017 เป็นต้นไป ส่วนกำหนดการเปิดจอง ราคาและกำหนดวางจำหน่ายในประเทศไทยยังไม่เปิดเผยออกมาในตอนนี้
ที่มา : www.phonearena.com วันที่ : 13 กันยายน 2560
หลุดสเปค Redmi Note 16 Pro+ จัดเต็มกล้อง 200MP แบตฯ 7,500mAh เตรียมท้าชน Realme 16 Series ปีหน้า2 ชั่วโมงที่แล้ว
HONOR Magic5 Series ได้ไปต่อ! รับอัปเดต MagicOS 10 ชุดใหญ่ โชว์ฟีเจอร์เด็ด Sync การแจ้งเตือนจาก iPhone ได้แล้ว18 ชั่วโมงที่แล้ว
OPPO A6 Series ทนทานทุกดาเมจ ครอบคลุมทุกการใช้งาน เริ่มต้นเพียง 3,49921 ชั่วโมงที่แล้ว
หลุดสเปค vivo X300 Ultra แบตฯ อึด 7,000mAh พร้อมกล้องคู่ 200MP จ่อเปิดตัว Q1 20265 ธ.ค. 68 07:00
vivo X300 Series สัมผัสได้แล้ววันนี้ กับสมาร์ตโฟนกล้องชัด ซูมติดขอบเวที!4 ธ.ค. 68 15:00
iPhone Air น้องใหม่ค่าย Apple เน้นความบางแต่ทน พร้อมประสิทธิภาพเต็มพิกัด A19 Pro
หลุดสเปค Redmi Note 16 Pro+ จัดเต็มกล้อง 200MP แบตฯ 7,500mAh เตรียมท้าชน Realme 16 Series ปีหน้า
OPPO A6 Series ทนทานทุกดาเมจ ครอบคลุมทุกการใช้งาน เริ่มต้นเพียง 3,499
หลุดสเปค vivo X300 Ultra แบตฯ อึด 7,000mAh พร้อมกล้องคู่ 200MP จ่อเปิดตัว Q1 2026
vivo X300 Series สัมผัสได้แล้ววันนี้ กับสมาร์ตโฟนกล้องชัด ซูมติดขอบเวที!
HUAWEI Mate X7 สมาร์ตโฟนจอพับ กันน้ำกันฝุ่น IP59 ใช้ชิปเซ็ต Kirin 9030
Redmi 15 Series แบตใหญ่จุใจ 7000mAh หน้าจอ 6.9 นิ้วที่เต็มอิ่ม ราคาเริ่มต้น 4,xxx
realme C85 Series 5G สมาร์ตโฟนสายอึด แบต 7000mAh ใหญ่สุดในเซกเมนต์ กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP69 Pro
5 สมาร์ตโฟนจอใหญ่ ถนอมสายตา เหมาะกับผู้สูงอายุ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025
realme C85 Series 5G ลุยได้ทุกจังหวะชีวิตด้วยแบต 7000mAh ราคาเริ่มต้น 5,xxx
5 สมาร์ตโฟนเน้นแบตฯ อึด ใช้งานได้ข้ามวัน สำหรับสายเดินทาง ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025