www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 13 กันยายน 2560
iPhone X (ไอโฟน เท็น) สมาร์ทโฟนรุ่นที่ทันสมัยที่สุดของ Apple เปิดตัวฉลองครบรอบ 10 ปี iPhone รุ่นแรกเมื่อกลางดึกของวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2017 ซึ่งนอกจากดีไซน์หน้าจอไร้ขอบและไร้ปุ่ม Home กล้องหลังคู่แนวตั้ง 12MP เทคโนโลยีกันสั่นคู่ Dual OIS แล้วยังมีฟีเจอร์อะไรใหม่ ๆ ที่ถูกแนะนำบนเวทีงาน Apple Event โดย Tim Cook, Craig Federighi และ Philip Schiller นั้นเรารวบรวมไว้ให้แล้วในเนื้อหาด้านล่าง
Apple iPhone X : All the new features
1. กลับคืนสู่เริ่มต้น : การผสมผสานที่ลงตัวของโลหะและแก้ว
Apple นำ iPhone X กลับไปสู่พื้นฐานการออกแบบอีกครั้งเช่นเดียวกับตอนที่เปิดตัว iPhone 4 เมื่อไม่กี่ปีก่อนโดยด้านหลังตัวเครื่องครอบทับด้วยกระจกขณะที่กรอบด้านข้างเป็นอลูมิเนียม ภายใต้กระจกมีตัวเครื่องที่ผ่านกระบวนการเคลือบสี 7 ชั้นเพื่อเน้นสีที่โดดเด่น ตัวกระจกยังได้รับการเสริมแรงจากเหล็กและทองแดงด้านในทำให้กระจกมีความทนทานมากที่สุดเท่าที่เคยมีบนสมาร์ทโฟน (อีกไม่นานน่าจะมีผลทดสอบ drop test ของมือถือมูลค่า $999 หรือประมาณ 33,080 บาทรุ่นนี้มาให้ชมกันในโลกออนไลน์)
2. การออกแบบ edge-to-edge ด้านหน้าทั้งหมดคือหน้าจอ
iPhone X มีอัตราส่วนหน้าจอเทียบกับตัวเครื่อง 81.23% กลายเป็นผู้เล่นหน้าจอไร้ขอบที่ดีที่สุดเช่นเดียวกับ Note 8, LG V30, Essential Phone และ Xiaomi Mi MIX 2 แม้ว่า iPhone X จะมีขนาดหน้าจอ 5.8 นิ้ว แต่ตัวเครื่องกลับมีความกว้างและความสูงอยู่ระหว่างรุ่น iPhone 8 และ iPhone 8 Plus และมีความหนามากกว่ารุ่น iPhone 8 Plus เพียงเล็กน้อยซึ่งต้องยกความดีความชอบส่วนนี้ให้กับทีมออกแบบของ Apple
ปุ่ม Home ที่ขาดหายไปครั้งแรกในรอบ 10 ปีของ iPhone ได้ถูกแทนที่ด้วยเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ภายในซึ่งทำให้ iPhone X สามารถทำงานได้อย่างเต็มรูปแบบและสามารถปลดล็อคตัวเครื่องด้วย Face ID หรือการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าของผู้ใช้งาน
3. กล้องที่ดีขึ้น
iPhone X มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ที่จัดวางในแนวตั้ง ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ 12MP ขนาดใหญ่และเร็วกว่ากล้องรุ่นก่อน รับแสงได้ดีขึ้นและเก็บรายละเอียดบนจุดพิกเซลได้มากขึ้น มีระบบกันสั่นคู่ dual OIS บนกล้องเลนส์มุมกว้าง รูรับแสง f/1.9 และกล้องถ่ายไกล รูรับแสง f/4.4 โดยเป็นรุ่นที่สองต่อจาก Galaxy Note 8 ของ Samsung นอกจากนี้ยังมีส่วนประมวลผลภาพ (image signal processing : ISP) ที่ปรับปรุงใหม่ให้สามารถตรวจจับองค์ประกอบในฉากที่กำลังบันทึกภาพ รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ที่ความเร็ว 60 เฟรม/วินาที และการบันทึกวิดีโอสโลว์โมชั่น FullHD 1080p ที่ความเร็ว 240 เฟรม/วินาที
4. โหมดการจัดแสงภาพถ่ายบุคคล Portrait Lighting
โหมดการจัดแสงภาพถ่ายบุคคลนำอัลกอริธึมตรวจจับใบหน้าแบบรับรู้ความลึกบนชิปเซ็ต A11 Bionic มาใช้เพื่อตั้งค่าแสงบนใบหน้าโดยเลียนแบบการตั้งค่าแสงบนเวที แสง contour และอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย
5. เซลฟี่ในโหมดถ่ายภาพบุคคล
โหมดถ่ายภาพเซลฟี่จากกล้องหน้า Facetime สามารถสร้างภาพถ่ายใบหน้าที่สวยงามพร้อมฉากหลังที่สามารถเบลอได้ดั่งใจ
6. Apple A11 Bionic
ชิปเซ็ต A11 Bionic เป็นชิป 6-คอร์ที่นำมาขับเคลื่อน iPhone X ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย CPU 4-คอร์ที่เน้นประหยัดพลังงานซึ่งทำงานเร็วกว่า Apple A10 ถึง 70% และ CPU 2-คอร์ที่เน้นประสิทธิภาพซึ่งทำงานเร็วกว่า Apple A10 บน iPhone 7 สูงสุดถึง 25%
7. Face ID
การขาดหายไปของปุ่ม Home และ TouchID ถูกแทนที่ด้วยระบบไบโอเมตริกซ์ใหม่บน iPhone X โดย Face ID จะใช้ชุดเซ็นเซอร์ด้านหน้าตัวเครื่องเก็บรายละเอียดข้อมูลบนใบหน้ากว่า 30,000 จุด ซึ่ง Apple ยืนยันว่า Face ID มีความแม่นยำกว่า TouchID และสามารถใช้งานร่วมกับระบบชำระเงิน Apple Pay ได้
8. จอภาพที่ดีกว่า Retina มันคือ Super Ratina
จอภาพรุ่นใหม่บน iPhone X มีขนาด 5.8 นิ้ว เทคโนโลยี true-tone OLED display มีอัตรารีเฟรช 120Hz รองรับการแสดงผลสีช่วงกว้าง P3 color gamut แสดงสีดำได้ดำสนิท มีความสว่างสูงและมีอัตราส่วนคอนทราสต์ที่ 1,000,000 ต่อ 1
9. ลำโพงสเตอริโอที่ดังขึ้น
iPhone X มีลำโพงสเตอริโอเช่นเดียวกับ iPhone 7 / 7 Plus ในปีที่แล้ว แต่มีความดังเพิ่มขึ้นถึง 25%
10. เทคโนโลยี AR ลูกเล่นใหม่ที่โดนใจใครหลายคน
ในแพลตฟอร์ม iOS 11 จะมีการเพิ่มอีโมจิภาพเคลื่อนไหว "animoji" ซึ่งสามารถขยับและแสดงสีหน้าเลียนแบบใบหน้าของผู้ใช้งาน นอกจากนี้จะมีการเพิ่มแอพและเกมที่ใช้เทคโนโลยี AR เข้ามาใน App Store เป็นจำนวนมาก
11. Bluetooth 5.0
เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลไร้สาย Bluetooth 5.0 บน iPhone X สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วและไกลกว่าอุปกรณ์ที่รองรับ Bluetooth 4.2
12. เทคโนโลยีชาร์จไร้สาย Qi Wireless charging
iPhone X รองรับการชาร์จไร้สายผ่านเครื่องชาร์จเทคโนโลยี Qi นอกจากนี้ยังมีเครื่องชาร์จ Apple AirPower ที่สามารถชาร์จ iPhone, Apple Watch และ airPod พร้อมกันด้วยโดยจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงต้นปีหน้า
13. เทคโนโลยีชาร์จเร็ว Fast charging
ผู้ใช้งาน iPhone X สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 50% ของความจุในเวลาประมาณ 30 นาทีด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็ว
ที่มา : www.phonearena.com วันที่ : 13 กันยายน 2560
ENNXO แนะนำ 5 เครื่องรางเสริมฮวงจุ้ย ด้านโชคลาภ เงินทองและค้าขาย6 ชั่วโมงที่แล้ว
Redmi Note 13 Pro 5G วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ8 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G ในย่านนี้พี่ขอ กับสเปคสุดเตะตา รวดเร็วจอลื่นได้กล้องระดับ 200MP มี OIS8 ชั่วโมงที่แล้ว
Nio ET7 วิ่งได้ 1,044 กม. ด้วยแบตเตอรี่ Semi-Solid State ทดสอบโดย CEO เอง!8 ชั่วโมงที่แล้ว
สรุปจุดเด่นและสเปค Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ชาร์จเร็วโคตร 100 วัตต์ ลำโพงคู่ JBL หน้าจอ 120Hz อุปกรณ์ในกล่องแถมครบ!12 ชั่วโมงที่แล้ว
Apple ประกาศวันจัดงาน WWDC24 เที่ยงคืนวันที่ 11 มิถุนายนประเทศไทย
รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G ในย่านนี้พี่ขอ กับสเปคสุดเตะตา รวดเร็วจอลื่นได้กล้องระดับ 200MP มี OIS
สรุปจุดเด่นและสเปค Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ชาร์จเร็วโคตร 100 วัตต์ ลำโพงคู่ JBL หน้าจอ 120Hz อุปก...
realme Narzo 70x 5G และ realme Narzo 70 5G หน้าจอ 120Hz แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W
Polestar Phone เมื่อแบรนด์รถยนต์ EV เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตนเอง สเปคจัดเต็ม!
vivo V30e 5G เตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้ ดีไซน์สีสวยสุดพรีเมียม แบตฯ 5500mAh
Lenovo Tab M11 แท็บเล็ตหน้าจอ 11 นิ้ว ใช้กับสไตลัส Lenovo Tab Pen เขียนลื่น
คุ้มไหมที่จะซื้อ? Samsung Galaxy Tab S6 Lite (2024) แท็บเล็ตโทรได้ ลำโพง Dolby ATMOS แบตฯ เยอะ
realme 12 5G และ realme 12X 5G กล้องซูม 3 เท่าไม่สูญเสียรายละเอียด รองรับ 5G เริ่มต้น 5,xxx
Redmi Pad Pro แท็บเล็ต Snapdragon 7s Gen 2 แบตเตอรี่จุใจ 10,000mAh