www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 23 กันยายน 2560
มาทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมความตั้งใจเต็มที่ที่จะทำให้สมาร์ทโฟนของตนเองได้รับความนิยมและให้เป็นี่ประจักษ์ในอุตสาหกรรมดังกล่าว สำหรับแบรนด์ Xiaomi ผู้ที่มีฉายาจอมเขย่าบัลลังก์ราคากับยุทธศาตร์เน้นสเปกเน้นความคุ้มค่าให้ผู้ใช้งานแต่เราไม่เน้นราคาและยังคงเป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด ทั้งนี้เมื่อดำเนินการตลาดอย่างเต็มตัวช่องทางจำหน่ายที่มากขึ้น อาทิ Lazada, IT City จึงทำให้น่าจับตามองว่าจะสามารถปั่นป่วนราคาสมาร์ทโฟนในบ้านเราได้หรือไม่ เหมือนกับเคยครองแชมป์ผู้ที่มียอดจัดจำหน่ายในประเทศสูงสุดมาแล้วครั้งหนึ่ง
Xiaomi จุดเริ่มต้นของคำว่าคุ้มค่า
ย้อนกลับไปเมื่อสามสี่ปีที่แล้ว ต้องบอกว่ายุคของสมาร์ทโฟนขณะนั้นก็เสมือนเป็นเค้กก้อนใหญ่ของใครที่กำลังตักตวงและได้ไม่คุ้มเสียกับราคาที่ต้องจ่ายไป และเชื่อว่าหลายคนเวลาเห็นเปิดตัวรุ่นใหม่มาต่างก็เอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่าทำไมต้องกั๊กสเปกด้วย ทว่าความรู้สึกเหล่านี้จะหมดไปเมื่อมีสองผู้เล่นหน้าใหม่ Oneplus แบรนด์ที่ได้รับฉายาว่า Flagship Killer กับ Xiaomi แบรนด์ที่เน้นคุ้มค่าแต่ว่าจับจองได้ยาก ทำไมถึงจับจองยากเพราะต้องได้รับการเชิญหรือไม่ก็ต้องลงทะเบียนจึงจะสามารถซื้อได้นั่นเอง เนื่องจากไม่สามารถผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการ เพื่อป้องกันสาเหตุดังกล่าวจึงจำกัดการซื้อสมาร์ทโฟน รวมถึงอีกหนึ่งแบรนด์ผู้ที่ริเริ่มการตัดช่องหูฟัง 3.5 มม. ออกรวมถึงอัดสเปกแบบจัดหนัก แต่ราคาขายไม่กี่บาทอย่าง LeEco
เรียกได้ว่า 3 แบรนด์ข้างต้น OnePlus, Xiaomi, LeEco สามารถเขย่าตลาดสมาร์ทโฟนได้มากเลยทีเดียวซึ่งส่งผลต่อหลายแบรนด์ไม่มากก็น้อยในอุตสาหกรรมแอนดรอยด์โฟน ข้อพิสูจน์คือช่วงสองปีหรือสามปีที่แล้ว น้อยมากที่เราจะได้เห็นรุ่นราคาตํ่ากว่าหมื่นแต่ในดีไซน์ Unibody หรือรุ่นที่มี RAM 3GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 16GB แต่แบรนด์ทั้งหมดข้างต้นทำให้เห็นได้ จนแบรนด์ที่คุ้นหูเริ่มมองตัวเองและปรับตัวในที่สุด ท้ายที่สุดก็เปลี่ยนเทรนด์สู่ยุคมาตรฐานใหม่ในและตามมาด้วยการซอยรุ่นมากขึ้น เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการขายสินค้า
สำหรับ Xiaomi เมื่อมีสมาร์ทโฟนร่นใดเปิดตัวจำได้ว่า มีแต่เหล่าสาวกชอบพูดประโยคเดิมๆ ว่าเมื่อไหร่จะเข้ามาวางจำหน่ายในไทยเสียที ปล่อยให้รอนานเหลือเกินจนต้องเลือกวิธีหิ้วเครื่องนอกมาเลย แน่นอนว่าความคุ้มค่าของราคากับสเปกค่อนข้างสวนทางกันเพราะไม่ต้องจ่ายแพงแต่ก็สามารถได้รับสเปกดีๆ มาใช้งานได้ และด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวนี้จึงทำให้แบรนด์ได้รับความนิยมในเวลาอันรวดเร็ว
คำถามต่อไปคือเมื่อเสี่ยวมี่เยือนประเทศไทยแล้วจะทำให้ราคาสมาร์ทโฟนในบ้านเราปั่นป่วนหรือไม่ เหมือนดังที่เคยส่งผลกระทบในวงกว้าง
ต้องท้าวความก่อนเริ่มแรกทางแบรนด์ได้จับมือกับ i-mobile ส่งสมาร์ทโฟนสามรุ่นแรกลงสนามในช่วงเดือนเมษายน ได้แก่รุ่น Mi Note 2, Mi 5s Plus, Mi 5s (อ่านข่าวย้อนหลัง) ถัดมาอีกหนึ่งเดือนงาน TME 2017 ก็จัดเต็มอีก 2 รุ่นอาทิ Redmi 4A และ Redmi 4X (อ่านข่าวย้อนหลัง) รวมทั้งหมด 5 รุ่น ซึ่งราคาวางจำหน่ายก็ไม่ได้แพงเลยเหมาะสมกับสเปกมาก ทว่าทุกอย่างเมื่อเวลาผ่านไปกลับกลายเป็นเงียบไม่มีการโปรโมทเท่าใดนัก ทำให้สมาร์ทโฟนของแบรนด์ดังกล่าวยังไม่สามารถสร้างการรู้จักให้ผู้อื่นได้ สุดท้ายจึงมีการเปลี่ยนพันธมิตรดำเนินธุรกิจเป็นบริษัท "วีเอสที อีซีเอส" ตัวแทนด้านการจัดจำหน่าย
ทั้งนี้บริษัทวีเอสที อีซีเอสและ Xiaomi ตั้งเป้าสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ตลาดสมาร์ทโฟนไทยผ่านการจัดจำหน่าย ส่งเสริมการตลาด และก็สนับสนุนด้านบริการหลังการขายให้แก่ผลิตภัณฑ์ของเสี่ยวมี่ในประเทศไทย ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ของเสี่ยวมี่จะมีจัดจำหน่ายผ่านทั้งช่องทางออฟไลน์ ณ ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ร่วมมือกับลาซาด้า ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซชั้นนำในประเทศไทย
พร้อมกันยังได้เผยโฉมสมาร์ทโฟนสองรุ่น โดยหนึ่งในนั้นสามารถสร้างเซอร์ไพร์สได้พอสมควรนั่นคือ Mi 6 ส่วนอีกหนึ่งรุ่น Redmi Note 4 แน่นอนว่าราคายังคงตกตะลึงได้อีกเพราะถ้ารุ่นท็อปก็คาดการณ์ได้ว่าสองหมื่นบวก ทว่ากลับไม่เป็นเช่นนั้น เนื่องจาก...
จะเห็นได้ว่า Xiaomi ยังคงดำเนินกลยุทธ์เช่นเดิมจึงทำให้แบรนด์นี้น่าจับตามองโดยปริยาย และหลังจากเปิดตัวในไทยแล้ว ในเวลาต่อเมื่อเสี่ยวมี่ที่ประเทศอินเดียเผยโฉม Xiaomi Mi A1 แอนดรอยด์โฟนในโครงการ Android One ที่ชูจุดเด่นระบบปฏิบัติการกล้องคู่ เพียวแอนดรอยด์ หน้าจอ 5.5 นิ้ว FullHD ครอบทับกระจก Gorilla Glass 3 และชิปเซ็ตรุ่นประหยัดพลังงาน Snapdragon 625, RAM 4GB พิื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 64GB แบตฯ 3,090mAh ที่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการว่าจะนำเข้ามาขายในบ้านเราด้วย ส่วนเวลาวงจำหน่ายจะรีบมาแจ้งให้ทราบ
ด้วยข้อมูลข้างต้นที่เล่ามาจึงอนุมานได้เลยว่าเสี่ยวมี่ดำเนินธุรกิจในไทยอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ทีนี้มาดูเรื่องราคากันบ้าง ส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าสามารถสร้างผลกระทบได้ แต่อาจต้องใช้เวลา ส่วนรุ่นสมาร์ทโฟนที่จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนคือช่วง Low-Entry & Mid-Range เนื่องจากตลาดส่วนใหญ่มีสองตัวเลือกนี้ค่อนข้างมาก โดยตัวแบรนด์เองก็มีสมาร์ทโฟนครบทุกช่วง Segment ด้วย
ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่าในปัจจุบันผู้ใช้สมาร์ทโฟนคงสังเกตได้ว่าแทบจะหมดยุค RAM 2GB กับพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 16GB แล้ว ส่วนเลือกรุ่นซื้ออะไรก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ทว่าทุกรุ่นของแบรนด์นี้ที่เปิดตัวในปีนี้จะ RAM 3GB + ROM 32GB เป็นอย่างน้อยแล้ว พร้อมวางจำหน่ายในราคาไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นเรียกได้ว่ากินขาด เพราะสเปกอื่นๆ ก็ไม่ด้อยกว่าด้วย ดังนั้นจึงมีผลกระทบแน่นอนในช่วงตลาดดังกล่าว และถ้าเสี่ยวมี่ตั้งราคารุ่นนี้ขายแค่หมื่นต้นๆ จะเป็นเช่นใด
ขณะที่รุ่น Hi-End อย่างที่เห็น Mi 6 สเปกเน้นๆ แต่ราคาหมื่นกลางๆ เท่านั้นดังนั้นเสี่ยวมี่จึงรู้ว่าตนเองยังไม่สามารถแข่งขันในส่วนนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะเพิ่งเข้ามาทำตลาดและยังเป็นหน้าใหม่หากตั้งราคาสูงอาจจบไม่สวยสำหรับยอดขาย และตลาดสมาร์ทโฟนในไทยส่วนใหญ่ไม่ใช่รุ่น Hi-End พร้อมตัวเลือกที่มีอยู่มาก ดังนั้นจึงขอแหวกแนวสวนกระแสให้สำหรับลูกค้าที่อยากจับจองสมาร์ทโฟนสเปกดีงามทว่าราคาไม่สูงนั่นเอง สุดท้ายคงต้องจับตามองต่อไปว่ารุ่นนี้จะเข้ามาวางจำหน่ายหรือไม่ เพราะถ้ามาจริง เชื่อว่าเปรี้ยงปร้างแน่นอน
เสี่ยวมี่จะประสบความสำเร็จเหมือนแบรนด์จีนอื่นๆ ที่เข้ามาวางจำหน่ายในไทยจะต้องทลายกำแพงสูงไม่น้อยเลย
1. ภาพลักษณ์ : คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของสินค้าที่จะประสบความสำเร็จได้นั่นคือ ภาพลักษณ์ ซึ่งคงต้องจับตามองทางแบรนด์จะนำใครมาเป็นพรีเซ็นเตอร์และโฆษณาอย่างไรให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด โจทย์ที่ยากที่สุดคือกลุ่มคนที่ไม่ได้ติดตามเทคโนโลยีที่จะเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่ตัดสินเพียงเพราะแบรนด์รวมถึงรู้จักอย่างกว้างขวาง และก็มีความจงรักภักดีสำหรับแบรนด์หลักๆ ไปแล้วจะสามารถตอบโจทย์พวกเขาเช่นใดเพื่อให้หันมามองทางเลือกใหม่
2. ความเชื่อมั่น : นอกจากภาพลักษณ์ที่ดีความเชื่อมั่นก็เป็นประเด็นที่สอดคล้องกันซึ่งสินค้าก็ส่วนหนึ่ง แต่การดำเนินธุรกิจในระยะยาวต่างหากที่ถือเป็นอีกหนึ่งตัวแปรต้องทำให้ลูกค้ารับรู้
3. ช่องทางจัดจำหน่าย : แม้ว่าเริ่มวางจำหน่ายให้เห็นมากขึ้น แต่ก็ยังไม่หลากหลายพอ ซึ่งทำให้สูญเสียโอกาสตรงนี้ไปพอสมควร ดังนั้นจึงควรรีบเร่งแผนขยายการนำสินค้าไปวางบนแผงขาย
4. บริการหลังการขาย : ตามที่ทราบกันว่าเพิ่งเข้ามาทำตลาดในไทย แต่ก็ต้องมีความพร้อมในการให้บริการลูกค้าอย่างทั่วถึงด้วย มิเช่นนั้นอาจทำให้ใครหลายคนมองข้ามไป
5. อุปกรณ์เสริม : ไม่ว่าจะเป็น เคส ฟิลม์กันรอยหรือกระจกกันรอย หูฟัง ลำโพง แบตฯ สำรอง ซึ่งรายหลังก็มีตัวเลือกทั่วไปอยู่แล้ว ทว่าสองอุปกรณ์ข้างต้นก็เป็นปัจจัยสำคัญเหมือนกันดังนั้นอาจต้องเพิ่งทางเลือกมากขึ้นแก่ผู้บริโภค
สุดท้ายนี้เราคงต้องจับตามองต่อไปว่า Xiaomi จะสามารถทำให้ราคาสมาร์ทโฟนในไทยปั่นป่วนได้หรือไม่ กับกลยุทธ์เน้นสเปกในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาพิสูจน์ แต่หลังจากที่เปิดตัวรุ่นที่ผ่านมามีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว หากเสี่ยวมี่เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น
วันที่ : 23 กันยายน 2560
Xiaomi เปิดตัว Redmi 13X สมาร์ทโฟนราคาประหยัด สเปคคุ้มค่า3 ชั่วโมงที่แล้ว
HONOR Play 60 เผยราคา ดีไซน์ สี และฟีเจอร์หลักที่หลุดออกมา5 ชั่วโมงที่แล้ว
ลือ! iPhone 17 อาจเป็นรุ่นแรกที่รองรับวิดีโอ 8K หลัง Android ทำได้นานแล้ว13 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว nubia Neo3 5G มือถือเกมมิ่ง Born to Win ดีไซน์สุดท่ มี Tiggers เล่นเกมฟินๆ หน้าจอ 120Hz สเปคโหด RAM 20GB กับ AI เพียบ ในราคาไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาท!!31 มี.ค. 68 16:00
ภาพหลุดล่าสุด! เปรียบเทียบความบาง iPhone 17 Air กับ iPhone 17 Pro บางเฉียบจนน่าตกใจ31 มี.ค. 68 15:00
ลือ! iPhone 17 อาจเป็นรุ่นแรกที่รองรับวิดีโอ 8K หลัง Android ทำได้นานแล้ว
Xiaomi เตรียมส่ง Redmi A5 4G บุกตลาดยุโรป ในราคาเริ่มต้นเพียง 5,xxx บาท
Xiaomi 15 สมาร์ทโฟนเรือธงในขนาดกะทัดรัดสำหรับคนรักการถ่ายภาพ
เปิดตัวแล้ว! Xiaomi Redmi Note 14S มาพร้อมกล้อง 200MP จอ 120Hz ในราคาสุดคุ้ม
Xiaomi 15 ซื้อเลยไม่ต้องคิดเยอะ! ได้ทั้งคุ้มทั้งจบในงบไม่เกิน 30,000 บาท
สรุปจุดเด่นและสเปค OPPO A5 Pro 5G กันน้ำ IP69 หน้าจอ 120Hz ลำโพงคู่ ชาร์จเร็ว 45W
OPPO จัดหนัก เปิดตัว Find X8S เล็กแต่แรง พร้อมพี่น้อง X8S+ และ X8 Ultra จ่อคิวบุกตลาดเดือนหน้า
ภาพหลุด CMF Phone 2 เผยดีไซน์คล้ายเดิม แต่เล็กลง และมาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว!
ลือ! iPhone 18 Pro เตรียมใช้โมเด็มเซลลูลาร์ C2 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Apple