วัดกันตัวต่อตัว Huawei Mate 10 กับ Mate 10 Pro หน้าจอใครเจ๋งกว่า

ถือว่าเตรียมสู้ในตลาดสมาร์ทโฟนช่วงปลายปีอีกครั้งสำหรับแบรนด์ Huawei เมื่อได้เปิดตัว Huawei Mate 10 และ Mate 10 Pro ไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ แต่หลายๆ คนยังคงชั่งใจอยู่ว่าจะเลือกรุ่นไหนมาเป็นอุปกรณ์คู่ใจของเราระหว่างรุ่นเล็กอย่าง Mate 10 หรือรุ่นพี่อย่าง Mate 10 Pro วันนี้เราจึงนำสิ่งที่แตกต่างด้านหน้าจอแสดงผลระหว่างสองพี่น้องคู่นี้กันว่ารุ่นใดจะถูกใจเรามากกว่ากัน

ชนิดของหน้าจอ

Mate 10 Pro มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ส่วน Mate 10 มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD โดยความแตกต่างนี้จะทำให้ Mate 10 Pro มีอัตราส่วนความคมชัดและสีที่ดีกว่า ขณะที่ทั้ง 2 รุ่นจะรองรับ HDR10 แต่หน้าจอ AMOLED จะมีช่วงสี NTSC ได้ถึง 112% ขณะที่จอ LCD ทำได้เพียง 96% และสุดท้ายในรุ่น Pro จะมีอัตราส่วนหน้าจอขนาด 18:9 ตามเทรนด์รุ่นระดับ High-End ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม หน้าจอขนาด 6 นิ้วของ Mate 10 Pro มีการแสดงหน้าจออยู่ที่ 92.9 ตารางเซนติเมตร แต่หน้าจอ 5.9 นิ้วของ Mate 10 มีการแสดงหน้าจอที่ใหญ่กว่าอยู่ที่ 95.6 ตารางเซนติเมตร และหากจะให้ดูสมเหตุสมผล ในปี 2016 รุ่น Mate 10 Pro ก็มีหน้าจอที่เล็กกว่าเช่นกัน เพื่อให้สมาร์ทโฟนเกิดความกระชับมากกว่านั่นเอง

ความละเอียดของหน้าจอ

Mate 10 Pro มาพร้อมความละเอียด 1080 x 2160 พิกเซล 401ppi (แสดงผลระดับ 1080p) ส่วน Mate 10 จะมีความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล 499ppi ส่งผลให้ Mate 10 มีความละเอียดของขนาดพิกเซลมากกว่า

ส่วนในเรื่องอื่นๆ อย่างช่องใส่หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ก็ไม่ได้ถูกนำมาใส่ใน Mate 10 Pro (Mate 10 ยังมีอยู่), ส่วนเรื่อง RAM และหน่วยความจำภายใน Mate 10 Pro จะมีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น คือ 4GB/64GB หรือ 6GB/128GB ขณะที่ Mate 10 จะมีเพียงเวอร์ชั่น 4GB/64GB เท่านั้น, มาตรฐานกันน้ำของ Mate 10 Pro จะมาพร้อมกับระดับ IP67 ส่วน Mate 10 มาพร้อมกับ IP57 และตัวกล้องจะมีความละเอียดเท่ากัน คือ กล้องหลัง 20+12 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล

นอกจากนี้ Mate 10 จะเปิดวางจำหน่ายในราคา 700 ยูโร (ประมาณ 27,000 บาท) ส่วน Mate 10 Pro จะเปิดวางจำหน่ายในราคา 800 ยูโร (ประมาณ 31,000 บาท)