5 สิ่งที่ผู้ผลิตอาจเปลี่ยนแปลงหลังเข้าสู่ยุคสมาร์ทโฟนไร้ขอบ

คำว่า "สมาร์ทโฟนไร้ขอบ" หลายคนคงได้ยินกันมาตลอดทั้งปี 2017 ที่ช่วยเรื่องการมองเห็น, การรับชมวิดีโอ หรือการเล่นเกมได้เต็มตามากขึ้น แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน เราก็เห็นสมาร์ทโฟนที่เป็นแบบไร้ขอบแทบทั้งนั้น และเชื่อว่าเทรนด์ดังกล่าวก็ยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปี 2018 อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานหลายคนคงอาจจะเบื่อที่เห็นแต่จอไร้ขอบเหมือนๆ กันหมด ดังนั้น ในปีนี้เราอาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลง 5 อย่างที่ผู้ผลิตจะทำให้ "สมาร์ทโฟนไร้ขอบ" เปลี่ยนไปจากเดิม

ดีไซน์หน้าจอให้มีความแตกต่าง

ใครว่าดีไซน์ไร้ขอบจะมีเพียงรอบตัวเครื่องที่บางลงเท่านั้น? แต่สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่น Essential Phone, Sharp Aquos S2 และ iPhone X ต่างผลิตให้มีความแปลงใหม่ด้วยรอยบาก (Notch) เหนือหน้าจอแสดงผล และแม้ว่าบางคนอาจจะไม่ค่อยชอบการออกแบบสักเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่ามีเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของตัวเอง

ทั้งนี้ การพัฒนาในส่วนของรอยบากก็คงจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นความบางหรือความหนาที่กินเข้ามาในหน้าจอ ประกอบกับดีไซน์ของตัวเครื่องที่น่าหลงใหลมากขึ้น เช่น Xiaomi Mi Mix 2 ที่ตัดส่วนการใช้งานเหนือหน้าจอ มาไว้ที่ด้านล่างแทน

ใช้วัสดุแบบใหม่

ถ้าหน้าจอไร้ขอบถือเป็นลูกเล่นใหม่ที่ออกมาแล้ว ดังนั้นดีไซน์กระจกด้านหลังก็คงจะเป็นเทรนด์ที่เห็นมากขึ้น แต่ก็อาจจะส่งผลให้การใช้งานลำบากมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นตอนใช้สแกนนิ้วมือทางด้านหลังหรือการจับ ขณะที่โลหะถือเป็นหนึ่งในวัสดุที่ดีมากที่สุดในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนรุ่น Moto X (2014) และ Motorola Droid Turbo ก็ผลิตจากไม้และไนลอน ตามลำดับ ซึ่งอาจจะเป็นวัสดุที่ใช้เพื่อเพิ่มความแตกต่างมากขึ้นในอนาคต

เคสหรือฝาหลังที่สีสันสดใส

แม้ว่าบริษัท OnePlus จะยังไม่ใช่แบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่มากนัก แต่หนึ่งในสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีในสมัยก่อน คือ การผลิตสมาร์ทโฟนที่เปลี่ยนเคสลายสวยๆ ได้ โดยฝาหลังลายไม้ก็ขายหมดเกลี้ยงไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟนที่ถอดฝาหลังออกก็เลือนหายไปเช่นเดียวกับการถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่เพื่อให้มีมาตรฐานกันน้ำขึ้นมา ทั้งนี้ สิ่งที่อาจะเกิดขึ้นในอนาคต อาจจะเป็นการถอดฝาหลังได้ควบคู่กับมาตรฐานกันน้ำที่ยังคงเหมือนเดิม

เอกลักษณ์ของตัวเอง

เราแทบจะเถียงไม่ได้เลยว่าสมาร์ทโฟนที่เปิดตัวในช่วงปีหลังๆ จะมีดีไซน์ด้านหน้าที่คล้ายจนแทบแยกแบรนด์ไม่ออก ดังนั้น วัสดุหรืออุปกรณ์ที่ด้านหลังตัวเครื่อง อาจต้องมีการพัฒนาที่ชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะปรับดีไซน์ให้แตกต่างในแต่ละแบรนด์ หรือการใส่ฟีเจอร์ต่างๆ เข้าไปเพื่อเพิ่มความน่าสนใจเข้าไป เช่น แบรนด์ Motorola ที่เผยให้เห็นถึง Moto Mod อุปกรณ์เสริมสำหรับใช้งานร่วมกับตระกูล Moto Z series ไม่ว่าจะเป็นการติดคีย์บอร์ดที่ด้านหลังหรือลำโพงอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย Alexa ของ Amazon

การทำงานของปุ่มต่างๆ รอบตัวเครื่อง

ดีไซน์ไร้ขอบมักจะมาพร้อมการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เหมือนกัน ตั้งแต่ปุ่มโฮม, ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ หรือปุ่มช่วยเหลือต่างๆ ดังนั้น การเพิ่มความสามารถเข้าไปที่รอบตัวเครื่องจะเป็นโมเดลใหม่ของสมาร์ทโฟน เหมือนกับ HTC U11 ที่มีฟีเจอร์ Edge Sense สั่งงานด้วยการบีบข้างตัวเครื่อง, ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอของ Vivo หรือปุ่มสั่งการ Bixby ของ Samsung เป็นต้น ซึ่งในอนาคตก็อาจจะมีปุ่มที่ใช้สำหรับเปิดแอพฯ ที่ชื่นชอบได้ทันทีก็เป็นได้

สุดท้ายนี้ ในปี 2018 ผู้ผลิตอาจนำดีไซน์แปลกใหม่ที่มีความแตกต่างจากเดิมให้ไฉไลมากขึ้นต่อไป ไม่ว่าจะเป็นรอบตัวเครื่อง หรือฟีเจอร์ทั้งเก่าและใหม่ ซึ่งต้องรอดูกันต่อไป