www.siamphone.com
หูฟัง Earbuds (Earbuds) | วันที่ : 19 กุมภาพันธ์ 2561
หญิงคนหนึ่งพร้อมเด็กทารกวัย 9 เดือนถูกคนเมาขับรถมาชนท้ายรถยนต์ของเธอ หลังเกิดเหตุเธอไม่สามารถหยิบโทรศัพท์เพื่อแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่าน 911 แต่ในช่วงนาทีสำคัญก็นึกขึ้นได้ว่าสามารถใช้ Apple Watch แจ้งเหตุฉุกเฉินแทนได้
นอกเหนือจากความสามารถในการติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายแล้ว Apple Watch ยังมีฟีเจอร์ที่เรียบง่ายแต่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของบางคนซึ่งก็คือความสามารถในการรับ-ส่งข้อความและรับสายโทรเข้าจากมือถือแม้ว่าจะไม่ได้พก iPhone อยู่ในมือก็ตาม เรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งได้พิสูจน์ว่าฟีเจอร์การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ผ่านนาฬิกามีบทบาทสำคัญและอาจช่วยชีวิตคนได้
Kacie Anderson หญิงวัย 24 ปีจากเมืองฮันโนเวอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้ฟีเจอร์ SOS บน Apple Watch เพื่อเรียกรถพยายาลหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปลายปีที่ผ่านมา Anderson ได้แบ่งปันประสบการณ์เฉียดตายของเธอพร้อมทารกวัย 9 เดือนให้กับ Apple โดยเล่าว่ารถของเธอถูกคนเมาขับมาชน เธอไม่สามารถหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้งานได้หลังจากเกิดเหตุแต่เธอสามารถใช้ Apple Watch ที่สวมข้อมืออยู่ในเวลานั้นเพื่อขอความช่วยเหลือได้
"ตอนที่คนเมาขับรถมาชนเรา ทุกอย่างภายในรถลอยขึ้นมาบนอากาศ หน้าของฉันกระแทกไปโดนพวงมาลัยรถ พนักพิงศีรษะและก็กลับมาที่พวงมาลัยรถและหน้าต่างรถยนต์ ฉันหมดสติไปประมาณนาทีหนึ่งและไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลยแม้ว่าจะเปิดตาอยู่แต่กลับเห็นเป็นสีดำทั้งหมด มือของฉันขยับไปรอบ ๆ เพื่อควานหาโทรศัพท์แล้วฉันก็นึกได้ว่าที่ข้อมือมี Apple Watch ก็เลยสั่งให้เรียก 911"
ด้วยฟีเจอร์ SOS ตราบเท่าที่โทรศัพท์เปิดอยู่และอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ผู้ใช้งาน Apple Watch สามารถกดปุ่มด้านข้างค้างไว้และรอให้มีเสียงเตือนขึ้นหรือใช้มือปัดเลื่อนบนหน้าจอเพื่อให้ Apple Watch โทรออก 911 หรือหมายเลขฉุกเฉินภายในเครื่อง (กรณีที่ใช้งานในต่างประเทศ)
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ใช้ SOS ฉุกเฉินบน Apple Watch
Apple Watch Series 3 (cellular) นาฬิกา smartwatch รุ่นล่าสุดของ Apple รองรับการทำงานร่วมกับเครือข่ายมือถือซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถโทรหาหมายเลขฉุกเฉินด้วยฟีเจอร์ SOS แม้ว่าจะปิดโทรศัพท์หรือไม่ได้อยู่ใกล้กับโทรศัพท์ก็ตาม นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถตั้งค่ารายชื่อติดต่อในกรณีฉุกเฉินเพื่อแจ้งครอบครัวผ่านข้อความพร้อมระบุตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของคุณ
ลูกชายวัย 9 เดือนของ Anderson ได้รับบาดเจ็บโดยมีอาการช้ำและแผลเป็น ส่วน Anderson ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง "รถพยาบาลมาถึงและก็หามฉันใส่เปลขึ้นรถ คอและหลังของฉันถูกกระแทกอย่างแรกทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะและมึนงงเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ แพทย์ต้องระบายน้ำออกจากหูและจมูกของฉันเพราะสมองของฉันมีอาการบวม คอของฉันเป็นรอยกล้ามเนื้อแตกถึงสองจุดด้วยกันและตอนนี้ยังมีหมอนรองกระดูกหลังอีก 2 จุดที่ยังรอการรักษาอยู่" เธอกล่าว
Anderson บอกว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมาเธอได้รับคำชมอย่างมากในฐานะนักกีฬาบาสเกตบอลซึ่งเธอไม่เคยนึกฝันเลยว่าวันหนึ่งตัวเองจะต้องใช้ฟีเจอร์ SOS โดยยกเครดิตความดีความชอบให้ Apple Watch ที่ช่วยให้เธอและลูกชายรอดจากอุบัติเหตุครั้งนี้
"ฉันรู้สึกมีโชคอย่างมากที่มี Apple Watch อยู่ในมือตอนนั้น"
ที่มา : www.shape.com วันที่ : 19 กุมภาพันธ์ 2561
OPPO Find N5 สมาร์ทโฟนพับจอได้ที่บางที่สุดในตลาด เตรียมเปิดตัวกุมภาพันธ์ 20253 ชั่วโมงที่แล้ว
ASUS Zenfone 12 Ultra เตรียมเปิดตัว 6 กุมภาพันธ์นี้! สมาร์ทโฟน AI แห่งยุคใหม่ของการถ่ายภาพ19 ชั่วโมงที่แล้ว
HUAWEI nova 13 Series เทรนด์ใหม่แห่งการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าคู่15 ม.ค. 68 07:00
Swippitt นวัตกรรมใหม่ชาร์จ iPhone เต็มใน 2 วินาที ด้วยระบบสลับแบตเตอรี่14 ม.ค. 68 22:58
Xiaomi ขนทัพผลิตภัณฑ์ AIoTs รุ่นใหม่ เปิดตัวในไทยอย่างเ็นทางการ14 ม.ค. 68 15:00
ลือ! iPhone 17 และ iPhone 17 Air ยังไม่มีซูม Optical 5x ฟีเจอร์นี้มีเฉพาะรุ่น Pro
รีวิว Apple iPad mini 7 ควรอัปเกรดไหม? แตกต่างจาก iPad mini 6 อย่างไร!
รีวิว OPPO Enco Air4 สัมผัสเสียงที่ชัดเจนและไร้สิ่งรบกวน พร้อมฟีเจอร์ ANC
Apple จัดโปรโมชั่น Black Friday และ Cyber Monday ปี 2024 ลดสูงสุด 6,800 บาท
Apple เปิดตัวฟีเจอร์ Genmoji ใน iOS 18.2 สร้างอิโมจิแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใครด้วย AI บน iPhone