ย้อนรอยความเติบโตของ 'RAM' หนึ่งในฮาร์ดแวร์ที่สำคัญที่สุดในสมาร์ทโฟน

นอกจากหน่วยประมวลผล (CPU) ในสมาร์ทโฟนที่พัฒนาและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ก็ยังมี "RAM" หรือหน่วยความจำชั่วคราวที่มีความจุเพิ่มขึ้นตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ซึ่งสิ่งนี้เองที่เป็นตัวกลางที่เชื่อมกันระหว่าง CPU และ ROM ดังนั้น เราลองมาดูกันดีกว่าว่าในแต่ละปี RAM พัฒนามากขึ้นเพียงใด และในอนาคตการพัฒนาฮาร์ดแวร์ชิ้นนี้จะเป็นไปในทิศทางไหน

RAM คืออะไร

ก่อนอื่นต้องอธิบายให้เข้าใจก่อนว่า RAM คือ ส่วนที่เก็บข้อมูลจากโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เราใช้งานอยู่ เพื่อให้ CPU สามารถเข้าถึงได้ทันที ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเร็วในการอ่านข้อมูลและแสดงผลออกมา เช่น การเปิดแอพพลิเคชั่นหลายตัวในหนึ่งหน้าจอ ตัวของ RAM ก็จะเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ จนบางครั้งก็ทำให้เครื่องช้าหรือค้างไป หรือมีหลายแอพพลิเคชั่นที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง สมาร์ทโฟนที่มี RAM มากก็จะสามารถเข้าถึงแอพต่างๆ ได้โดยไม่ต้องโหลดใหม่ เพราะ RAM ยังคงมีพื้นที่เหลือเพียงพอในการเก็บข้อมูลไว้ ดังนั้น RAM ก็จะมีประโยชน์ในด้านของความเร็วและการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นของสมาร์ทโฟน

การพัฒนาของ RAM ในแต่ละปี

จากค่าเฉลี่ยในแต่ละปี RAM มีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นชนิดและความจุ ซึ่งตั้งแต่ปี 2015 การแข่งขันของแต่ละแบรนด์ก็สู้กันด้วยความจุของ RAM ที่ต้องเยอะไว้ก่อน (สูงสุด 4GB) จนมาถึงปี 2017-2018 ก็มีความจุแบบก้าวกระโดดไปถึง 8GB ในเวลาเพียงไม่กี่ปี (และเชื่อว่าจะมากขึ้นไปอีกในอนาคต)

นอกจากนี้ ทิศทางการพัฒนาก็คาดการณ์ว่าอาจจะมีการอัปเกรดในส่วนที่เป็นประเภทของ RAM (จาก LPDDR4 เป็น LPDDR4X) มากกว่าการเพิ่มความจุ เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานน้อยลงแต่มีอัตราการรับ/ส่งข้อมูล (Bandwidth) สูงขึ้น ขณะที่ความจุก็ยังคงใช้สูงสุดที่ 8GB เท่าเดิม เนื่องจากมันเพียงพอและมากพอต่อการใช้งานในปัจจุบันอยู่นั่นเอง