www.siamphone.com
แก็ดเจ็ต (Gadget) | วันที่ : 9 พฤษภาคม 2561
วันนี้พวกเราชาวไอทีมีข่าวดีมาแนะนำ สำหรับคนที่มักมีปัญหาทะเลาะกับสายชาร์จโทรศัพท์อยู่บ่อยๆ ยิ่งควรต้องอ่าน เพราะหลังจากคุณรู้จักสายชาร์จรุ่นที่เราจะมาแนะนำในวันนี้แล้ว คุณจะใช้จนลืมไปเลยว่าซื้อสายชาร์จครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ซึ่งก่อนอื่นขอบอกเลยว่าสายชาร์จตัวนี้เป็นสายชาร์จน้องใหม่แต่แบรนด์ไม่ใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลายคนเมื่อได้ยินชื่อแบรนด์แล้ว ต้องร้องอ๋อ...กันอย่างแน่นอน นั้นคือแบรนด์ อาซากิ (Asaki) ที่เรามักคุ้นชื่อกับ สินค้าอุปกรณ์ไอทีมากมาย ในร้านสะดวกซื้ออย่าง เซเว่นอีเลฟเว่น และวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักสายชาร์จที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานของอาซากิ บอกเลยว่าไม่ธรรมดา ถ้าพร้อมแล้วเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับเจ้าสายชาร์จตัวใหม่นี้พร้อมๆ กัน
อาซากิเปิดตัว สายชาร์จและโอนย้ายข้อมูล ด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่รุ่น A-2010 ( for iOS ) ซึ่งรุ่นนี้จะซึ่งเป็นสายชาร์จหัวแจ็คแบบ Lightning ใช้สำหรับโทรศัพท์ไอโฟน และอีกรุ่นนึง คือ A-2011 ( for android ) เป็นสายชาร์จหัวแจ็คแบบ Micro USB ที่รองรับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ที่รองรับหัวแจ็คแบบดังกล่าว
ซึ่งหลังจากตามหาเจ้าสายชาร์จ 2 รุ่น A-2010 และ A-2011 กันได้แล้ว อันดับต่อมาเราจะมาทำการแกะกล่องทดลองใช้งานกันดู ซึ่งอย่างแรกเลยที่สะดุดตา คือ แพ็คเกจดูดี แข็งแรง โดยทั้ง 2 รุ่นแตกต่างกัน ในส่วนของ สีกล่อง คือ “กล่องสีดำ”จะใช้สำหรับอุปกรณ์ iOS “ส่วนกล่องสีเงิน” จะใช้สำหรับอุปกรณ์แอนดรอยด์ ซึ่งภาพรวมถือว่าบรรจุภัณฑ์ออกแบบได้สวยงาม ชัดเจน น่าซื้อ ถือว่าผ่าน ! ต่อมาแกะกล่องออกมาดูซิว่าภายในจะดีอย่างที่คิดไหม ปรากฏว่ารูปร่างหน้าตาทำออกมาได้ไฮโซมาก งานเนี๊ยบมากหากเทียบกับราคาค่าตัว โดยมีหัวชาร์จเป็นสีดำตัดกับสีเงิน (ในรุ่นสำหรับ iOS) และสีดำตัดกับสีทอง (ในรุ่นสำหรับ Android ) ส่วนสายทำจากเนื้อวัสดุค่อนข้างทนทานสายสีดำสนิทมีความยาว 100 เซนติเมตร เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น
ส่วนจุดเด่น ที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อ สายชาร์จรุ่นนี้ของ Asaki คือ เรื่องบริการหลังการขาย เพราะเมื่อเกิดการเสียหายจากตัวอุปกรณ์ขณะใช้งานคุณสามารถเคลมสินค้าโดยตรงได้เลย เพียงแค่แนบกล่องสินค้าส่งเคลมให้กับทางบริษัท และที่สำคัญคือมีระยะเวลารับประกันสินค้านานถึง 1 ปีทีเดียว แถมยิ่งกว่านั้นคือเรื่องราคาที่เปิดตัวได้โดนใจมาก โดยรุ่น A-2010 for iOS มีราคาอยู่ที่ 129 บาทและรุ่น A-2011 for Android มีราคาเพียง 109 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาทั้ง 2 รุ่นอย่างแท้จริง
นอกจากสินค้าที่มีคุณภาพแล้วคุณยังได้กล่องเหล็กไว้ประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งไว้เก็บสายชาร์จของตัวมันเอง ไว้เป็นกล่องดินสอ หรือไว้เก็บของจุกจิก หรือบางคนเอากล่องเหล็กมาสะสมก็ไม่ผิดแต่อย่างใด
สุดท้ายนี้หากทุกท่านสนใจอยากซื้อมาใช้งาน สามารถหาซื้อได้ที่เซเว่นอีเลฟเว่น (7-11) ทั่วประเทศ หรือดูสินค้าอื่น ๆ และสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ www.asakithai.com
ที่มา : www.asakithai.com วันที่ : 9 พฤษภาคม 2561
OnePlus Nord 5 แอบแรงเล่น PUBG ที่ 144fps พร้อมเซนเซอร์กล้องระดับเรือธง6 นาทีที่แล้ว
Tecno Pova 7 และ Pova 7 Pro ดีไซน์แสง Delta Light แบตเตอรี่จุใจ 6000mAh8 ชั่วโมงที่แล้ว
Nothing Headphone (1) หูฟังครอบหูรุ่นแรกจาก Nothing จัดเต็มระบบเสียง และการตัดเสียงรบกวน10 ก.ค. 68 15:00
พรีวิว Samsung Galaxy Z Flip7 FE สมาร์ทโฟนจอพับ Fan Edition รุ่นแรก10 ก.ค. 68 08:00
Nothing Phone (3) มาพร้อมลูกเล่นจอ Glyph Matrix ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 8s Gen 410 ก.ค. 68 07:00
Nothing Headphone (1) หูฟังครอบหูรุ่นแรกจาก Nothing จัดเต็มระบบเสียง และการตัดเสียงรบกวน
Xiaomi Watch S4 41mm สมาร์ทวอทช์ดีไซน์เล็กเหมาะกับผุ้หญิง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยชิป Xring T1
รีวิว HUAWEI FreeBuds 6 นิยามใหม่ของหูฟัง Open-Fit เสียงระดับไฮเอนด์ พร้อมที่สุดแห่งการตัดเสียงรบกวน
LG xboom Grab และ xboom Bounce ลำโพงพกพาสุดล้ำที่มาพร้อม AI และเสียงซิกเนเจอร์จาก will.i.am
HONOR Watch 5 Ultra สมาร์ทวอทช์ขอบ 8 เหลี่ยม บอดี้ไทเทเนียม มีโหมด Free Diving ลึก 40 เมตร
รีวิว Xiaomi 33W Magnetic Power Bank 10000 แบตสำรองคู่ใจในยุคดิจิทัล
Xiaomi Pad 7S Pro แท็บเล็ตขุมพลัง Xring O1 หน้าจอใหญ่ 12.5 นิ้ว รีเฟรช 144Hz
JBL Tune Beam 2 มาแล้ว หูฟัง TWS เบสแน่น ANC เจ๋ง แบตฯ อึด ที่คนรักเสียงเบสต้องลอง
Tecno Pova 7 และ Pova 7 Pro ดีไซน์แสง Delta Light แบตเตอรี่จุใจ 6000mAh
หลุดสเปค AirTag 2 อัปเกรดชิปฯ UWB ใหม่ ค้นหาแม่นยำไกลขึ้น 3 เท่า จ่อเปิดตัวปลายปี 2025
Xiaomi Watch S4 41mm สมาร์ทวอทช์ดีไซน์เล็กเหมาะกับผุ้หญิง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยชิป Xring T1