www.siamphone.com
หมวดอื่นๆ (Other) | วันที่ : 28 สิงหาคม 2561
อุปกรณ์ในโลกปัจจุบันไม่ว่าจะมีขนาดใด ใช้ทำอะไร ต่างสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างชาญฉลาด มีการเชื่อมต่อใหม่ๆ ระหว่างอุปกรณ์นับล้านๆ ชิ้นเกิดขึ้นใหม่ทุกวัน IDC คาดว่าในปี 2563 จะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตออฟธิงค์ (IoT) ทั่วโลกเกินกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลมาจากการคาดการณ์ว่า การเติบโตสะสมเฉลี่ยต่อปีจะมากกว่า 14% ในช่วงหลายๆ ปีต่อจากนี้ การพัฒนาอย่างรวดเร็วของ IoT เป็นตัวเร่งให้องค์กรต่างๆ ลงทุนด้านเทคโนโลยี และลงทุนกับเครื่องมือที่จะช่วยพัฒนา บริหารจัดการ และนำผลิตภัณฑ์และบริการด้าน IoT เหล่านี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์มากขึ้น
Redhat ได้มอบหมายให้ RTInsigts ทำการสำรวจผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจด้านไอทีขององค์กรขนาดใหญ่จำนวน 253 ราย เพื่อให้ได้ข้อมูลว่าพวกเขาเหล่านั้นใช้เทคโนโลยีอะไรพัฒนาโซลูชั่นด้าน IoT ต่างๆ โดยองค์กรที่เข้าร่วมการสำรวจนี้จะต้องเป็นองค์กรที่พัฒนาโซลูชั่น IoT อยู่ในปัจจุบัน หรือมีแผนจะทำภายใน 12-18 เดือนต่อจากเวลาที่ทำการสำรวจ การสำรวจได้พิจารณาถึงความแตกต่างระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชั่น IoT กับการพัฒนาแอปพลิเคชั่นแบบเดิม, ระหว่างการพัฒนาโซลูชั่น IoT ได้มีความสามารถสำคัญๆ อะไรบ้างเกิดขึ้นบ้าง และความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องมือที่เป็นโอเพ่นซอร์สและการพัฒนาโซลูชั่น IoT
หนึ่งในคำถามแรกๆ ของการสำรวจคือ "ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชั่น IoT กับการพัฒนาแอปพลิเคชั่นแบบเดิม คืออะไร" ซึ่งคำตอบที่ได้รับจากการสำรวจมีดังนี้
เมื่อระบุได้แล้วว่าความแตกต่างระหว่างกระบวนการทั้งสองคืออะไร เราก็สามารถระบุได้ชัดเจนขึ้นว่าอะไรคือสิ่งจำเป็นในการพัฒนาโซลูชั่น IoT ให้ประสบความสำเร็จ และผลสำรวจที่ออกมาก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าโซลูชั่นที่เชื่อถือได้และปรับขนาดการทำงานได้ตามต้องการจะถูกจัดอยู่ในลำดับแรกๆ ที่ผู้ให้การสำรวจเห็นว่าควรนำมาใช้เพื่อการสรรสร้างโซลูชั่น IoT ต่างๆ รวมถึงการใช้ข้อมูลปริมาณมาก
เมื่อได้ทราบถึงความแตกต่างระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชั่น IoT และแอปพลิเคชั่นแบบเดิมแล้ว เราต้องการทราบว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอทีใช้ซอฟต์แวร์อะไรเป็นเครื่องมือในการสร้างแอปพลิเคชั่น IoT ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เราได้ทราบว่าซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สได้กลายเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดขององค์กรในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นและนำมาใช้ ซึ่งตรงตามผลสำรวจที่ระบุว่าโอเพ่นซอร์สเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการพัฒนาโซลูชั่น IoT ด้วยเช่นกัน
ผลสำรวจพบว่า 39% ของผู้ตอบแบบสอบถามจากองค์กรที่กำลังพัฒนาโซลูชั่น IoT อยู่ในปัจจุบัน ชื่นชอบเครื่องมือที่เป็นโอเพ่นซอร์สมากกว่าเครื่องมืออื่นๆ ที่มีกรรมสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อถามคำถามเดียวกันนี้ไปยังองค์กรที่จัดตัวเองอยู่ในกลุ่มผู้นำด้าน IoT ตัวเลขยิ่งสูงขึ้น กล่าวคือ 43% ของผู้ตอบแบบสอบถามใช้โอเพ่นซอร์สในการพัฒนาโซลูชั่น IoT ทั้งนี้ ในบรรดาองค์กรที่ใช้โอเพ่นซอร์สเป็นหลักในการพัฒนาโซลูชั่น IoT ที่จัดตัวเองเป็นผู้นำด้าน IoT ใช้โซลูชั่นโอเพ่นซอร์สมากกว่า องค์กรที่ใช้เครื่องมือที่มีกรรมสิทธิ์เป็นหลักในการพัฒนาถึง 50%
การสนับสนุนและความช่วยเหลือจากโซลูชั่นโอเพ่นซอร์สไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อเราพิจารณาถึงความต้องการหลักๆ ในการพัฒนาโซลูชั่น IoT กล่าวได้ว่าองค์กรที่พัฒนาโซลูชั่น IoT ต้องพร้อมที่จะจัดการกับความต้องการในการปรับขนาดการทำงานได้ตามต้องการ, ความเชื่อถือได้, การจัดการความซับซ้อน, และความต้องการอื่นๆ ที่จะตามมา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่โอเพ่นซอร์สมีอยู่แล้ว และสามารถช่วยองค์กรให้ประสบความสำเร็จได้
จะเห็นได้ว่าซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สเป็นที่แพร่หลายในหมู่องค์กร และการสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นโอกาสของเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สที่จะเสริมให้องค์กรต่างๆ เริ่มต้นใช้โซลูชั่น IoT ต่างๆ ร่วมกับสถาปัตยกรรมไอทีของตน เร้ดแฮทมุ่งมั่นให้การสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงระบบไอทีขององค์กร และยังคงมุ่งหวังที่จะทำงานกับผู้ใช้งานในการพัฒนาโซลูชั่น IoT ต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีของเร้ดแฮทอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละองค์กร
ที่มา : www.redhat.com วันที่ : 28 สิงหาคม 2561
เจาะลึกเทคโนโลยีกล้อง AI บนสมาร์ทโฟน HONOR Magic6 Pro33 นาทีที่แล้ว
HUAWEI FreeBuds Lipstick 2 หูฟังไร้สายดีไซน์ลิปสติก เจาะกลุ่มสาวรักแฟชั่น3 ชั่วโมงที่แล้ว
Baojun Yep Plus ขุมพลังรถยนต์ไฟฟ้า ดีไซน์เรียบหรูสไตล์เรโทร ขับขี่ไกลสูงสุด 401 กม.7 ชั่วโมงที่แล้ว
iPhone 16 พบภาพหลุดตัวดัมมี่ ปรับดีไซน์กล้องหลัง รุ่น Pro เพิ่มขนาดหน้าจอ7 ชั่วโมงที่แล้ว
ฟีเจอร์กล้อง 108MP ใน HUAWEI nova 12i สเปกเท่าเรือธงในงบต่ำหมื่น9 ชั่วโมงที่แล้ว
iPhone 16 พบภาพหลุดตัวดัมมี่ ปรับดีไซน์กล้องหลัง รุ่น Pro เพิ่มขนาดหน้าจอ
Apple ประกาศจัดงาน Let Loose ในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ คาดว่าอาจเปิดตัว iPad รุ่นใหม่
realme P1 และ realme P1 Pro หน้าจอ AMOLED-120Hz กล้องหลัง 50MP ชาร์จเร็ว 45W
Google Pixel 8a หลุดสเปคและฟีเจอร์เด็ด เตรียมเปิดตัวพร้อม Android 15
Moto G04s น่าใช้ขึ้นด้วยกล้อง 50MP เทคโนโลยี Quad pixel และลำโพง Dolby Atmos