Counterpoint: ฟีเจอร์โฟนทำยอดขายรวมทั่วโลกเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 ไตรมาส

ในข้อมูลเผยว่า iTel และ HMD คือสองผู้นำในตลาดฟีเจอร์โฟน Q3 2018 โดยมีส่วนแบ่งเท่ากันที่ 14% รองลงมาคือ Jio ที่ 11% และ Samsung ที่ 8% ซึ่งขณะนี้ผู้ผลิตได้เข็นฟีเจอร์โฟน 4G ราคาถูกและสามารถเข้าถึงได้เข้าไปในตลาดเกิดใหม่เช่นอินเดีย ตะวันออกกลางและแอฟริกา

แผนภูมิวงกลมแสดงส่วนแบ่งตลาดฟีเจอร์โฟนในภูมิภาคต่าง ๆ เผยให้เห็นว่าประเทศกำลังพัฒนามีการใช้ฟีเจอร์โฟนเพิ่มมากกว่าประเภทพัฒนาแล้วอย่างในยุโรปและอเมริกาเหนือ ส่วนเอเชียมีส่วนแบ่งตลาดราว ๆ ครึ่งหนึ่งของอินเดียและเป็นพื้นที่สำคัญในสายตาของผู้ผลิต

Counterpoint ชี้ว่ามีเหตุผลสองประการที่ทำให้ฟีเจอร์โฟนกลับมาได้รับความนิยมนั่นคือ

'อายุการใช้งาน' และ 'ฐานผู้ใช้งาน'

ขณะที่ไฟฟ้ายังคงเป็นปัญหาในแอฟริกาหลายพื้นที่ทำให้ผู้คนชื่นชอบอุปกรณ์มือถือที่ใช้งานได้ยาวนานโดยไม่ต้องชาร์จแบตบ่อย นอกจากนี้คนยังนิยมนำฟีเจอร์โฟนมาใช้เป็นมือถือเครื่องรองด้วยเหตุผลเดียวกันคือถ้าสมาร์ทโฟนแบตหมดก็ยังพึ่งพาฟีเจอร์โฟนในการติดต่อสื่อสารได้

อย่างไรก็ตามแนวโน้มที่ผู้ใช้ฟีเจอร์โฟนจะหันไปใช้สมาร์ทโฟนไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ในทางกลับกันคนที่ไม่ค่อยสนใจเทคโนโลยีมีแนวโน้มชอบฟีเจอร์โฟนมากกว่าสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังมีเหตุผลอื่นประกอบ เช่น ผู้บริโภคในตลาดเกิดใหม่มีกำลังซื้อต่ำ เทคโนโลยีบนฟีเจอร์โฟนที่ดีขึ้นกว่าในอดีต หรือแม้แต่การที่มีเครือข่าย 4G รองรับทำให้สามารถใช้งาน Facebook, WhatsApp และแอพโซเชียลอื่น ๆ ผ่านฟีเจอร์โฟนจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้สมาร์ทโฟน

การกลับเข้าสู่ตลาดของ HMD ช่วยขับเคลื่อนความต้องการอุปกรณ์มือถือราคาถูก ความรู้สึกคิดถึงวันวานในอดีตและคุณภาพการผลิตทำให้ Nokia 3310 3G / Nokia 3310 4G ได้รับความนิยมจนช่วยให้ทางบริษัทก้าวขึ้นเป็นผู้นำร่วมกับ iTel ซึ่งฝ่ายหลังเป็นผู้ผลิตฟีเจอร์โฟนแบรนด์ฮ่องกงที่ได้รับความนิยมในแถบแอฟริกา

Counterpoint คาดการณ์ว่าโทรศัพท์แบบฟีเจอร์โฟนจะมีส่วนพัวพันกับตลาดมือถือไปอีกอย่างน้อย 5 ปีข้างหน้าโดยมีฐานผู้ใช้หน้าใหม่มาจากผู้บริโภคที่มีรายได้ต่ำและผู้ที่เพิ่งใช้งานมือถือเป็นครั้งแรก