www.siamphone.com
องค์กร (Corporate) | วันที่ : 4 กุมภาพันธ์ 2562
จากวิกฤตฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ที่ปกคลุมไปทั่วเมือง และกระจายไปในหลายจังหวัดทั่วประเทศอยู่ในขณะนี้ ได้สร้างความตื่นตัวให้หลายฝ่ายหันมามองหาแนวทางป้องกันลดมลพิษ และดูแลสุขภาพ โดยจากค่าดัชนีฝุ่นละอองในอากาศที่ตรวจพบล่าสุดบน NOSTRA Map App โดยการดึงข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 7.00 น. พบว่า เช้าวันนี้กรุงเทพมหานคร มีปริมาณฝุ่น PM2.5 ลดลง ในทุกพื้นที่อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศดี - คุณภาพอากาศดีมาก แต่ภาพรวมทั้งประเทศยังพบพื้นที่ที่มีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพหลายพื้นที่ และยังต้องเฝ้าระวังสูงสุดใน 5 จังหวัดได้แก่ ต.ในเมือง ต.นาจักร อ.เมือง แพร่, ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก, ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ ลำปาง,ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง นครสวรรค์ และ อ.เมือง ขอนแก่น
ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษเปิดเผยว่า มากกว่า 50-60% ของมลภาวะมาจากรถยนต์และท่อไอเสีย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มีรถยนต์จำนวนมากเกือบ 10 ล้านคัน การขับรถที่ไม่ถูกวิธีและไม่ดูแลรักษาเครื่องยนต์มีส่วนทำให้เกิดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสิ้นเปลืองเกินความจำเป็นและเกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซต์ซึ่งเกิดจากกระบวนการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของสารประกอบคาร์บอนที่อยู่ในเครื่องยนต์ของรถอันเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก และยังเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศซึ่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมอีกด้วย
นอกจากนี้ จากข้อมูลการศึกษาของค่ายรถยักษ์ใหญ่ยี่ห้อหนึ่ง ยังได้เปิดเผยพฤติกรรมการขับขี่ที่มีผลต่อการใช้น้ำมัน และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อกิโลเมตร โดยระบุว่าลักษณะนิสัยการขับขี่แบบ Eco-driving หรือ การขับขี่อย่างชาญฉลาดเพื่อประหยัดพลังงาน จะช่วยลดทั้งอัตราการใช้น้ำมันสิ้นเปลือง และช่วยลดการปล่อยไอเสียได้สูงสุดถึง 25% เมื่อเทียบกับการขับขี่แบบค่าเฉลี่ยปกติ โดยการเปลี่ยนแปลงวิธีการขับขี่เพียงเล็กน้อยจะสามารถประหยัดน้ำมันและลดปริมาณไอเสียในอากาศได้มาก
นางสาวปิยวดี หงษ์ภักดี ผู้อำนวยการส่วนผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ บริษัท จีไอเอส จำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจี เผยนอสตร้า โลจิสติกส์ แนะผู้ใช้รถยนต์ควรใส่ใจดูแลรถยนต์ให้มีสภาพสมบูรณ์อย่างสม่ำเสมอ ไม่เพียงเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ในท้องถนน แต่ยังเป็นกำลังสำคัญ ช่วยลดมลพิษในอากาศและลดการใช้เชื้อเพลิงอีกด้วย เช่น การทำความสะอาดไส้กรองสม่ำเสมอ ไส้กรองอากาศที่ไม่สะอาดจะทำให้อากาศผ่านได้น้อยหรือเกิดการอุดตัน เป็นเหตุให้รถยนต์ใช้เชื้อเพลิงมากกว่าปกติ และยังทำให้เกิดควันดำจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ การทำความสะอาดไส้กรองสามารถทำได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ด้วยการเป่าด้วยลมจากด้านใน เพื่อให้ฝุ่นที่จับบนไส้กรองหลุดออกมาด้านนอก ทั้งนี้ ควรทำความสะอาดไส้กรองตามที่กำหนดในคู่มือการใช้รถ หรือเมื่อตรวจพบว่าไส้กรองไม่สะอาด โดยอาจสังเกตจากอัตราการใช้น้ำมันที่เปลืองกว่าปกติ รวมถึงควรตรวจเช็คและเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นตามระยะที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้รถ หรือก่อนกำหนด เพราะน้ำมันหล่อลื่นที่มีสิ่งสกปรกเข้าไปผสมอยู่ทำให้คุณภาพการทำงานของน้ำมันเสื่อมลง ซึ่งจะส่งผลให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าปกติ และกำลังของเครื่องยนต์ลดลง ทำให้ต้องดึงน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปกระตุ้นให้เครื่องยนต์ทำงานได้ในระดับเดิม เป็นผลให้ใช้น้ำมันโดยสิ้นเปลืองและเกิดการเผาไหม้สร้างมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ การใส่ใจด้านเทคนิคการใช้รถง่าย ๆ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ช่วยประหยัดพลังงาน และช่วยลดการปล่อยคาร์บอนมอนอกไซต์ เช่น วางแผนก่อนเดินทาง ตรวจเช็คลมยาง บรรทุกสิ่งของเท่าที่จำเป็น รักษาความเร็วสม่ำเสมอ (ประหยัดสุดที่ 80-100 กม/ชม.) ใช้เกียร์ให้ถูก ไม่เร่งกระชากเครื่องยนต์ ใช้เบรกให้น้อย ไม่เหยียบเบรกกระชาก ดับเครื่องยนต์หากจอดรถนาน และดูแลรักษาเครื่องยนต์อยู่เสมอ
ด้านผู้ขับขี่เองแม้ว่าจะอยู่ในรถก็ยังไม่ปลอดภัยจากปัญหาเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก เนื่องจากอากาศในรถยนต์เป็นระบบปิด เมื่อมีการเปิด-ปิดประตูก็มีโอกาสสูงที่ฝุ่นละอองจะเข้ามาในห้องโดยสาร ผู้เดินทางควรศึกษาข้อมูลค่ามลพิษในพื้นที่เดินทางเพื่อพิจารณาหลีกเลี่ยงหรือเตรียมรับมือ โดยมีแอปพลิเคชันที่ให้บริการข้อมูลตรวจเช็คค่าฝุ่นละอองในจุดต่าง ๆ เช่น NOSTRA Map app สามารถใช้ตรวจเช็คค่าฝุ่นละออง PM2.5 บนแผนที่แบบเรียลไทม์ครอบคลุมทั่วประเทศไทย และหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ผู้ขับขี่ควรป้องกันตนเองด้วยการใช้หน้ากากที่กรองฝุ่นได้ในระดับ PM2.5 จะช่วยลดความเสี่ยงจากการหายใจเอาฝุ่นละอองซึ่งอันตรายต่อสุขภาพ และระหว่างการขับรถควรเลือกใช้ระบบอากาศภายในรถยนต์เป็นออฟชันแบบระบบอากาศหมุนเวียนภายในรถ ซึ่งจะไม่ดึงเอาอากาศจากภายนอกเข้ามาในรถ
นอกจากการใช้รถให้ถูกวิธีและการป้องกันต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมาข้างต้น ปัจจุบันยังได้มีเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญเพื่อสนับสนุนการขับขี่ปลอดภัยและรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ตลอดจนเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์อย่าง เทเลเมติกส์ (Telematics) ซึ่งเป็นอุปกรณ์หรือระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่รับรู้รูปแบบการขับขี่ของตนเองได้จากการแจ้งเตือนของระบบ ไม่ว่าจะการใช้ความเร็วสูงเกินกำหนด การเหยียบเบรกรุนแรง การเร่งกระชาก กระแทกลูกระนาด จอดไม่ดับเครื่องยนต์ ฯลฯ ซึ่งการขับขี่ลักษณะนี้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย อีกทั้งยังมีผลทำให้เครื่องยนต์เกิดการสึกหรอและใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเกินจำเป็น เป็นการเพิ่มโอกาสให้เครื่องยนต์ปล่อยมลพิษเข้าสู่สภาพแวดล้อม
เทคโนโลยี Telematics สามารถตรวจสอบ เก็บข้อมูล และแจ้งเตือนข้อมูลพฤติกรรมการขับรถให้ผู้ขับขี่หรือผู้ใช้ระบบรับทราบได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถปรับปรุงการขับรถให้ดีขึ้นได้ทันที และยังนำข้อมูลมหาศาล หรือ Big data ที่ได้จากการขับรถในทุก ๆ วัน มาวิเคราะห์เพื่อประเมินประสิทธิภาพการขับรถ (Driving Performance Score) ทำให้ผู้ขับขี่หรือผู้ใช้ระบบตระหนักถึงการขับขี่และการใช้รถของตนเอง เพื่อพัฒนาปรับปรุงการขับขี่ให้เกิด Road Safety และ Eco-Driving ทั้งยังสามารถวางแผนและแจ้งเตือนการบำรุงรักษารถได้จากข้อมูลการใช้รถที่ถูกรวบรวมไว้ เช่น การตรวจเช็ครถตามระยะทาง การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถพร้อมลดการสร้างมลภาวะทางอากาศ
“การแก้ไขปัญหาด้านมลภาวะล้วนเป็นความรับผิดชอบโดยรวมของผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งนอกจากการปรับปรุงการขับรถให้ถูกวิธี การใส่ใจดูแลรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เทคโนโลยี Telematics ยังเป็นอีกโซลูชั่น ที่จะเข้าช่วยสนับสนุน จากรถคันหนึ่งไปยังหลาย ๆ คัน รถทุกคันก็จะมีส่วนร่วมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนและลดการปล่อยคาร์บอนมอนนอกไซต์เข้าสู่สภาพแวดล้อม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและมุ่งสู่การเป็นสังคม SMART CITY แบบมั่นคงและยั่งยืนอีกทางหนึ่ง” นางสาวปิยวดีกล่าว
ที่มา : www.giscompany.co.th วันที่ : 4 กุมภาพันธ์ 2562
ENNXO แนะนำ 5 เครื่องรางเสริมฮวงจุ้ย ด้านโชคลาภ เงินทองและค้าขาย45 นาทีที่แล้ว
Moondrop MIAD 01 สมาร์ทโฟนเพื่อเสียงเพลง MasterHIFI บอร์ดเสียงชุบทองคำ มีช่องเสียบหูฟัง 2 ช่อง!1 ชั่วโมงที่แล้ว
เลือกอะไรดี! HONOR Pad9 vs Samsung Galaxy Tab S6 Lite (2024) ราคาต่างกัน 2,000 บาท3 ชั่วโมงที่แล้ว
ส่องฟีเจอร์ใหม่! ปุ่ม Lookup บนแอปฯ Phone ของสมาร์ทโฟน Android ช่วยเช็คเบอร์มือถือ ป้องกันมิจฉาชีพ5 ชั่วโมงที่แล้ว
Redmi Note 13 Pro 5G วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ20 ชั่วโมงที่แล้ว
ทำความรู้จัก OPPO A60 4G หน้าจอ 90Hz ลำโพงสเตอริโอ ชาร์จเร็ว 45 วัตต์ เริ่มต้น 5,999 บาท
realme P1 และ realme P1 Pro หน้าจอ AMOLED-120Hz กล้องหลัง 50MP ชาร์จเร็ว 45W
สรุปจุดเด่นและสเปค realme 12x 5G มือถือราคาครึ่งหมื่นก็ใช้งานเน็ต 5G ได้แล้ว อย่างคุ้ม!
vivo T3 5G สมาร์ทโฟนหน้าจอ AMOLED 120Hz มีกล้องความละเอียดสูงสุด 50MP กันสั่น OIS
HONOR X7b 5G ขยับใช้ชิปเซ็ต Dimensity 6020 จุใจด้วยกล้องระดับ 108MP