www.siamphone.com
เทคโนโลยีภายในบ้าน (Home and Living) | วันที่ : 30 พฤษภาคม 2562
แม้ว่าในตอนนี้จะมีเทคโนโลยีทีวีมากมายในตลาด และชื่อเรียกที่แตกต่างกันก็อาจสร้างความสับสนให้แก่ผู้บริโภคเมื่อถึงเวลาต้องเลือกซื้อทีวีเครื่องใหม่ แต่ที่ยังคงยืนหนึ่งในวงการก็ยังคงเป็นทีวี LCD (หรือที่รู้จักกันว่าทีวี LED) ซึ่งทั้งคอหนัง คอซีรี่ส์ และคอกีฬาต่างพากันมองหารุ่นที่ตอบโจทย์โดนใจได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นราคา ความคมชัดของภาพ เฉดสี หรือขนาดของหน้าจอ LG จึงขอเสนอสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อต้องเลือกซื้อทีวีใหม่ เพื่อให้ดูคอนเทนต์โปรดได้อย่างจุใจมากที่สุด
ความละเอียดของภาพต้องคมชัดทะลุจอมากขนาดไหน
ในยุคนี้ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ต้องชัดระดับ 4K ซึ่งต่างก็มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป เช่น Ultra HD หรือ UHD ถ้าดูง่าย ๆ ก็คือทีวีที่มีความละเอียดไม่ต่ำกว่า 3,840 x 2,160 พิกเซล ซึ่งไม่ว่าจะดูคอนเทนต์ประเภทไหน ภาพที่คมชัดทุกรายละเอียดย่อมได้อรรถรสมากกว่าอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเสริมด้วยระบบ HDR (High Dynamic Range) ซึ่งช่วยยกระดับความลึกล้ำของแต่ละเฉดสี เพิ่มค่าคอนทราสต์และความสว่างของภาพให้ดูมีมิติ สีสันแม่นยำเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น และที่สำคัญ คอนเทนต์ 4K ซึ่งหาดูได้ง่ายสุด ๆ ทั้ง Netflix, Youtube หรือแม้กระทั่งเกมส์ Play Station ต่างก็มีคอนเทนต์ 4K มากมายให้เลือกสรร
แล้วจำเป็นต้องชัดระดับ 8K เลยมั้ย? ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผู้ผลิตหลายรายเริ่มวางขายทีวี 8K ในตลาด แต่ยังคงมีคำถามว่าแล้วเราจะไปหาคอนเทนต์ 8K ดูได้จากที่ไหน ซึ่งไม่เพียงปัญหาในเรื่องการขาดแคลนคอนเทนต์ 8K เท่านั้น แต่ราคาของทีวี 8K ยังแพงเกินความจำเป็น เราจึงแนะนำว่าหากสนใจทีวี 8K จริง ๆ ควรรออีกสัก 6 เดือน – 1 ปี ให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและคอนเทนต์ที่พร้อมและเหมาะสมกว่านี้จะดีกว่า
สีสันสมจริงเป็นธรรมชาติสำคัญที่สุด
สีสันที่สมจริงตามต้นฉบับเป็นอีกหนึ่งข้อสำคัญที่ควรคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อทีวี ซึ่งควรเป็นทีวีที่รองรับช่วงสีแบบ Wide Color Gamut (WCG) หมายความว่าหน้าจอสามารถแสดงเฉดสีได้หลายเฉดมากกว่า ทำให้ภาพที่ออกมามีความแม่นยำใกล้เคียงกับความเป็นจริงและมีความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
แสดงสีดำสนิทลึกล้ำคอนทราสต์ชัดเจน
จุดอ่อนที่เห็นได้ชัดของทีวี LED รุ่นก่อน ๆ คือไม่สามารถแสดงสีดำที่ดำสนิทได้ เพราะมีแสงรบกวนจากแหล่งกำเนิดแสงหรือ backlight แต่ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยการจัดวางหลอดไฟแบบ Full Array Local Dimming (FALD) ที่วางหลอดกระจายทั่วหน้าจอ จึงควบคุมการแสดงสีได้อย่างเฉพาะจุด แม่นยำมากยิ่งขึ้น ลดแสงรบกวนจากแหล่งกำเนิดแสง จึงแสดงสีดำและคอนทราสต์ได้ลึกล้ำกว่าไม่ว่าจะเป็นในฉากมืดหรือฉากกลางคืน ก็ยังสามารถเพลิดเพลินได้อย่างเต็มที่ในทุกฉาก
จะอยู่ส่วนไหนของห้องก็ควรจะดูทีวีได้ชัดเหมือนกัน
มุมมองในการรับชมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลย เพราะเราไม่ได้นั่งดูทีวีอยู่ในจุดเดิมตลอดเวลา เมื่อต้องเคลื่อนไหวไปส่วนอื่น ๆ ของห้อง หรือชวนเพื่อน ๆ มาดูละครสุดฮิตเรื่องโปรดด้วยกัน ไม่ว่าจะดูจากมุมไหนของห้องก็ต้องมองเห็นภาพได้ชัด สีไม่ผิดเพี้ยนเหมือนกัน จึงควรเลือกหน้าจอแบบ IPS หรือ In-Plane Switching ที่มีมุมมองในการรับชมกว้างถึง 178 องศา แทนที่จะเป็นหน้าจอแบบ VA ที่มีมุมมองในการรับชมเพียงแค่ 60 องศาเท่านั้น ซึ่งหน้าจอแบบ IPS นั้น ไม่ว่าจะรับชมจากมุมไหน หรือองศาใด สีสันก็ยังคงแม่นยำทุกรายละเอียดไม่ผิดเพี้ยนจากต้นฉบับ
เคลื่อนไหวเร็วแค่ไหนก็ต้องไหลลื่นไม่มีสะดุด
สำหรับคอหนังแอ็คชั่น คอกีฬา หรือเหล่าเกมเมอร์ทั้งหลาย ภาพเคลื่อนไหวในฉากหรือแมตช์สำคัญที่ไหลลื่นไม่เบลอไม่สะดุดนั้นสำคัญอย่างมาก จึงต้องให้ความสำคัญกับ Refresh Rate หรือภาพที่แสดงต่อวินาที ซึ่งถ้ายิ่ง Refresh Rate สูง ภาพเคลื่อนไหวก็จะยิ่งลื่นไหล หรือถ้าจะให้รับชมได้อย่างเต็มอรรถรสสุด ๆ ควรเลือกทีวีที่รองรับ High-Frame Rate (HFR) ที่ 120 เฮิรตซ์ หรือ 120 ภาพต่อวินาที เพื่อภาพเคลื่อนไหวที่ราบรื่นไร้รอยสะดุด
ยิ่งใหญ่ยิ่งดีจริงหรือ
ช่วงนี้ ทีวีจอใหญ่ได้รับความนิยมมากขึ้น แต่แค่ใหญ่อย่างเดียวก็คงจะไม่พอ เทคโนโลยีที่มาพร้อมกับทีวีก็ต้องมีประสิทธิภาพสูงตามไปด้วย ซึ่งทีวีจอใหญ่ที่มีขนาด 65 นิ้วขึ้นไป จะต้องมาพร้อมมุมมองในการรับชมที่กว้าง เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวสามารถเพลิดเพลินกับความบันเทิงได้เหมือนกันไม่ว่าจะมองจากมุมไหน และควรรองรับภาพระดับ HDR โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Dolby Vision ที่เพิ่มมิติสีสันและความสว่างให้ภาพมีชีวิตชีวาสมจริงมากที่สุดในทุกอณูของการแสดงภาพ เนรมิตบ้านให้เป็นโรงหนังได้อย่างเต็มอรรถรส
LG NanoCell TV จะชอบคอนเทนต์แบบไหนก็ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ในฐานะผู้นำตลาดทีวีพรีเมียมของโลก แอลจีได้พัฒนาเทคโนโลยี NanoCell ขึ้นเพื่อยกระดับประสบการณ์ในการรับชมจากจอ LED ให้สมบูรณ์แบบที่สุด โดยใช้อนุภาคนาโนที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นาโนเมตร ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเทคโนโลยีควอนตัมดอทที่ถูกนำมาใช้ในทั้งจอโทรทัศน์และมือถือ ซึ่งมีขนาดใหญ่ 2-12 นาโนเมตร เทคโนโลยี NanoCell จึงสามารถควบคุมการแสดงเฉดสีได้อย่างแม่นยำยิ่งกว่า และมีคุณสมบัติในการดูดซับการแทรกแซงของแสง จึงแสดงสีสันที่ละเอียดและเสมือนจริงเป็นธรรมชาติ ในช่วงสีที่มีความกว้างแบบ Wide Color Gamut (WCG) ทำงานคู่กับการจัดวางหลอด LED แบบ Full Array Local Dimming (FALD) วางหลอดไฟ LED เต็มหน้าจอเสริมมิติความดำสนิทมากยิ่งขึ้น (Nano Black) ลดแสงสะท้อนสามารถแสดงเฉดสีและแสงเงาได้ในองศาการรับชมที่กว้างถึง 178 องศาโดยที่สีไม่ผิดเพี้ยน (Nano Accuracy)ในดีไซน์เรียบง่ายล้ำสมัย บนขาตั้งพระจันทร์เสี้ยว (Nano Bezel) ลงตัวกับทุกการตกแต่งอย่างสมบูรณ์แบบ
ที่มา : www.lg.com วันที่ : 30 พฤษภาคม 2562
เจาะลึกเทคโนโลยีกล้อง AI บนสมาร์ทโฟน HONOR Magic6 Pro2 ชั่วโมงที่แล้ว
HUAWEI FreeBuds Lipstick 2 หูฟังไร้สายดีไซน์ลิปสติก เจาะกลุ่มสาวรักแฟชั่น4 ชั่วโมงที่แล้ว
Baojun Yep Plus ขุมพลังรถยนต์ไฟฟ้า ดีไซน์เรียบหรูสไตล์เรโทร ขับขี่ไกลสูงสุด 401 กม.8 ชั่วโมงที่แล้ว
iPhone 16 พบภาพหลุดตัวดัมมี่ ปรับดีไซน์กล้องหลัง รุ่น Pro เพิ่มขนาดหน้าจอ9 ชั่วโมงที่แล้ว
ฟีเจอร์กล้อง 108MP ใน HUAWEI nova 12i สเปกเท่าเรือธงในงบต่ำหมื่น10 ชั่วโมงที่แล้ว
LG PuriCare 360° Alpha Pet เครื่องฟอกอากาศ สำหรับเหล่า Pet Parents
Samsung เปิดตัว AI TV รุ่น Neo QLED 8K ที่ภาพชัดขึ้นและฉลาดขึ้น
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12 Detect Slim Absolute แรงดูดทรงพลัง 150AW
รวมลิสต์เครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์เสริมที่ควรมีติดบ้านหน้าร้อน
Dyson Gen5detec กับเทคโนโลยี Dyson CleanTrace ทำความสะอาดแบบล้ำลึกและแม่นยำ
HUAWEI FreeBuds Lipstick 2 หูฟังไร้สายดีไซน์ลิปสติก เจาะกลุ่มสาวรักแฟชั่น
Samsung Galaxy C55 หน้าจอ Super AMOLED+ ขุมพลัง Snapdragon 7 Gen 1
TECNO CAMON 30 Premier 5G หน้าจอ AMOLED 6.77 นิ้ว ชิปเซ็ต Dimensity 8200 Ultimate กล้อง 3 ตัว 50MP
เตรียมเปิดตัว NOTE 40 Series พร้อมดึง เก้า สุภัสรา นั่งแท่นพรีเซนเตอร์คนล่าสุด