realme C11 vs Vivo Y11 ศึกชิงแชมป์รุ่นเล็ก ท้าดวลทั้งสเปค ท้าดวลทั้งราคา !!

Advertorial : เรียกว่าตลาดสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ก็แข่งขัน่กันอย่างดุเดือด งัดกันมาทั้งสเปคที่อัดแน่นครบเครื่อง รวมไปถึงราคาโดนใจ แต่ถ้าจะให้พูดถึงสมาร์ทโฟนในรุ่นเล็กที่น่าซื้อน่าใช้ คงต้องขอให้พิจารณา realme C11 และ Vivo Y11 เป็นอันดับต้นๆ ด้วยความคุ้มค่าในสเปคที่จัดมาให้ แต่ใครจะดีจะเด่นด้านไหน ต้องตามไปดูกัน

เริ่มจากในเรื่องของดีไซน์ ซึ่งเป็นความประทับใจแรกที่ต้องเจอก่อน ทั้ง 2 รุ่นต่างทำออกมาได้สวยงาม ดูโดดเด่นคนละแบบ ในส่วนของ Vivo Y11 ได้แรงบันดาลใจจากสีของอัญมณีที่สวยสง่า ตัวเครื่องจึงมีการไล่เฉดสีอย่างมีมิติ เงางามชวนหลงไหล ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา จึงสามารถใช้งานมือเดียวได้อย่างถนัดมือ

ในขณะที่ realme C11 จะฉีกแนวการดีไซน์ไปให้ดูวัยรุ่นขึ้น จากดีไซน์การออกแบบรูปทรงเรขาคณิต แกะสลักเรเดียม โดยที่มีความแม่นยำแบบห้าแกนจากประเทศเยอรมนี พร้อมการขัดอีก 300 นาที จึงเกิดเป็นเส้นโค้งที่สวยงาม สะท้อนเล่นแสงอย่างมีมิติ ป้องกันการขีดข่วนและรอยนิ้วมือ ขนาดตัวเครื่องจะเห็นชัดมีความเรียวยาวกว่า realme C11 ใช้งานมือเดียวได้ถนัดมือเช่นเดียวกัน

สำหรับหน้าจอของทั้ง 2 รุ่น มีรอยบากแบบหยดน้ำทั้งคู่ ส่วนความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของขนาด โดย realme C11 มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+ ทางด้าน Vivo Y11 จะใช้หน้าจอ LCD ความกว้าง 6.35 นิ้ว ความละเอียด HD+ เช่นเดียวกัน การใช้พาเนลจอ IPS LCD ของ realme C11 จะทำให้หน้าจอมีความสว่างมากขึ้น จึงแสดงผลได้ชัดเจนกว่า แต่อย่างไรก็ตามทั้ง 2 รุ่นนั้น ก็สามารถปรับโทนแสงของหน้าจอได้ตามต้องการ รวมถึงมีโหมดถนอมสายตาและโหมดมืดมาให้เลือกใช้อีกด้วย

ถึงจะเล็ก.. แต่สเปคแรงใช้ได้

หลายๆ คนอาจคิดว่าสมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก มักจัดสเปคมาเบาๆ ให้สมกับราคา แต่ขอบอกตรงนี้เลยว่าไม่ใช่กับทั้ง 2 รุ่นนี้แน่ ด้วยการเลือกใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G35 Octa-Core ที่นำมาใช้ใน realme C11 เป็นรุ่นแรก มาพร้อม LPDDR4X RAM ความจุ 2GB, ROM 32GB แม้จะดูเหมือนว่าให้ RAM มาน้อยไปหน่อย แต่เมื่อเทียบกับ LPDDR3 ประสิทธิภาพกราฟิกจะดีขึ้น 20% และประสิทธิภาพ RAM เพิ่มขึ้น 100% อีกทั้งยังเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 256GB ด้วย รันบนหน่วยปฏิบัติการ Android 10 ครบทับด้วย realme UI 1 จึงมั่นใจได้ว่าการใช้งานทั่วไปไม่มีติดขัด และเล่นเกมกันได้แบบเพลินๆ การันตีด้วยคะแนน Antutu Benchmark ที่ 106191 คะแนน ถือว่าสูงสำหรับสมาร์ทโฟนที่อยู่เรทราคาเดียวกัน

ขอเพิ่มเติมในส่วนของ realme UI นอกจากการทำงานหลักๆ แล้ว ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ

• Dual Mode Music Share ซึ่งสามารถเชื่อมต่อหูฟ้งไร้สายได้พร้อมกัน 2 เครื่อง สะดวกสบายในการใช้งาน ไม่ต้องเชื่อมต่อใหม่ให้เสียเวลา
• Focus Mode เมื่อเปิดใช้โหมดนี้ จะเป็นผู้ช่วย ให้คุณผ่อนคลายจากโลกภายนอก โดยระบบจะเปิดเพลงฟังสบายๆ พร้อมเปิดโหมด DND (Do Not Disturb) เพื่อปิดการแจ้งเตือนที่รบกวนต่างๆ ให้คุณพักผ่อนได้เต็มที่ ไร้สิ่งกวนใจ
• 3-Finger Selected Screenshot แคปเจอร์หน้าจอง่ายๆ เพียงใช้นิ้ว 3 นิ้วแตะค้างไว้ที่หน้าจอ เพื่อเลือกพื้นที่แคปหน้าจอได้ตามต้องการ
• Personal Information Protection เป็นระบบป้องกันข้อมูลส่วนตัว

และใน Vivo Y11 ก็ไม่แพ้กันกับชิปประมวลผล Snapdragon 439 Octa-core ขนาด 12nm ความเร็ว 1.95GHz ใช้ RAM 3GB และ ROM 32GB เพิ่มหน่วยความจำ MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 256GB ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 9.1 ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหล ไม่หน่วงไม่อืด ทั้งเล่นเกม และการใช้งานทั่วไป และเมื่อทดสอบประสิทธิภาพความเร็วด้วย AnTuTu Benchmark ผลการทดสอบได้ที่ 95,854 คะแนน

เทียบสเปคพื้นฐาน

กล้องชัด ฟังก์ชั่นแน่น รัวมัดหนักๆ ซัดกันเน้นๆ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กล้องสมาร์ทโฟน เป็นปัจจัยต้นๆ ที่เราจะเลือกซื้อสมาร์ทโฟนซักเครื่อง แม้แต่ในรุ่นเล็กๆ ความคมชัด และความครบครันของฟีเจอร์ต่างๆ ก็ต้องให้มาอย่างจัดเต็มเช่นกัน ซึ่งทั้งใน realme C11 และ Vivo Y11 ก็ต่างมีหมัดเด็ดของทั้งคู่ ที่จะมาลองแลกหมัดกันดูว่าฮุกซ้ายฮุกขวา ใครจะออกหมัดหนักกว่ากัน

เริ่มกันที่กล้องของฝั่ง realme C11 ที่โดดเด่นด้วยกล้องหลังคู่ AI เลนส์หลัก ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F/2.2 และเลนส์ถ่ายภาพบุคคล ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รองรับ PDAF ทำให้การโฟกัสภาพมีความรวดเร็วและแม่นยำ ซูมได้ถึง 4 เท่า จึงเก็บภาพระยะไกลได้อย่างคมชัดยิ่งขึ้น มีโบเก้เอฟเฟค ที่ช่วยเบลอฉากหลังอย่างเป็นธรรมชาติ เพิ่มความโดดเด่นให้กับจุดโฟกัส และสำหรับคนที่ต้องการถ่ายภาพในเวลากลางคืน ก็มี Super Nightscape ให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้อย่างสวยงาม เพิ่มความสว่างอย่างคมชัดให้กับภาพของคุณ

ต่อกันที่กล้องหลังของ Vivo Y11 เป็นกล้องคู่ ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ AI กล้องหลัก ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และอีกกล้อง ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้คมชัดสวยงาม มีโหมดต่างๆ ให้เลือกใช้ได้ตามความต้องการ ทั้งโหมดมืออาชีพ, พาโนรามา, AI ใบหน้าสวย ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ใส่ลายน้ำ หรือเพิ่มเอ็ฟเฟ็ค สร้างสรรค์ให้ภาพสวยงามสมบูรณ์ ถ่ายภาพได้อย่างง่ายดายผ่านการสั่งงานด้วยเสียงแทนการกดชัตเตอร์

ยืนหยัดจนยกสุดท้าย กับแบตอึด 5,000 mAh

เดินทางมาจนถึงยกสุดท้ายของศึกชิงแชมป์รุ่นเล็กกันแล้ว ทั้งคู่ต่างพกความอึดนี้มาสู้ในยกสุดท้ายเหมือนกัน นั่นคือ แบตเตอรี่สุดอึด ซึ่ง Vivo Y11 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh และด้วยเทคโนโลยีประหยัดพลังงานอัจฉริยะในแบบฉบับของ Vivo ทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน จบปัญหาแบตเตอรี่หมดในระหว่างวัน ให้คุณใช้งานสมาร์ทโฟนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทางฝั่ง realme C11 ก็มาพร้อมแบตเตอรี่ ความจุ 5,000 mAh เช่นเดียวกัน แถมยังเคลมชัดว่า realme C11 สามารถสแตนด์บายได้นานถึง 40 วัน จากการทดสอบใน realme Lab ทั้งยังถ่ายโอนแบตเตอรี่ที่มีอยู่ผ่านสายชาร์จได้อีกด้วย

ก่อนระฆังจะดัง และตัดสินว่าใครเป็นแชมป์รุ่นเล็ก เรามาย้อนดูเกมทั้งหมดก็เห็นได้ว่าทั้งคู่มีความสูสีกันมาก ทั้งในเรื่องของดีไซน์ที่มีสไตล์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สเปคชนกันหมัดต่อหมัด ต่างมีหนักมีเบาแลกกันไป ความอึดที่ไม่มีใครยอมใคร ก็เหลือเพียงในส่วนของราคา ซึ่งตอนนี้ทราบแล้วว่า Vivo Y11 เปิดตัวมาในราคา 3,999 บาท ส่วนทาง realme C11 ยังกั๊กหมัดสุดท้าย คือราคาที่ถูกกว่าเอาไว้รึเปล่า อันนี้ต้องรอลุ้นกันหลังระฆังยกสุดท้ายดังขึ้นนั่นเอง

**บทความเพื่อการโฆษณา**