ไขข้อสงสัยแล็ปท็อปและแท็บเล็ตของ Huawei ยังใช้งาน Google ได้หรือไม่

หากใครที่ติดตามวงการสินค้าไอทีและนวัตกรรมล้ำสมัยต่างๆ ก็คงสังเกตเห็นได้ชัดว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ค่ายหัวเว่ยมีความพร้อมที่จะลุยแข่งตลาดคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปและสมาร์ทดีไวซ์อย่างเต็มที่ ด้วยการส่งผลิตภัณฑ์ที่ นอกเหนือจากสมาร์ทโฟนออกสู่ท้องตลาดเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Huawei MateBook 14 และ Huawei MatePad T 10 Series เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาอีโคซิสเต็ม ตอบโจทย์กลยุทธ์ 1+8+n

จากรายงานสถิติและพฤติกรรมผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกของ WeAreSocial และ Hootsuite ซึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อต้นปี 2020 ระบุว่าคนไทยที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตคิดเป็นสัดส่วน 75% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ในขณะที่สถิติทั่วโลกของเบราเซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดยังคงเป็น Google Chrome โดยสัดส่วนการใช้งานนั้นเรียกได้ว่าชนะเจ้าอื่นๆ ขาดลอยอยู่ที่ 63.6% ขณะที่อันดับสองคือ Safari นั้นตามมาอยู่ที่ 17.7% แสดงให้เห็นว่า Google นั้นเป็นแอปฯ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งทั่วโลก อย่างไรก็ตามด้วยความมุ่งมั่นของหัวเว่ยในการพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ภายใต้คอนเซปต์ “ชีวิตเอไอไร้รอยต่อ” ด้วยการมอบอีโคซิสเต็มที่ครบถ้วนให้ผู้บริโภคได้ใช้งาน ทั้งทางด้านซอฟท์แวร์ คือ Huawei Mobile Service (HMS) และฮาร์ดแวร์ที่นำเสนอสมาร์ทดีไวซ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานทุกสถานการณ์ ทั้งหมดนี้ จะทำให้มั่นใจได้ว่าการใช้งานดีไวซ์ของหัวเว่ย จะยังคงใช้งานแอปฯ หรือโปรแกรมต่างๆ ของ Google และบริษัทสัญชาติอเมริกันอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่ ดังต่อไปนี้

แล็ปท็อปหัวเว่ยกับการใช้งาน Google Apps

หากใครใช้งานคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปของหัวเว่ยอยู่แล้วก็คงทราบดีว่าแล็ปท็อปของหัวเว่ยยังคงใช้งานทุกเบราเซอร์รวมถึง Google Chrome ได้ตามปกติ รวมทั้งสามารถเข้าใช้เว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง Google, Facebook, YouTube ผ่านเบราเซอร์ได้เหมือนแล็ปท็อปอื่นๆ ทั่วไป ซึ่งหมายรวมถึงบริการอื่นๆ ของ Google ที่อยู่ใน Google Chrome อย่างเช่น Gmail, Google Drive และ Google maps ด้วยเช่นกัน

Microsoft Office ประชุม พิมพ์งาน ทำพรีเซนเทชัน ได้ตามปกติ

โปรแกรมที่จะเป็นกับทั้งวัยเรียนและวัยทำงาน คือ Microsoft Office โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงโควิด-19 ระบาดที่ยอดการใช้งาน Office 365 ทะลุ 217 ล้านครั้งภายใน 1 สัปดาห์ แล็ปท็อปของหัวเว่ยทุกรุ่นก็จะได้รับ Microsoft Office รุ่น Trial ติดตั้งมาให้ครบไม่ว่าจะเป็น Microsoft Word, Microsoft Excel, Microsoft PowerPoint, OneDrive และ OneNote ซึ่งสามารถทดลองใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายนาน 30 วัน และหากต้องการใช้งานต่อก็สามารถสมัครใช้งานได้ตามปกติผ่านเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วไป รวมถึงโปรแกรมเครือ Adobe ที่เป็นสัญชาติอเมริกันด้วยก็ไม่มีปัญหาในการใช้งาน สามารถใช้ตัดต่อรูปภาพและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะผ่าน Adobe Photoshop และ Adobe Illustrator ได้อย่างอิสระ

เรียนออนไลน์ ประชุมออนไลน์ และดูหนังฟังเพลง ผ่านแท็บเล็ตของหัวเว่ย

แท็บเล็ตน้องใหม่อย่าง Huawei MatePad T 10 Series รวมถึงแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ของหัวเว่ยที่ออกมาก่อนหน้านี้ ล้วนยังสามารถใช้งาน Google Apps ต่างๆ ได้ผ่านเบราเซอร์โดยไม่ติดขัด ไม่ว่าจะเรียนออนไลน์ผ่าน Google Classroom หรือประชุมงานผ่าน Google Hangout และดูหนังฟังเพลงผ่าน YouTube ซึ่งหากต้องการให้เข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆ เหล่านี้สะดวกรวดเร็วขึ้น ก็สามารถปักหมุดแต่ละเว็บไซต์ไว้ที่หน้าหลักของแท็บเล็ตได้เลย

จัดเต็มกับแอปฯ ไม่ว่าจะสายเกม หรือสายเรียนรู้

ปัจจุบันนี้ Huawei AppGallery ซึ่งทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับดาวน์โหลดแอปฯ ต่างๆ บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของหัวเว่ย มีแอปฯ ท็อปฮิตของคนไทยพร้อมใช้งานอย่างครบครัน ซึ่งไม่ต้องกังวลเลยว่า ถ้าอยากจะใช้แอปฯ เพื่อเสริมทักษะทางดานการเรียนรู้ให้ลูกหลานนั้นจะใช้ได้หรือไม่ หรือจะรวมไปถึงเกมส์ต่างๆ ทั้งหมดนี้ สามารถดาวน์โหลดได้จาก Huawei AppGallery บนแท็บเล็ตหัวเว่ยโดยดาวน์โหลดได้ผ่านวิดเจ็ต Petal Search นวัตกรรมที่หัวเว่ยคิดค้นขึ้นสำหรับใช้ค้นหาและดาวน์โหลดแอปฯ นับล้าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้อย่างรอบด้าน ซึ่งแอปที่เสริมสร้างการเรียนรู้ให้กับนักเรียนนักศึกษา นอกจาก Google Classroom ยังมี TED, Duolingo, Khan Academy ให้เรียนรู้ด้วยตัวเองได้ คนที่ติดตามข่าวสาร สามารถดาวน์โหลด BBC News, Flipboard, The Guardian มาอ่านกันได้แบบเต็มจอเหมือนมีหนังสือพิมพ์พกง่ายอยู่ในมือ ส่วนสายเกมก็มีเกมสุดฮิตต่างๆ ใน Petal Search เหมือนกันอย่าง PUBG, Candy Crush, Call of Duty, Temple Run 2 เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าทั้งแล็ปท็อปและแท็บเล็ตของหัวเว่ยยังคงใช้งาน Google และโปรแกรมอื่นๆ ได้ตามปกติ และหากใครต้องการติดตามข้อมูลสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ www.facebook.com/HuaweiMobileTH