รีวิว realme AIoT ผลิตภัณฑ์สมาร์ทไลฟ์ 4 สไตล์ WATCH S , BUDS AIR PRO , SMART SCALE และ SMART CAM 360

realme ประเทศไทยรุกตลาดนักจริงๆ ในทุกๆ แพลตฟอร์มธุรกิจ ซึ่งล่าสุดได้แตกแขนงธุรกิจสมาร์ททีวีอีกด้วย : realme บุกทัพสมาร์ททีวีในไทยแล้ว ระบบ Android เสียง Dolby รองรับ Chromecast โดยมีอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่น่าสนใจ คือ เหล่าอุปกรณ์ AIoT ที่ตอนนี้มี 4 สไตล์ คือ WATCH S , BUDS AIR PRO , SMART SCALE และ SMART CAM 360 ในบทความนี้จะพามาทำความรู้จักให้มากขึ้นว่าแต่ละ Gadget มีอะไรโดดเด่นบ้าง

เริ่มจาก realme watch s มีความโดดเด่นอย่างไร

realme Watch S มาพร้อมหน้าจอแสดงผล LCD แบบทัชสกรีน ขนาด 1.3 นิ้วที่มีเซ็นเซอร์ปรับความสว่างหน้าจอให้โดยอัตโนมัติ หรือเลือกปรับเองได้ นอกจากนี้หน้าจอเป็นกระจก Gorilla Glass ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี ทั้งมีคุณสมบัติกันน้ำได้ที่ความลึก 1.5 เมตร ตามมาตรฐาน IP68 บอดี้อะลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงทนทาน ส่วนการออกกำลังก็ทำได้แม่นยำด้วยเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจตลอด 24 ชั่วโมงเรียลไทม์ และสามารถตรวจจับระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2) ได้ ส่วนภายในตัวเครื่องจะมาพร้อมโหมดกีฬามากถึง 16 โหมด อาทิ วิ่งกลางแจ้ง, ปิงปอง, ฟุตบอล, บาสเกตบอล, เดิน, โยคะ, แบตมินตัน, แอโรบิค เป็นต้น ทั้งหน้าปัดเปลี่ยนแบบได้ไม่จำเจเลย เพราะมีให้คุณเลือกใช้งานมากกว่า 100 แบบ ราคาวางจำหน่ายเพียง 2,999 บาท

สรุปฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ realme watch S

1. การแจ้งเตือนอัจฉริยะ : การแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นต้องดูที่สมาร์ทโฟนอีกต่อไป แค่ยกข้อมือขึ้นก็เห็นการแจ้งเตือนต่างๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ข้อความ, อีเมล, Instagram, YouTube หรือ Twitter เป็นต้น

2. การควบคุมโดยง่าย : จะเปลี่ยนเพลงก่อนหน้า หรือถัดไป รวมถึงเพิ่มเสียง ลดเสียง หรือหยุดเล่น / เล่น ก็ทำได้ที่หน้าปัดนาฬิกาเลย เช่นเดียวกับการถ่ายภาพ

3. ดื่มน้ำบ้างนะ เป็นห่วง : หากคุณนั่งนานเกินไป หรือไม่ได้ดื่มน้ำเป็นระยะเวลานาน เจ้า realme watch s ก็จะแจ้งเตือนให้ทราบ

4. ใช้งานนานมากถึง 15 วัน : อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการชาร์จแบตเตอรี่บ่อยครั้ง เจ้ารุ่นนี้ก็เน้นนาน

สเปกเบื้องต้นของ realme Watch S

• ขนาดตัวเครื่อง: 259.5 x 47 x 12.0 มม
• น้ำหนัก: 48กรัม (รวมสายนาฬิกาข้อมือ)
• หน้าจอ LCD ขนาด 1.3 นิ้ว (360 x 360 พิกเซล) ความหนาแน่นต่อพิกเซล 278 PPI ครอบทับกระจก Gorilla Glass
• รองรับ Bluetooth 5.0 สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android 5.0 ขึ้นไป
• กันน้ำมาตรฐาน IP68
• โหมดกีฬา 16 โหมด (วิ่งแบบ Outdoor, เดิน, เดินแบบ Indoor, ปั่นจักรยานแบบ Outdoor, แอโรบิค, การฝึกพละกำลัง, ฟุตบอล, บาสเกตบอล, ปิงปอง, แบตมินตัน, ปั่นจักรยานแบบ Indoor, เครื่องเดินวงรี, โยคะ, เครื่องพายเรือบก, เครื่องปั่นจักรยาน)
• มิเตอร์ความเร่ง 3 แกน, เซนเซอร์ตรวจจับความสว่าง, เซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่
• เซนเซอร์ตรวจจับอัตราการเต้นหัวใจ, เซนเซอร์ตรวจจับออกซิเจนในเลือด
• ตรวจจับการนอน, จำนวนก้าวระหว่างวัน, แคลอรี่, ระยะทางการเดิน, แจ้งเตือนการดื่มน้ำ, แจ้งเตือนการอยู่นิ่งนานเกินไป, มีการบันทึก Activity ต่าง ๆ
• แบตเตอรี่ความจุ 390mAh ที่รองรับการใช้งานติดต่อกัน 15 วัน

ภาพรวมของนาฬิกา realme watch s

หน้าจอมีจากสเปกเหมือนจะเล็ก แต่ด้วยความกลมที่นูนโดดขึ้นมาอาจทำให้รู้สึกมีขนาดใหญ่ จะเหมาะกับผู้ชายมากกว่า การใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก คุณสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น realme link แล้วลงทะเบียน จากนั้นก็จับคู่กับนาฬิกาได้ทันที

การใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก เวลาอยากดูข้อมูลใดๆ แค่ยกข้อมือขึ้นมาเท่านั้น การควบคุมที่หน้าปัดก็ ซ้าย-ขวา / ขึ้น-ลง ปุ่มกดด้านขวาของเรือนนาฬิกา ปุ่มแรก คือ เข้าเมนูรวม ส่วนปุ่มที่สองเข้าหน้าเมนูออกกำลังกาย

ตัวเรือนนาฬิกามีสายยางซิลิโคน มีการเจาะรูเหนี่ยวสำหรับใส่ที่รัดหลายช่อง จึงเหมาะกับแขนหลายขนาด ต้องบอกว่าจากที่สวมใส่มีขนาดเบามาก

ข้อต่อมาตรฐาน การเปลี่ยนสายนาฬิกาก็ทำได้ง่าย เพราะไม่ได้มีตัวล็อกใดๆ เป็นพิเศษ สามารถใช้ร่วมกับสายอื่นๆ ได้เลย เปลี่ยนสะดวกง่ายด้วยตัวเอง

ต่อกันด้วยอุปกรณ์เพิ่มความฟิตให้กับคุณ realme Smart Scale

การวัดผลเมื่อออกกำลังกายถือเป็นเรื่องสำคัญ ความน่าสนใจคือ เมื่อคุณใช้งานควบคู่กับนาฬิกา realme watch s ก็จะมีการแชร์ข้อมูลร่วมกันในแอปพลิเคชั่น ทำให้การวัดผลมีความต่อเนื่อง เที่ยงตรงแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยเครื่องชั่งน้ำหนักสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น realme Link ได้ มาพร้อมโหมดการตรวจวัดข้อมูลสุขภาพ 16 รายการ อาทิ น้ำหนัก, น้ำในร่างกาย, มวลกระดูล, โปรตีน, มวลไขมัน, อัตราการเผาผลาญพลังงาน, มวลร่างกายแบบไร้ไขมัน, อายุร่างกาย, รูปร่าง เป็นต้น แน่นอนว่าเมื่อทำงานร่วมกันก็จะมีข้อแนะนำต่างๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณ อย่างไรก็ตามการวัดผลไม่มีวุ่นวาย เพราะสร้างโปรไฟล์เฉพาะคนได้ด้วย วางจำหน่ายราคา 999 บาท

สรุปฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ realme Smart Scale

1. เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ : ความแปลกใหม่คือเครื่องชั่งน้ำหนักที่มีคุณสมบัติวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ ซึ่งเป็นการแสดงผลข้อมูลแบบเรียลไทม์อีกด้วย

2. เซนเซอร์ BIA : ตรวจวัดข้อมูลทางชีวภาพปัจจุบันของร่างกายได้อย่างแม่นยำที่จะทำงานร่วมกับอัลกอริทึมที่ได้รับการพัฒนา ก็สามารถวิเคราะห์องค์ประกอบได้เที่ยงตรง

3. ประหยัดค่าใช้จ่าย : ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ให้วุ่นวาย ไม่ต้องกังวลแบตเตอรี่เสื่อม เพราะใช้แค่ถ่าย AAA จำนวน 4 ก้อนเท่านั้น ก็สแตนบายได้นานมากถึง 1 ปี

4. ดีไซน์โดดเด่น ทันสมัย : รูปทรงโค้งมน มีความพรีเมียม หรูหรากว่าเครื่องชั่งน้ำหนักทั่วไป ทั้งมีหน้าจอแสดงผลตัวแบบไฟ LED ที่ครอบด้วยกระจกนิรภัยความหนา 6 มิลลิเมตร รองรับน้ำหนักมากถึง 350 กิโลกรัม

สเปกเบื้องต้นของเครื่องชั่งน้ำหนัก realme Smart Scale

• ขนาดตัวเครื่อง : 300 x 300 x 23.25 มม.
• น้ำหนัก : 1.69 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่)
• หน้าจอ LED แสดงผลน้ำหนัก รองรับน้ำหนักสูงสุด 350 กิโลกรัม
• โหมดชั่งน้ำหนักสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก, ผักผลไม้ ได้สูงสุด 10 กิโลกรัม (ที่ความแม่นยำ 10 กรัม)
• รองรับการตรวจจับไขมันในร่างกาย (body fat)
• ตรวจจับการอัตราเต้นหัวใจ ฟีเจอร์ตรวจวัดข้อมูลสุขภาพ 16 แบบ
• การเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0
• รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Android 5.0 ขึ้นไป
• แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 360 วัน (ใช้วันละ 2-3 ครั้ง)
• แบตเตอรี่ : ถ่านขนาด AAA 4 ก้อน

ชอบฟังเพลง ชอบความบันเทิง ต้อง realme Buds Air Pro

หูฟัง realme Buds Air Pro มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC ด้วยไมโคณโฟนคู่ กำจัดเสียงได้สูงสุดถึง 35 เดซิเบล ช่วยกำจัดเสียงรอบนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหูฟังแต่ละข้างมาพร้อมไดร์ฟเวอร์ขนาด 10 มม. พร้อมกับ Dynamic Bass Boost (DBB) ขั้นสูงผสมผสานอัลกอริธึมเพิ่มประสิทธิภาพเสียงเบส เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนรวดเร็วด้วยบลูทูธเวอร์ชั่น 5.0 นอกจากนี้มีโหมด Transparency ที่จะช่วยให้คุณสนทนากับผู้อื่นได้ง่ายดาย ไม่ต้องถอดหูฟังแต่อย่างใด ด้านการใช้งานก็เคลมว่าเล่นเพลงต่อเนื่องนาน 20 ชั่วโมง (เมื่อเปิดโหมดตัดเสียงรบกวน) มีเทคโนโลยีชาร์จไว ใส่เคสแค่ 10 นาที ก็เล่นเพลงต่อเนื่องนานอีก 3 ชั่วโมง หากเป็นเรื่องเกมก็ไม่ขัดหูนะ เพราะมีค่าความหน่วงต่ำเพียง 94 มิลลิวินาที ถือว่าต่ำมากในหูฟังราคาย่อมเยา 

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• เคสพร้อมหูฟัง realme Buds Air Pro พร้อมจุกยางขนาด L
• จุกยาง 6 ชิ้น (3 ขนาด ได้แก่ S, M และ XL)
• คู่มือการใช้งาน
• สายสำหรับชาร์จตัวเคสพอร์ต USB Type-C

ภาพรวมของหูฟังไร้สาย realme Buds Air Pro

การเชื่อมต่อ realme Buds Air Pro รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วยแอป realme Link ผ่าน Bluetooth 5.0 ใช้งานได้ในระยะไกล 10 เมตร การเชื่อมต่อก็สะดวก เพียงเปิดเคสจะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่ใช้ล่าสุดทันทีเพราะรองรับ Google Fast Pair

ดีไซน์ของเคสชาร์จมีความรีและมีความโค้งที่ทุกสัดส่วน คล้ายกับหยดน้ำ โดยฝาเคสก็เปิดได้ง่าย ยกขึ้น ก็จะเจอหูฟังแล้ว

ส่วนด้านหน้าเคสมีไฟ LED เพื่อบอกสถานะต่างๆ ด้านล่างมีพอร์ต USB Type-C เพื่อชาร์จเคส และทางขวาเป็นปุ่ม Paring เพื่อเชื่อมต่อในครั้งแรก

หูฟังแต่ละข้างมีน้ำหนักเพียง 5 กรัมเท่านั้น ซึ่งถือว่าเบามาก สวมใส่ต่อเนื่องได้สบายไม่เจ็บใบหู นอกจากนี้รองรับมาตรฐานกันน้ำ IPX4 ที่ป้องกันละอองน้ำหรือเหงื่อได้แบบสบายๆ ดังนั้นจะใส่ออกกำลังกาย หรือล้างหน้าก็ไม่ต้องกังวล

การควบคุมเบื้องต้นมีอะไรบ้าง...หากต้องการปรับเปลี่ยนการควบคุมก็สามารถตั้งค่าผ่านแอป realme Link ได้เลย

• กด 1 ครั้ง : วางสาย-ปฏิเสธการรับสาย
• กด 2 ครั้งติดกัน : เล่น-หยุดเพลง
• กด 3 ครั้งติดกัน : ข้ามไปเพลงต่อไป
• แตะค้างที่ Buds ทั้ง 2 ข้างเป็นเวลา 2 วินาที : เข้า / ออก Gaming Mode (เมื่อเข้า Gaming Mode จะเป็นเสียงเร่งเครื่อง)

อย่างที่เกริ่นข้างต้น หูฟังมีเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ โดยสามารถตรวจจับการสวมใส่หูฟังของแบบเรียลไทม์ ดังนั้น realme Buds Air Pro เล่นเพลงเมื่อสวมใส่อยู่ และหยุดอัตโนมัติเมื่อมีการถอดหูฟังออก

ปิดท้ายด้วยกล้องวงจรปิด realme Smart Cam 360°

อีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการควงามปลอดภัย หรือความอุ่นใจเป็นพิเศษ ซึ่งใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีมุมมองกว้าง ครอบคลุม 360 องศา ในความละเอียด FullHD (1080p) ทั้งจับตาแม่นยำด้วยซอฟต์แวร์ AI ช่วยตรวจจับความเคลื่อนไหว และอินฟราเรดระดับ 940 นาโนเมตรที่ช่วยจับตาได้คมชัดในเวลากลางคืนกับระยะไกลสุด 10 เมตร พร้อมแสดงสีให้สมจริงมากที่ในฟังก์ชั่น Full Color Low Light ต้องบอกว่าเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจเลย ราคา 1,499 บาท

สรุปฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ realme Smart Cam 360°

1. มุมมอง 360 องศา : โดยตัวเครื่องมีมอเตอร์สองตัวเพื่อให้หมุนได้เป็นอิสระมากขึ้น สามารถหมุนได้ขึ้น ลง ซ้าย หรือขวา ทั้งมีเสียงเบาจึงไม่รบกวนขณะใช้งาน

2. ใส่ MicroSD Card สูงสุด 128GB : บันทึกวิดีโอในระดับความละเอียด FullHD ได้นานมากถึง 14 วัน เป็นเพราะการบีบอัดวิดีโอไฟล์ประเภท H.265 ส่งผลให้การเล่นไฟล์วิดีโอมีความลื่นไหล ภาพสว่างคมชัด และมีขนาดไฟล์ที่เล็กลงโดยรวมทั้งหมด 50%

3. การแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชั่น : ไฮไลท์ของกล้องวงจรปิดคือต้องตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชั่นได้ โดยกล้องรุ่นนี้มีความโดดเด่นที่ตรวจจับความผิดปกติได้เรียลไทม์สามแบบ อาทิ ตรวจจับเสียง, ตรวจจับการเคลื่อนไหว และตรวจจับร่างกายมนุษย์

4. สนทนาโต้ตอบได้สองทาง : ทันทุกเหตุการณ์ด้วยฟังก์ชั่นการสนทนาโต้ตอบได้สองทางแบบเรียลไทม์ ง่ายสะดวกต่อการติดต่อสื่อสาร

5. การรับสัญญาณที่ดีกว่า : การเชื่อมต่อผ่านระบบ WiFi จะคงที่ เสถียรกว่าเดิมมากขึ้นด้วยชิปเซ็ตรับเฉพาะ พร้อมตัวขยายสัญญาณภายในตัวเครื่อง