[เล่าสู่กันฟัง] ความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดของ Realme กับความท้าทายปี 2021

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในวงการสมาร์ทโฟนมีเรื่องราวให้แปลกใจมากมาย เช่นเดียวกับแบรนด์ realme น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ที่โดดเด่นแวววาวอย่างมาก เพราะตั้งแต่มีการเปิดตัวแบรนด์นี้ ก็มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ความแข็งแรงของแบรนด์, ยอดขาย, เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงประเด็นสำคัญคือความไว้ใจต่อผู้บริโภคที่มีความเชื่อถือ ซึ่งช่วงปีที่ผ่านมาแม้ว่าจะเกิดสถานการณ์โรคระบาด แต่ไม่สามารถทำอะไรเรียลมีได้ ปีที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการก้าวกระโดดของพวกเขา สามารถพลิกโฉมอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนขึ้นสู่แบรนด์ตำแหน่งหลักและสร้างสถิติการเติบโตที่น่าทึ่งหลายครั้งตลอดทั้งปี 2020 (realme ครองใจผู้ใช้งาน กวาดรางวัลกว่า 200 รางวัล ในปี 2020)

เจาะลึกความสำเร็จของแบรนด์ realme ในปี 2020 มีอะไรที่ WOW บ้าง ?

1. แบรนด์ realme ทะยานขึ้นสู่อันดับ  7 ของแบรนด์อุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนทั่วโลก เป็นระยะเวลา 3 ไตรมาสติดต่อกัน โดยติดอันดับหนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฟนหลักที่นิยมครองใจคนรุ่นใหม่ พร้อมเขย่าวงการและท้าทายแบรนด์สมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่

2. realme เติบโตต่อเนื่องติดต่อกัน แม้อยู่ในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ไตรมาสแรกเป็นแบรนด์เดียวในโลกที่มีอัตราการเติบโตเลข 2 หลัก และเป็นแบรนด์เดียวในโลกอีกเช่นกันที่เติบโตในไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "แบรนด์สมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก" ติดต่อกัน 4 ไตรมาส นอกจากนี้ไตรมาสที่ 3 ของปี 2020 ทำยอดขายได้สูงถึง 50 ล้านเครื่อง กลายเป็น “ แบรนด์สมาร์ทโฟนที่มียอดขายถึง 50 ล้านเครื่องเร็วที่สุดในโลก” โดยใช้เวลาเพียง 9 ไตรมาสเท่านั้น

3. กลยุทธ์ AIoT (1+4+N) ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วตั้งแต่เริ่มต้น และเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่หันเข้าสู่วงการนี้อย่างรวดเร็ว เพราะเทรนด์อนาคตเป็นเรื่องของ Internet of Things ล้วนๆ และ การเข้าสู่อุตสาหกรรม AIoT ระยะเวลาเพียง 1 ปี realme สร้าง AIoT ecosystem ที่สมบูรณ์แบบเป็นของตนเอง ครอบคลุมการใช้งาน 3 สถานการณ์ ได้แก่ การใช้งานส่วนตัวบุคคล (individual), การใช้งานภายในครับครัว (family) และการเดินทาง (travel)

• รีวิว realme AIoT ผลิตภัณฑ์สมาร์ทไลฟ์ 4 สไตล์ WATCH S , BUDS AIR PRO , SMART SCALE และ SMART CAM 360

4. เติบโตเข้าสู่ 61 ตลาดอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนทั่วโลก ขยายสู่กลุ่มตลาดใหม่ เพิ่มขึ้นประมาณ 250% ครอบคลุม 5 ทวีปและเข้าสู่ตลาดหลัก เช่น ละตินอเมริกา ยุโรปตะวันออก และตะวันตก พร้อมศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้งานและกลุ่มเป้าหมาย เพื่อดำเนินการปรับกลยุทธ์สำหรับตลาดในท้องถิ่นลดช่องทางการจัดหา การขายและการจัดจำหน่าย มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการในตลาดท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ตั้งเป้าติดอันดับ Top 5 ใน 12 ตลาดทั่วโลก ส่วน ประเทศไทยจะครองอันดับ 4

5. นำเทรนด์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ถ่ายทอดคุณค่าและแนวคิดองค์กร “ Dare to Leap” ไปยังคนรุ่นใหม่ทั่วโลก ผ่านผลิตภัณฑ์ กิจกรรมต่างๆ และสร้างเทรนด์ไลฟ์สไตล์อย่างชาญฉลาดสำหรับผู้ใช้งานคนรุ่นใหม่ทั่วโลก อาทิ กระบวนการผลิตและการดีไซน์ เช่น สีและวัสดุผลิตภัณฑ์ ตลอดจนกำหนดรูปแบบและประสิทธิภาพการใช้งานให้เหมาะไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่, เทรนด์เทคโนโลยีผ่านผู้นำจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ นักร้อง, ช่างภาพ, ดีไซน์เนอร์ และ E-sports รวมถึงยังได้มีการร่วมมือกับนาย Jose Levy ดีไซน์เนอร์จากแบรนด์ดังระโลกอย่าง Hermès และ ศิลปินเทรนด์เกาหลี Grafflex ได้เข้าร่วม realme Design Studio ช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ นำเทรนด์แฟชั่น  เป็นต้น

6. รางวัลการออกแบบระดับนานาชาติ 5 รางวัล ในปี 2020 ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน realme X50 Pro 5G, X50 5G, X2 Pro และหูฟังไร้สาย Buds Q ออกแบบโดย realme Design Studio ได้รับรางวัลจากเวทีชั้นนำระดับนานาชาติ ได้แก่ Red Dot Design Award, Good Design Award, Golden Pin Design Award เป็นต้น

7. สร้างความฮือฮาทั่วโลก โดยแบรนด์ realme มุ่งมั่นที่จะนำเสนอเทคโนโลยี 5G ในผลิตภัณฑ์ทุกช่วงระดับราคา ภายใต้ประสิทธิภาพการทำงานทรงพลังและดีไซน์การออกแบบที่ยอดเยี่ยมสู่มือลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ นั่นคือสมาร์ทโฟน realme 7 5G กับราคาเปิดตัวสุด WOW ในราคาไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาท : รีวิว realme 7 5G จอลื่น 120Hz ชาร์จเร็ว 30W สมาร์ทโฟน Dual 5G ในราคาที่เอื้อมถึง

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 7 ข้อสุดโหดของแบรนด์ realme ที่ทะยานสู่เป้าหมายได้อย่าง Glory เพราะมีความร้อนแรงอย่างมาก นี่ไม่ใช่แบรนด์ทั่วไป แต่เป็นสากลแล้ว เป็นที่รู้จักและได้รับความน่าเชื่อถือจากทั่วโลก ดังนั้นพวกเขาสามารถดำเนินการภายใต้คอนเซ็ปต์ "Dare to Leap" ได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่พวกเขายังไม่หยุดเท่านี้ พร้อมตั้งเป้าปี 2021 ไว้ด้วยความท้าทายที่น่าสนใจ จะมีอะไรบ้างมาติดตามกันเลย

1. ทะยานขึ้นสู่อันดับ Top 3 ของตลาด หรือแม้แต่ Top 1 และกลายเป็นแบรนด์ขับเคลื่อนหลักของตลาดอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน

2. พัฒนาระบบนิเวศ AIoT โดยสร้างแพลตฟอร์ม "realme TechLife" มุ่งเป้าค้นหาพาร์ทเนอร์ที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยทั่วโลก เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ และมอบประสบการณ์เทคโนโลยีใหม่ วิจัยและพัฒนาอย่างอิสระ ร่วมกันปรับแต่ง และการเลือกระบบนิเวศเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ ภายใต้ 3 ความสอดคล้อง (Three Consistencies) ได้แก่ ดีไซน์ มาตราฐานคุณภาพ และโครงข่ายการเชื่อมต่อ กับเป้าหมายที่อยากจะลุยต่ออีกด้วย

• ตั้งเป้าหมายขึ้นสู่ Top 3 ด้านอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ (smart wearable) ของตลาดโลก
• ตั้งเป้าหมายอันดับ 1  ในตลาดหูฟังไร้สาย (True Wireless Earbuds) ของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

3. เดินหน้าภายใต้แนวคิด “dare“ (กล้า) นำเสนอผลิตภัณฑ์และอีเวนต์ที่เป็นเทรนด์ให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วโลกและก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคน Generation Z

4. ตั้งเป้าหมายยอดขายสมาร์ทโฟน 5G ในปี 2564 ที่ 25 ล้านเครื่อง และขยายการนำเสนอผลิตภัณฑ์ 5G ที่ทุกคนจับต้องได้ ภายใน 2-3 ปี มีเป้าหมายที่จะพัฒนาสมาร์ทโฟนทุกกลุ่มราคา ให้รองรับ 5G ทั้งหมด

5. ตั้งเป้าเปิด Flagship Store แห่งแรกของโลก พร้อมวางแผนเปิดร้านค้าแห่งใหม่มากถึง 100 ร้านค้า ในประเทศอินเดีย และทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ทะยานสู่ 1,000 ร้านค้าทั่วโลก พร้อมครอบคลุมทุกช่องทางและเข้าถึงผู้บริโภคในทุกทิศทาง โดยยังจะเพิ่มหมวดผลิตภัณฑ์ AIoT และช่องทางออฟไลน์เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสทดลองสินค้าสัมผัสประสบการณ์การใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ

จบกันแล้วสำหรับบทความที่อยากจะนำมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับแบรนด์ realme ที่ก่อนหน้านี้ใครหลายคนยังไม่รู้จัก แต่ในระยะเวลาอันรวดเร็ว พวกเขากลับกลายเป็นที่รู้จักและยอมรับทั่วโลก ดังนั้นนี่จึงเป็นแบรนด์ที่แข็งแรง ยืนแนวหน้า มีความโดดเด่นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมท้าทายเข้าถึงทุกกลุ่มผู้ใช้งาน แล้วคุณล่ะ Dare to Leap แล้วหรือยัง ?