www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 25 มกราคม 2565
ในอนาคตอันใกล้ อุปกรณ์ IoT จะสามารถเก็บเกี่ยวพลังงานได้โดยตรงจาก Bluetooth, WiFi และสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ทำให้มีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม เช่น มีขนาดที่เล็กลง ความทนทานที่ดีขึ้น และต้นทุนที่ต่ำลงอุปกรณ์แท็กอิเล็กทรอนิกส์สามารถนำมาใช้เพื่อตามหาสิ่งของต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนหรือชาร์จแบตเตอรี่
หรือในขณะเดียวกัน นกอพยพที่ใกล้สูญพันธุ์ทุกตัวจะได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ติดตามทางไกล ทำให้จำนวนการใช้แบตเตอรี่ลดลงอย่างมาก ภาพแห่งอนาคตเหล่านี้เป็นตัวอย่างเบื้องต้นจาก OPPO
OPPO Research Institute ได้เผยแพร่เอกสารรายงานเรื่อง Zero-Power Communication อย่างเป็นทางการ โดยเอกสารนี้จะวิเคราะห์ตำแหน่งทางเทคนิคของเทคโนโลยี Zero-Power Communication ในด้านความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองเกี่ยวกับ IoT และขั้นตอนการดำเนินการสำหรับเทคโนโลยีที่จะพัฒนาร่วมกับระบบการสื่อสารอื่นๆ ในอนาคต
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาส่วนใหญ่ในปัจจุบันใช้แบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงาน แม้ว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่จะก้าวไปไกลในหลายปีที่ผ่านมา แต่เทคโนโลยีแบตเตอรี่ในปัจจุบันยังคงมีปัญหาสำคัญในแง่ของขนาดโดยรวม ต้นทุนการผลิต อายุการใช้งาน ความสะดวกในการใช้งาน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเทคโนโลยี Zero-Power Communication ได้ลดความจำเป็นในการใช้แบตเตอรี่โดยการเก็บเกี่ยวพลังงานจากคลื่นความถี่วิทยุรอบตัวเพื่อสร้างพลังงาน มอบอุปกรณ์ที่มีขนาดกะทัดรัด มีประสิทธิภาพ และต้นทุนต่ำ
โดยคุณสมบัติดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการใช้งานด้านต่างๆ ทั้งในเชิงพาณิชย์ เช่น การคลังสินค้า การขนส่ง รวมถึงการเกษตร และในอุปกรณ์สวมใส่ ระบบภายในบ้านแบบอัจฉริยะ และการใช้งานที่ทันสมัยอื่นๆ“นับจากยุคแรกมาจนถึงยุคที่ 4 ของเทคโนโลยีโทรคมนาคมเคลื่อนที่ อุตสาหกรรมโทรคมนาคมได้ก้าวผ่านเทคโนโลยีมาแล้วถึง 4 ขั้น — จากอนาล็อกสู่ดิจิทัล สู่ดาต้า และสุดท้ายสู่บรอดแบนด์ การก้าวกระโดดแต่ละครั้งเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบอัตราการส่งข้อมูลที่เร็วยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในทศวรรษหน้า เมื่อพิจารณาถึงเทคโนโลยี 5G และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ไกลออกไป เราไม่เชื่อว่าการรับส่งข้อมูลจะเป็นตัวขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ในเทคโนโลยีโทรคมนาคมแต่เราเชื่อว่าเทคโนโลยีควรพัฒนาเพื่อมอบความสะดวกสบายและคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับสังคมโดยรวมมากยิ่งขึ้น โดยเทคโนโลยี Zero-Power Communications ได้มอบวิธีการสำหรับผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการเลิกใช้แบตเตอรี่ในผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะลดต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการได้
ด้วยเหตุนี้ Zero-Power Communications จึงเป็นหนึ่งในประเด็นหลักเมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุค B5G/6G” Henry Tang Henry Tang, OPPO's Chief 5G Scientist กล่าวในขณะที่เทคโนโลยีการสื่อสารแบบ passive communication มีอยู่แล้วในเทคโนโลยี radio frequency identification (RFID) ในปัจจุบัน ซึ่งเทคโนโลยีในปัจจุบันมักจะประสบปัญหา เช่น ระยะการสื่อสารสั้น ประสิทธิภาพต่ำ และความจุของระบบขนาดเล็ก สิ่งนี้เหล่านี้เป็นความท้าทายที่สำคัญเมื่อใช้เทคโนโลยี RFID กับการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงหรือซับซ้อน เช่น เครือข่ายเซ็นเซอร์อุตสาหกรรม การขนส่งและการคลังสินค้าที่ต้นทุนต่ำแต่กำลังการขนส่งสูง และบ้านอัจฉริยะราคาประหยัดและใช้พลังงานต่ำ รวมไปถึงเทคโนโลยีสวมใส่ขนาดเล็ก
อุปกรณ์ Zero-Power แตกต่างจากวิธีการดั้งเดิมตรงที่สามารถรับสัญญาณวิทยุรอบตัว ที่ออกอากาศจากแหล่งต่างๆ เช่น หอกระจายภาพ หอวิทยุ FM สถานีฐานโทรศัพท์ และจุดเชื่อมต่อ WiFi (AP) ที่เป็นแหล่งพลังงาน โดยหลังจากรวบรวมพลังงานจากคลื่นวิทยุแล้ว อุปกรณ์จะสามารถปรับสัญญาณวิทยุแวดล้อมกับข้อมูลของตัวเอง และส่งสัญญาณเหล่านี้ออกไปภายนอกในกระบวนการที่เรียกว่าการสื่อสารแบบกระจายกลับการออกแบบเครือข่าย Zero-Power Communication จำเป็นต้องพิจารณาถึงการอยู่ร่วมกันของระบบ Zero-Power communication และระบบ 4G/5G ที่มีอยู่
นอกเหนือไปจากเรื่องช่วงความถี่แบบ unlicensed bands และแบบ licensed bandsระบบ Zero-Power Communication สามารถสร้างได้ในกรอบงานที่ใช้การสื่อสารแบบเซลลูลาร์ การสื่อสารแบบไซด์ลิงก์ หรือในแบบไฮบริด โดยระบบ Zero-Power Communication แบบเซลลูล่าร์จะสามารถรองรับแอปพลิเคชันเครือข่ายเซ็นเซอร์อุตสาหกรรมได้ดีที่สุด เช่น แอปพลิเคชันที่อาจต้องติดตั้งอุปกรณ์ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก เช่น สถานที่ซึ่งมีจำนวนอุปกรณ์ในเครือข่ายมาก
หรือที่มีต้นทุนค่าปรับใช้และบำรุงรักษาในการใช้อุปกรณ์แบบดั้งเดิมสูงในทางกลับกัน วิธีการแบบไซด์ลิงค์นั้นเหมาะกับการสื่อสารระยะสั้นที่มีต้นทุนต่ำ เช่น อุปกรณ์สวมใส่หรืออุปกรณ์สมาร์ทโฮม ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวยังสามารถใช้ในการประมวลผลข้อมูลที่ได้รับอีกด้วย และวิธีการแบบไฮบริดที่ใช้ทั้งวิธีการสื่อสารแบบเซลลูลาร์และไซด์ลิงก์จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถปลดล็อกแอปพลิเคชันได้มากขึ้นโดยการใช้ระบบ Zero-Power Communications
ก่อนเอกสารรายงาน Zero-Power Communication ทาง OPPO ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับเครือข่าย 6G AI-Cube Intelligent Networking ที่ได้มีการวิจัยอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีการสื่อสารอันล้ำสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกิจของแบรนด์ 'Technology for mankind, kindness for the world' โดย OPPO ตั้งเป้าที่จะปล่อยเทคโนโลยี Zero-Power Communication ในเชิงพาณิชย์ภายใน 3 ถึง 5 ปีข้างหน้าอีกด้วย
วันที่ : 25 มกราคม 2565
ENNXO แนะนำ 5 เครื่องรางเสริมฮวงจุ้ย ด้านโชคลาภ เงินทองและค้าขาย4 ชั่วโมงที่แล้ว
Redmi Note 13 Pro 5G วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ6 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G ในย่านนี้พี่ขอ กับสเปคสุดเตะตา รวดเร็วจอลื่นได้กล้องระดับ 200MP มี OIS7 ชั่วโมงที่แล้ว
Nio ET7 วิ่งได้ 1,044 กม. ด้วยแบตเตอรี่ Semi-Solid State ทดสอบโดย CEO เอง!7 ชั่วโมงที่แล้ว
สรุปจุดเด่นและสเปค Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ชาร์จเร็วโคตร 100 วัตต์ ลำโพงคู่ JBL หน้าจอ 120Hz อุปกรณ์ในกล่องแถมครบ!11 ชั่วโมงที่แล้ว
ทำความรู้จัก OPPO A60 4G หน้าจอ 90Hz ลำโพงสเตอริโอ ชาร์จเร็ว 45 วัตต์ เริ่มต้น 5,999 บาท
OPPO A3 Pro สมาร์ทโฟนกันน้ำขั้นสุดมาตรฐาน IP69 อยู่ในน้ำได้นานถึง 30 นาที
OPPO Find X7 series เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ได้ใช้คลื่นความถี่ 5.5G!!!
รีวิว OPPO Find X7 Ultra เรือธงที่สุดแห่งการถ่ายภาพ จัดเต็ม 4 กล้องเทพพร้อม AI ลบวัตถุสุดล้ำ และช...
CHANGAN กวาดยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าในงาน Motor Show 2024 ทะลุ 3,000 คัน
แตกต่างอย่างไร! ระหว่าง vivo Y100 4G vs vivo Y100 5G ราคาต่างกัน 1,700 บาท
Moto G64 5G สมาร์ทโฟนรุ่นแรกใช้ Dimensity 7025 พร้อมกล้อง 50MP กันสั่น OIS
realme 12 5G และ realme 12X 5G กล้องซูม 3 เท่าไม่สูญเสียรายละเอียด รองรับ 5G เริ่มต้น 5,xxx
Moto G04s น่าใช้ขึ้นด้วยกล้อง 50MP เทคโนโลยี Quad pixel และลำโพง Dolby Atmos