www.siamphone.com
หูฟัง Earbuds (Earbuds) | วันที่ : 14 สิงหาคม 2565
Huawei ไม่เคยหยุดพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่มีคุณภาพในราคาคุ้มค่าให้กับผู้บริโภคเสมอมา ด้วยความเชื่อมั่นว่าทุกคนควรจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ดี ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเสียงในระดับโลกมากว่า 10 ปี
Huawei ได้เริ่มส่งหูฟังไร้สายตัวแรกที่มีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนรอบข้าง (ANC) ลงสู่ท้องตลาดเมื่อปี 2019 จนกระทั่งรุ่นล่าสุด Huawei FreeBuds Pro 2 เปิดตัวพร้อมกับความสามารถตัดเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง 47 เดซิเบล และมอบประสบการณ์เสียงที่ครอบคลุมย่านความถี่ตั้งแต่ 14 Hz จนถึง 48 kHz ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่น่าทึ่ง และยังได้รับการันตีคุณภาพเสียงด้วยการรับรอง HWA และ Hi-Res Wireless Dual HD Audio
แล้วเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมแบบไหนกันที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ของหัวเว่ย วันนี้เราจะพาไปแยกส่วนประกอบหูฟัง Huawei FreeBuds Pro 2 อย่างละเอียดยิบ แต่รับรองว่าไม่ยากเกินความเข้าใจ
1.นวัตกรรมไดรเวอร์ขับเสียงแบบคู่ หนึ่งทุ้ม หนึ่งแหลม
ในหูฟังไร้สายรุ่นนี้ หัวเว่ยใช้ไดรเวอร์ขับเสียงสองตัว โดยมีตัวหนึ่งเสียงเบส อีกตัวเสียงแหลมที่ทำงานแยกกันอย่างอิสระ แต่สอดประสานกันอย่างลงตัวโดยไม่ไปรบกวนการทำงานของกันและกัน ระบบเสียงนี้เรียกว่า Dual-Speaker True Sound ประกอบด้วยไดนามิกไดรเวอร์ ultra-hearing ขนาด 11 มม. แบบแม่เหล็ก 4 ชุด (quad-magnet dynamic driver) ให้เสียงเบสที่ลงลึกถึงความถี่ 14 Hz ทุ้มแน่นและกระหึ่มถึงใจยิ่งกว่าหูฟัง TWS ในท้องตลาดทั่วไปที่ขับเสียงให้มา 9 KHz
ในส่วนของการออกแบบคอยล์เสียงของไดอะแฟรม Huawei FreeBuds Pro 2 หูฟังไร้สายรุ่นแรกของหัวเว่ยที่ใช้ไดอะแฟรมแบบ ultra-high-frequency planar diaphragm driver หรือไดอะแฟรมความถี่สูงที่ใช้วัสดุแผ่นฟิล์มสอดไว้ระหว่างแม่เหล็กซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวนำอันทรงพลัง ที่มักใช้แค่ในหูฟังระดับไฮเอนด์ เพื่อให้ได้เสียงแหลมและเสียงโอเวอร์โทนที่แม่นยำและสว่างสดใส
ซึ่งการออกแบบไดอะแฟรมเช่นนี้ทำให้ความเร็วของ Transient Response สอดคล้องกับต้นฉบับเสียง Huawei FreeBuds Pro 2 จึงให้รายละเอียดเสียงที่เหนือระดับ และสามารถถ่ายทอดเสียงได้ครอบคลุมย่านความถี่ตั้งแต่ 14 Hz จนถึง 48 kHz
2.นวัตกรรมDigital Cross-over technologyกาวใจผสานการทำงานสองไดรเวอร์
Huawei FreeBuds Pro 2 ใช้เทคโนโลยี Digital Cross-over เพื่อส่งสัญญาณเสียงเข้าสู่กระบวนการประมวลผลสองทางที่แยกขาดจากกัน ผ่านชิปเสียง DAC สองตัวที่ติดตั้งมาในหูฟัง ดังนั้นจึงสามารถแยกแยะสัญญาณเสียงความถี่ต่ำและความถี่สูงได้อย่างชัดเจน และไดรเวอร์ขับเสียงสองตัวที่แยกเป็นเป็นความถี่ต่ำและความถี่สูงก็สามารถทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างเต็มที่
โดยมีเทคโนโลยี Digital Cross-over นี้เองที่คอยผสานการทำงานของไดรเวอร์ทั้งสองตัวอย่างอัจฉริยะโดยไม่แทรกแซงกันและกัน หูฟังรุ่นนี้จึงมอบประสบการณ์เสียงที่ครอบคลุมทั้งย่านความถี่ต่ำ กลาง และสูง นับว่าสามารถขยายย่านความถี่เสียงให้กว้างขึ้นได้อย่างแท้จริงไปพร้อมๆ กับเก็บรายละเอียดเสียงต้นฉบับไว้ได้อย่างแม่นยำ ให้รายละเอียดเสียงที่รุ่มรวย ไม่ว่าจะฟังเพลงมิกซ์สุดไดนามิกโดยดีเจ หรือฟังคอนเสิร์ตเพลงคลาสสิกก็ตาม
3.นวัตกรรมการปรับจูนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเสียง จากแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกอย่าง Devialet
การจับมือกับแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกอย่าง Devialet ให้มาร่วมพัฒนาระบบเสียงและปรับจูนเสียงนั้นทำให้หูฟัง Huawei FreeBuds Pro 2 มอบประสบการณ์เสียงที่เรียกได้ว่า “Pure Sound” ตามความมุ่งมั่นของทั้งสองแบรนด์ โดยได้ทำงานใกล้ชิดกันเพื่อออกแบบสถาปัตยกรรมเสียงอะคูสติกที่เป็นนวัตกรรมใหม่ โดยสามารถถ่ายทอดทุกเนื้อเสียงและท่วงทำนองที่หลบซ่อนอยู่ในเสียงดนตรีแต่ละโน้ต ด้วยเสียงเบสที่เป็นจังหวะและคุณภาพเสียงที่ชัดใส เก็บรายละเอียดทุกอารมณ์ของต้นฉบับ
4.นวัตกรรม มอบเสียงใส คมชัด กับการตัดเสียงรอบข้าง พร้อมไมค์ถึง 4 ตัว
ด้วยความมุ่งมั่นด้านการวิจัยและพัฒนาของหัวเว่ย การพัฒนา Huawei FreeBuds Pro 2 จึงได้พัฒนาผ่านอัลกอริทึมการตัดเสียงจากนวัตกรรมรอบข้างมากกว่า 500 สถานการณ์ เอกสิทธิ์เฉพาะของหัวเว่ยแบบ Deep Neural Network (DNN) เพื่อส่งมอบเสียงสนทนาที่คมชัดระหว่างใช้งานหูฟัง
โดย Huawei FreeBuds Pro 2 มาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรอบข้าง Pure Voice กับไมโครโฟน 4 ตัว พร้อมระบบ Call Noise Cancellation แบบไฮบริด ที่จะช่วยตัดเสียงรอบข้างได้คมกริบ สนทนาได้ในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เสียงดังเท่าไหร่ก็ตาม
นอกจากนี้ Huawei FreeBuds Pro 2 ยังมีพร้อมความอัจฉริยะของเทคโนโลยี Triple Adaptive EQ หรืออัลกอริทึมที่สามารถปรับจูนเสียงอัตโนมัติได้แบบเรียลไทม์ถึง 3 โหมดดังนี้
Huawei FreeBuds Pro 2 มีให้เลือก 3 สี 3 สไตล์ คือสีฟ้า Silver Blue, สีเงิน Silver Frost และสีขาว Ceramic White เปิดราคาในประเทศไทย 6,499 บาท พร้อมโปรโมชัน รับฟรี! Huawei Band 6 มูลค่า 1,899 บาท และ Huawei Music Premium ฟรี 3 เดือน มูลค่า 387 บาท เมื่อซื้อสินค้าที่หน้าร้าน Huawei Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ หรือรับฟรีบริการ Huawei Music Premium ฟรี 3 เดือน มูลค่า 387 บาท ทั้งหน้าร้านและเมื่อสั่งซื้อที่ช่องทางออนไลน์ Huawei Store และร้านค้าบน Shopee และ Lazada
วันที่ : 14 สิงหาคม 2565
iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging34 นาทีที่แล้ว
รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย5 ชั่วโมงที่แล้ว
Sonos จัดเต็มส่งท้ายปีกับโปรโมชั่น 12.12 ให้คุณช้อปฟินด้วยส่วนลดสูงสุดกว่า 30%11 ธ.ค. 67 07:00
Infinix ปล่อยเซอร์ไพรส์ HOT 50 Pro+ Series สีสันพิเศษ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข10 ธ.ค. 67 21:41
เตรียมเปิดตัว HUAWEI MatePad 12 X แท็บเล็ตฟังก์ชันเรือธง ผสานการทำงานกับอุปกรณ์เสริมอย่างไร้รอยต่อ10 ธ.ค. 67 19:29
เปิดตัว HUAWEI FreeBuds Pro 4! หูฟังไร้สายรุ่นแรกที่ใช้ HarmonyOS NEXT
Redmi Buds 6 Play หูฟัง TWS แบบไร้ก้าน มี AI ตัดเสียงรบกวนตอนคุยสาย ที่สำคัญราคา 299 บาท
Redmi Buds 6 Lite หูฟัง TWS ไดร์เวอร์ 12.4mm มีตัดเสียงรบกวน ANC แบตเตอรี่นาน 38 ชั่วโมง
เตรียมเปิดตัว HUAWEI MatePad 12 X แท็บเล็ตฟังก์ชันเรือธง ผสานการทำงานกับอุปกรณ์เสริมอย่างไร้รอยต่อ
HUAWEI MatePad Pro 13.2 (2025) แท็บเล็ตระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ ตอบโจทย์ทั้งการวาดภาพและการทำงาน
ทำความรู้จัก HONOR 200 Smart 5G หน้าจอ 120Hz ทนน้ำทนฝุ่น IP64 กล้องหลัง 50MP AI Motion Sensing
สรุปจุดเด่นและสเปค OPPO Pad 3 Pro หน้าจอ 144Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 ลำโพง 8 ตัว แบตฯ 9510mAh
Redmi Watch 5 สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกรันบน HyperOS 2 หน้าจอสี่เหลี่ยม AMOLED กว้าง 2.07 นิ้ว
ROG Phone 9 Series กับฟังก์ชัน AniMe Vision display และลูกเล่น AI เกมมิ่งฟีเจอร์แบบจัดเต็ม
iQOO 13 5G เจ้าของความแรง Snapdragon Elite 8 + RAM สูงสุด 16GB เคาะราคาในไทย 27,900 เท่านั้น