www.siamphone.com
AirTag (Tracking device) | วันที่ : 9 ธันวาคม 2565
TP-Link VIGI C540 และ TP-Link VIGI C540-W เป็นกล้องวงจรปิดเหมาะใช้งานทั้ง Indoor หรือ Outdoor โดยมีความละเอียดถึง 4MP บันทึกวิดีโอเป็นแบบสี และมีโหมดกลางคืนช่วยให้มองเห็นได้ชัดในเวลากลางคืน ทั้งนี้ไฟล์งิดีโอยังมีความคมชัดสูงสุดระดับ 2K และตัวกล้องยังสามารถหมุน Pan Tilt ขึ้นลง ซ้ายขวา พร้อมการติดตามวัตถุอัตโนมัติด้วยระบบ AI และการควบคุมก็สามารถควบคุมผ่านแอพฯ VIGI App รองรัลการดูกล้องได้แบบเรียลไทม์ ไม่พอแค่นั้นยังมีอีกไฮไลท์เด่นคือ รองรับระบบไฟแบบ PoE กำลังไฟ 12V DC ช่วยให้การเดินสายเป็นเรื่องง่าย
*** ความแตกต่างระหว่าง TP-Link VIGI C540 และ TP-Link VIGI C540-W คือ TP-Link VIGI C540-W จะรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะเหมือนกันทั้งหมด***
VIGI Network Video Recorder (VIGI NVR1008H V2)ของจากแบรนด์ TP-Link ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะทางแบรนด์ยังมี VIGI Network Video Recorder (VIGI NVR1008H V2) ที่เป็นตัวบันทึกไฟล์วิดีโอ สนับสนุนฮาร์ดดีสได้สูงสุด 10TB พร้อมรองรับการต่อมอเตอร์เพื่อดูกล้องแบบเรียลไทม์ ดูวิดีโอย้อนหลัง บันทึกวิดีโอออกมาเป็นไฟล์ MP4 (แต่จะดึงไฟล์ออกมาได้จากการนำแฟลชไดร์ หรือ External HD มาเสียบ) และควบคุมตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ได้ทันที สามารถใช้งานร่วมกับ TP-Link VIGI C540 และ TP-Link VIGI C540-W ได้ง่ายๆ
TP-Link TL-SF1006P (ฮับ PoE)สุดท้ายเป็น TP-Link TL-SF1006P ซึ่งเป็น Desktop Switch 6-Port (10/100 Mbps) โดยมี 4 Port เป็นแบบ PoE+ สำหรับ PoE เป็นระบบไฟที่มาพร้อมกับสาย LAN ทำให้เวลาเดินสาย สามารถเดินเฉพาะสาย LAN เข้าตัวกล้องได้เลย ไม่ต้องเดินไฟพ่วงมาด้วย เพิ่มความสะดวกให้เวลาติดตั้ง
ขั้นตอนการติดตั้งเริ่มแรกเริ่มแรกต้องเปิดเครื่อง VIGI Network Video Recorder จากนั้นทำการเชื่อมต่อสาย LAN (ให้อยู่ในวงเครือข่ายเน็ตบ้าน) และต่อหน้าจอกับพอร์ต HDMI หรือ VGA เพียงเท่านี้ก็ทำตามขั้นตอนของระบบ (เมื่อติดตั้งกล้องตามวิธีด้านล่างเสร็จแล้ว จะมี IP ของกล้องโผล่มา เริ่มใช้งานได้เลย)
จากนั้นให้เปิดใช้งานฮับ TP-Link TL-SF1006P เอาสาย LAN จาก Router เน็ตบ้านเข้ามาเสียบกับฮับ TP-Link TL-SF1006P และเดินสาย LAN อีก 1 จุดไปยัง กล้องที่ติดตั้ง หากเป็นตัว TP-Link VIGI C540 ให้เสียบเฉพาะสาย LAN ได้เลย เพราะมีการจ่ายไฟแบบ PoE ผ่านสาย LAN แต่ถ้าหากเป็นรุ่น TP-Link VIGI C540-W ต้องเดินสายไป และเชื่อมต่อ Wi-Fi บ้าน
ควบคุมสั่งการด้วยแอพฯ VIGI Appแอพฯ VIGI App จะเป็นอีกทางที่ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่า และควบคุมกล้องได้จากสมาร์ทโฟน ซึ่งในแอพฯ ก็ถือว่ามีครบ ทั้งการดูภาพแบบเรียลไทม์, ปรับมุมกล้อง Pan Tilt หรือแม้แต่เล่นย้อนหลังก็ทำได้ นอกจากนี้ยังสามารถปรับโหมดการใช้งานต่างๆ เช่น ตรวจจับการเคลื่อนไหว, ตรวจพบบุคคล, ตรวจจับการข้ามเส้น, ตรวจจับการบุกรุก เป็นต้น
กล้องสีความละเอียด 4MP ได้วิดีโอไฟล์ชัด 2KTP-Link VIGI C540 และ TP-Link VIGI C540-W ค่อนข้างบันทึกวิดีโอได้สวยงาม โดยให้ภาพเป็นแบบสี ที่สำคัญยังบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียดสูงถึง 2K เรียกว่าย้อนกลับมาดูก็เห็ยชัดว่าเกิดอะไรขึ้น
บีบอัดไฟล์แบบ H265+ ไฟล์เล็กภาพชัดนอกจากภาพชัดไปแล้ว ไฟล์ที่บันทึกยังเล็กประหยัดเนื้อที่ได้ดี เพราะการบันทึกไฟล์เป็นแบบ H265+ ซึ่งไฟล์จะถูกบีบให้มีขนาดเล็กลง แต่คุณภาพของวิดีโอยังคงคมชัด ช่วยในเรื่องของการประหยัดเนื้อที่ได้มากทีเดียว
หมุน Pan Tilt ขึ้นลง ซ้ายขวาตัวกล้องค่อนข้างหมุนได้อิสระ โดยสามารถ Pan Tilt ได้ทั้งขึ้นลง ซ้ายขวา สามารถควบคุมได้จากเครื่อง NVR หรือจะเป็นแอพฯ VIGI App บนสมาร์ทโฟนก็ควบคุมได้เช่นกัน
รองรับโหมดกลางคืนเรื่องการมองเห็นในตอนกลางคืนไม่เป็นปัญหา เพราะมีโหมดกลางคืน สำหรับการบันทึกภาพในตอนกลางคืน ซึ่งจากที่ทดสอบใช้งานก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง
Smart Detectionเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวจะมีมาให้เลือกใช้งานหลากแบบ โดยมีทั้ง ตรวจจับการเคลื่อนไหว, การตรวจพบบุคคล, ตรวจจับการข้ามเส้น, ตรวจจับการบุกรุก หรือแม้แต่ตีเส้นพื้นที่แจ้งเตือน หากมีสิ่งอะไรเข้ามาในบริเวณที่เราตีกรอบ จะมีการแจ้งเตือนมายังสมาร์ทโฟนทันที
ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP66ทั้ง 2 รุ่น สามารถติดตั้ง Outdoor ได้สบายๆ เพราะตัวเครื่องได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่ IP66 ซึ่งกันฝุ่นได้ยอดเยี่ยม และกันน้ำแบบฝนสาดได้สบายๆ
หรือจะติดตั้งเป็น Stand-Alone ก็ทำได้ทั้ง TP-Link VIGI C540 และ TP-Link VIGI C540-W สามารถติดตั้งเป็นแบบ Stand-Alone โดยไม่ผ่านตัว NVR ก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะมีการซิงค์ และควบคุมการใช้งานผ่านแอพฯ VIGI App แถมการใช้งานแบบ Stand-Alone ก็ง่ายๆ เพียงเชื่อมต่อไฟ และอินเตอร์เน็ตกับกล้อง และใช้แอพฯ VIGI App สแกน QR Code ข้างตัวเครื่อง ก็สามารถใช้งานได้ทันที แต่การไม่ต่อผ่านเครื่อง NVR จะต้องการ MicroSD Card มาใส่เพื่อเก็บไฟล์วิดีโอ หรือใช้สมาร์ทโฟนในการเก็บไฟล์เหล่านั้น และสามารถดูแบบเรียลไทม์จากกล้องได้ทีละตัว
สรุปกล้อง TP-Link VIGI C540 และ TP-Link VIGI C540-Wเป็นอีกกล้องวงจรปิดที่น่าสนใจทีเดียว คือการติดตั้งสามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพียงทำตามขั้นตอน และการใช้งานสามารถควบคุมจากสมาร์ทโฟนผ่านแอพฯ VIGI App ได้ทันที ส่วนฟังก์ชั่นของตัวกล้องก็ครบเครื่อง ใช้งานได้ดีทั้งภายใน หรือภายนอกอาคาร สำหรับราคาของ TP-Link VIGI C540 จะเริ่มต้นที่ 2,700 บาท และ TP-Link VIGI C540-W จะเริ่มต้นที่ 3,100 บาท หาซื้อได้จากทาง Shopee และ Lazada สุดท้ายไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบนเว็บไซต์ของ TP-Link ตามลิ้งค์ตรงนี้เลย https://bit.ly/3VW2dNX ----- https://bit.ly/3YhpX0u
วันที่ : 9 ธันวาคม 2565
OPPO Find X9 Pro เรือธงกล้องเทพ Hasselblad ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9500 ความสว่างหน้าจอ 3600nits พร้อมชาร์จไว 80W7 ชั่วโมงที่แล้ว
Nothing เปิดตัว Phone (3a) Community Edition สมาร์ตโฟนที่ออกแบบโดยคอมมูนิตี้ผู้ใช้งานจริง 14 ชั่วโมงที่แล้ว
OnePlus 15R และ OnePlus Pad Go 2 ประกาศวันเปิดตัว พร้อมบอกสเปคบ้างส่วนบนหน้าเว็บไซต์15 ชั่วโมงที่แล้ว
Redmi Note 15 Pro อาจมีรุ่น 4G ให้เลือก คาดใช้ชิป Helio G200 Ultra กล้องหลัง 200MP23 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว BMB Entry Level ตำนานเครื่องเสียงญี่ปุ่น ครบจบเรื่องคาราโอเกะ15 ธ.ค. 68 15:00
รีวิว BMB Entry Level ตำนานเครื่องเสียงญี่ปุ่น ครบจบเรื่องคาราโอเกะ
รีวิว iPad Pro M5 เพิ่มความแรงอีกขั้นกับชิป M5 ใครเครื่องเดิมอยู่ดีๆ เริ่มช้า ต้องเปลี่ยน
รีวิว POCO F8 Pro ที่สุดแห่งขุมพลัง Snapdragon 8 Elite ผสานพลังเสียง Bose ในบอดี้กระจกชิ้นเดียวที...
รีวิว TCL 60NXTPAPER สัมผัสความต่างของจอกระดาษ นวัตกรรมเพื่อดวงตาที่มาพร้อมความคุ้มค่า ในงบ 5,999...
realme Watch 5 สมาร์ตวอทช์ดีไซน์คุ้นๆ เหมือนค่ายผลไม้ แต่ราคาต่างกันราวฟ้ากับเหว
HUAWEI FreeBuds Pro 5 หูฟังไร้สาย TWS มาพร้อมชิป Kirin A3 รับรองเสียง Lossless สตีมมิ่ง 4.6Mbps