รัฐบาล US ประกาศแบน TikTok อีกครั้ง หวั่นกระทบความมั่นคงของชาติ!

รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมดำเนินการแบน TikTok อย่างเป็นทางการอีกครั้งในรอบสามปี หลังจากที่อดีตประธานาธิบดี Donald Trump เคยยื่นเรื่องทำการแบนมาแล้วในปี 2020 แต่ถูกปัดตกโดยชั้นศาล

โดยครั้งนี้ทางรัฐบาลสหรัฐฯ ให้เหตุผลว่าเดิมว่า แอปฯ ดังกล่าว อาจมีส่วนในการเข้าถึงและสอดแนมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ชาวอเมริกัน อันมีผลต่อความมั่นคงและความเป็นส่วนตัวของประเทศ  

นักวิจารณ์ Social Platform ชาวอเมริกัน เผยโดยอิงจากรายงานว่า ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok สื่อ Social Media ยอดนิยมจากประเทศจีน ได้ทำการเข้าถึงข้อมูลการระบุตำแหน่งผู้ใช้งาน TikTok ของอเมริกันชน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ที่น่าแปลกไปกว่านั้นคือ จะเน้นเจาะข้อมูลส่วนนี้เป็นพิเศษกับบุคคลที่มีอิทธิพล หรือมีชื่อเสียง รวมถึงนักข่าวหลายๆคนจาก Forbes สื่อเกี่ยวกับธุรกิจและการเงินชื่อดังของอเมริกา ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว

แต่ครั้งนั้น ByteDance ให้การปฏิเสธไป พร้อมทั้งไล่หัวหน้าพนักงานที่ดูแลส่วนนี้ออกเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ด้าน Josh Hawley สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ แห่งพรรค Republican ผู้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการออกนโยบายการแบนแอปฯ TikTok ในครั้งนี้ กล่าวว่า ได้ทำการยื่นเสนอเรื่องนี้เข้าสู่ข้อกฎหมาย เพื่อทำการปลดแอปฯ ดังกล่าวออกจากทุกแพลตฟอร์มการดาวโหลดของสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2023 ที่ผ่านมา 

ทั้งยังเสริมว่า พรรค Republican นั้น ได้ผลักดันเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะเชื่อว่ารัฐบาลจีนใช้แผนสกปรกในการเข้าถึงข้อมูลของชาวอเมริกันโดยใช้แอปฯ ดังกล่าวเป็นตัวกลาง

ในขณะที่สมาชิกบางส่วนจากพรรค Democrat เสนอให้ลองใช้วิธีบีบบังคับให้ ByteDance ขาย TikTok ให้อเมริกาแทน แลกกับการไม่ถูกแบน หรือปลดออกจาก Play Store และ App Store

ในขณะที่รัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ ทยอยห้ามการใช้ หรือติดตั้ง TikTok บนอุปกรณ์ต่างๆ ในสำนักงานรัฐบาล โรงเรียนและมหาวิทยาลัยหลายแห่งในอเมริกาก็เริ่มดำเนินการแล้วเช่นกัน 

อย่างการปิดกั้นการเข้าถึง TikTok ผ่านการเชื่อมต่อ WiFi ของมหาวิทยาลัย แต่นักศึกษาจะยังสามารถเข้าถึงแอปฯ ได้ โดยใช้ข้อมูลเครือข่ายมือถือ

ลิสต์รายชื่อคร่าวๆ ของมหาวิทยาลัยที่เริ่มแบน TikTok ได้เเก่ University of Texas , University of Oklahoma , University of Central Oklahoma , Boise State University , Auburn University , Arkansas State University , University of Georgia เเละ Idaho State University เป็นต้น ซึ่งต้องรอดูทิศทางกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร