Marty Cooper ผู้บุกเบิกนวัตกรรมโทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่

เคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่า โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือโทรศัพท์มือถือที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มีที่มา หรือจุดเริ่มต้นอย่างไร?

ใครที่เป็นผู้ Inspire หรือจุดประกายสิ่งนี้ขึ้นมา จนทุกวันนี้มันสามารถกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนและดำรงชีวิตของมนุษย์โดยปริยายได้

ต้องยกความดีความชอบส่วนนี้ให้กับ Marty Cooper วิศวกรชาวอเมริกัน วัย 94 ปี ผู้ที่ถือได้ว่าเป็นทั้งต้นตำรับ , ผู้บุกเบิก , ผู้ Pave the way กรุยทางเดินให้คนรุ่นหลังนำไปพัฒนาต่อยอดได้ จวบจนเป็นสมาร์ทโฟนสุดล้ำที่เราเห็นผ่านตากันมา รุ่นแล้วรุ่นเล่า ดังปัจจุบัน   

Marty เกิดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 1928 ณ เมือง Chicago รัฐ Illinois สหรัฐอเมริกา เขามีเชื้อสายยูเครเนียน - ยิว เนื่องจากพ่อแม่อพยพย้ายถิ่นมาจากประเทศยูเครน ทำให้เขามีสถานะเป็น American Born Ukrainian (อเมริกันเชื้อสายยูเครน)

Marty สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสถาบันเทคโนโลยีอิลลินอยส์ (Illinois Institute of Technology) สาขาวิศวกรรมไฟฟ้าในปี 1950 ระดับปริญญาโทในปี 1957 และปริญญาเอกในปี 2004 จากสถาบันและสาขาเดียวกัน

ซึ่ง เรื่องราวที่เป็นจุดเปลี่ยนของมวลมนุษยชาตินี้ เริ่มต้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน 1973 “Marty Cooper” ซึ่งขณะนั้นมีอายุ 45 ปี ในฐานะพนักงานแห่งบริษัท Motorola, Inc. ตำแหน่งวิศวกรพัฒนาอาวุโส ในแผนกอุปกรณ์เคลื่อนที่

ขณะนั้น Marty ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนา และสร้างโทรศัพท์เคลื่อนที่ไร้สายเครื่องแรกของโลกขึ้นมาได้ ภายใต้โปรเจคที่มีชื่อว่า DynaTAC (Dynamic Adaptive Total Area Coverage) โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารสูงสุดของ Motorola เป็นเม็ดเงินถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3,433,000,000 บาทไทยปัจจุบัน) ในระหว่างปี 1973 - 1993  

โดยโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว ยาวประมาณ 10 นิ้ว หนักประมาณ 2.5 ปอนด์ (1.1 กิโลกรัม) จนได้รับฉายาว่า “ก้อนอิฐโทรได้” ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 25 นาที แต่ใช้เวลาชาร์จนานถึง 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ซึ่งในขณะนั้นผู้คนต่างมองว่า การมีโทรศัพท์เคลื่อนที่ไร้สาย ก็ถือว่าเป็นที่สุด จนลืมข้อกังขาทุกอย่างไปแล้ว “นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะโทรศัพท์เครื่องนี้หนักมาก คุณไม่สามารถถือมันได้นานถึง 25 นาทีหรอก'' Marty กล่าวเสริม

ซึ่งหลังจากนั้น Marty ไม่รอช้า รีบต่อสาย จากถนน Sixth avenue , New York City หา Joel Engel เพื่อนสนิทของเขา ที่ทำงานในบริษัทคู่แข่งอย่าง Bell Laboratories (ปัจจุบันคือบริษัท Nokia Bell Labs) ในรัฐ New Jersey เพื่อโอ้อวดความสำเร็จทันที

“เฮ้ Joel นี่ Marty เองนะ ฉันโทรหานายด้วยโทรศัพท์มือถือแบบพกพาแหละ! เป็นโทรศัพท์มือถือแบบพกพาจริงๆนะ” “เขาเงียบไปเลย ผมว่าเขากำลังกัดฟันและอึ้งอยู่แน่ๆ” Marty กล่าวต่อหน้าสื่อฯ และสาธารณชนมากมายที่เข้าร่วมสังเกตการณ์

ตามรายงานของ AFP Motorola เผยว่า เป็นเวลาถึงหนึ่งทศวรรษหลังจากนั้น กว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังกล่าวจะเริ่มวางขาย โดยใช้ชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการว่า DynaTAC 8000X เริ่มวางขายในสหรัฐอเมริกาที่ราคา 3,995 เหรียญฯ (ประมาณ 137,078.44 บาทไทยปัจจุบัน)

ในปี 1983 และถูกผลิตซ้ำเรื่อยๆ ถึง 4 ครั้ง พร้อมกับน้ำหนักที่ลดลงมากกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับครั้งแรกที่เปิดตัว 

ปัจจุบัน Marty นั้น ถือว่าเป็นแฟนตัวยงของ Apple เลยก็ว่าได้ เพราะเขาใช้ iPhone รุ่นท็อป และสวม Apple Watch ด้วย ทั้งยังเผยว่า ตัวเขานั้นเปลี่ยน iPhone ทุกครั้งเมื่อมีรุ่นใหม่ออกมา และทุกวันนี้ Marty ต้องต่อเครื่องช่วยฟังเข้ากับโทรศัพท์ของเขา เนื่องจากภาวะการได้ยินที่เสื่อมลงไปตามกาลเวลา

ถึงแม้ว่า Marty จะดูเป็นคนที่เจนจัด และเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในสายตาของหลายๆ คน แต่เอาเข้าจริง Marty ก็ออกปากว่า เขานั้นยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกมาก และเขาเอง ก็อยากจะเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน “ทุกวันนี้ ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำนะว่า TikTok คืออะไร” Marty กล่าว

Marty นั้นเชื่อเสมอว่า เราพึ่งเดินทางมาถึงช่วงเสี้ยวแรกของนวัตกรรมมือถือเท่านั้น ถึงแม้ว่าวันที่เขาได้จุดประกายนวัตกรรมอันทรงพลังนี้ขึ้นมา จะผ่านมานานกว่าครึ่งศตวรรษแล้วก็ตาม แต่เรายังไปต่อได้อีกไกลกว่านี้มาก เขาเชื่อขนาดที่ว่า ภายในสองชั่วอายุคนข้างหน้า โทรศัพท์มือถือจะมีส่วนช่วยในการปฏิวัติการศึกษา , การดูแลสุขภาพ และเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของมนุษย์ได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว     

ที่มา : economictimes.indiatimes.com , www.bbc.com , www.abc.net.au , www.ndtv.com