www.siamphone.com

ข่าว

Emergency SOS บน iPhone 14 ช่วยชีวิตที่ติดอยู่ใต้ผา ลึกกว่า 500 ฟุต

ตั้งแต่มีการเปิดตัวฟีเจอร์ Emergency SOS via Satellite และ Crash Detection พร้อมกับ iPhone 14 Series ไปเมื่อปีที่แล้ว เรามักได้ยินเรื่องราวที่เกี่ยวกับการช่วยชีวิตคนด้วยฟีเจอร์ดังกล่าวอยู่บ่อยๆ เรื่อยมา โดยเฉพาะฟีเจอร์ Crash Detection

ล่าสุดกรณีเหล่านักศึกษาจาก Brigham Young University รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา จำนวน 3 คน ที่ตกลงไปและติดอยู่ในแอ่งน้ำใต้ซอก Canyon หรือซอกผา ลึกลงไปกว่า 500 ฟุต หรือราวๆ 152.4 เมตรจากพื้นราบ ระหว่างทริปปีนเขา แต่รอดชีวิตได้ด้วยฟีเจอร์ Emergency SOS via Satellite

จากรายงานของ local news outlet KUTV สื่อท้องถิ่นของรัฐยูทาห์ ระบุว่า ช่วงเวลาขณะนั้น นักศึกษาทั้ง 3 คนดังกล่าว ได้ทำการไต่ลัดเลาะ ไปตามแนวป่า และเชิงผาที่ชื่อว่า  “The Squeeze” ในเขต Emery County ของรัฐยูทาห์ หุบเขาที่ขึ้นชื่อว่าลึกขั้นปราบเซียน และลื่นเป็นพิเศษเมื่อถึงคาบเกี่ยวระหว่างฤดูหนาว ไปฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อน

เป็นช่วงเวลาที่ธารน้ำแข็งและหิมะกำลังละลายลงสู่แม่น้ำ จะอันตรายเป็นพิเศษโดยเฉพาะเวลากลางคืน ทัศนวิสัยการมองเห็นแย่ โดยนาย Jeremy Mumford 1 ใน 3 ของพวกเขา เผยว่าได้ไถลตกจากขอบผา ลงไปสู่แอ่งน้ำที่เย็นยะเยือกด้านล่าง หลังจากนั้น หนึ่งในพวกเขาเริ่มเข้าสู่สภาวะใกล้ช็อกเนื่องจากอุณหภูมิของร่างกายที่ต่ำกว่าปกติ (hypothermia symptoms) “ผมเริ่มตื่นตระหนกมากขึ้นเมื่อเห็นหนึ่งในเพื่อนของพวกเราเริ่มอาการไม่ดี เนื่องจากแช่อยู่ในน้ำเย็นจัดเป็นเวลานานเกินไป จนเข้าสู่สภาวะใกล้ช็อกเนื่องจากอุณหภูมิอของร่างกายที่ต่ำกว่าปกติ”

“พวกเราพยายามกันทุกวิถีทางที่จะพาเพื่อนคนนั้นออกมาจากบ่อน้ำให้ได้ แต่ไม่สำเร็จ สิ่งเดียวที่เราทำได้ ณ ขณะนั้นคือ การให้เพื่อนคนนั้นขี่หลังเพื่อนอีกคน ผลัดกับการขี่หลังของผม เพื่อให้ตัวของเขาพ้นผิวน้ำให้ได้มากที่สุด”

หลังจากที่ทั้ง 3 คนได้รับการช่วยเหลือและรักษาอาการจนดีขึ้นแล้ว ทั้งสามได้ให้ข้อมูลต่อหน้าสื่อเป็นครั้งแรกว่า ณ ขณะนั้น จุดที่พวกเขาตกลงไปนั้นอับสัญญานเซลลูลาร์ แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็นึกขึ้นได้ว่าหนึ่งในพวกเขานั้นมีฟีเจอร์ Emergency SOS via Satellite อยู่

จากนั้นพวกเขาจึงเริ่มใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวแบบเก้ๆกังๆ เพราะไม่เคยคิดว่าจะได้ใช้มันจริงๆ ทั้ง 3 ระบุว่าจุดที่พวกเขาอยู่นั้น จะมีดาวเทียมโคจรผ่านเข้ามาเทียบทุกๆ 20 นาที พวกเขาจึงทำการส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยัง 911 ประจำเขต Emery Country และส่งข้อความอัปเดตสถานการณ์ในทุกๆ 20 นาทีที่ดาวเทียมโคจรมาถึง

พวกเขาระบุเพิ่มเติมว่า พวกเขาต้องยกโทรศัพท์ให้สูงที่สุด เพื่อให้ดาวเทียม Detect ตำแหน่งที่พวกเขาติดอยู่กว่า 500 ฟุตต่ำกว่าพื้นผิวผิวโลกได้ และเพื่อรับสัญญาณจากดาวเทียม ในการส่งข้อความอัปเดตสถานการณ์ในเวลาเดียวกันด้วย    

จนในท้ายที่สุดทีมกู้ภัยก็ค้นหาพวกเขาเจอ และให้การช่วยเหลือพวกเขาทันทีด้วยการลำเลียงพวกเขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ทีละคน แล้วนำเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป    

ทั้ง 3 ยังแนะนำว่า นอกจากการเตรียมร่างกาย และอุปกรณ์ที่ดีแล้ว การมีอุปกรณ์สื่อสารที่ช่วยสื่อสารได้โดยที่ไม้ต้องใช้สัญญาณข้อมูลเครือข่ายมือถือ ก็ถือเป็นหนึ่งใน Game Changer ในสถานการณ์ที่คับขันชี้เป็นชี้ตายอย่างกรณีนี้ได้ได้ดีเลยทีเดียว “เชื่อผมเถอะ มันช่วยคุณได้แน่” Jeremy กล่าวเสริม 

ปัจจุบัน ฟังก์ชัน Emergency SOS via satellite เปิดให้บริการเฉพาะประเทศในแถบยุโรป อย่าง ออสเตรีย , เบลเยียม , ฝรั่งเศส , เยอรมนี , ไอร์แลนด์ , อิตาลี , ลักเซมเบิร์ก , เนเธอร์แลนด์ , โปรตุเกส , สหราชอาณาจักร และ 2 ประเทศในแถบอเมริกาเหนือ อย่าง สหรัฐอเมริกา และ แคนาดา เท่านั้น

ยังไม่เปิดให้บริการในประเทศไทย หรือประเทศอื่นนอกเหนือจากนี้ แต่ทาง Apple เคยออกปากไว้ว่า ฟังก์ชันดังกล่าว ยังอยู่ภายใต้การพัฒนา และมีแพลนที่จะขยายการบริการให้เป็นวงกว้างต่อไปในอนาคต ซึ่งประเทศไทยจะได้ใช้กันตอนไหนนั้น ก็ต้องรอดูกันต่อไป   

ที่มา : 9to5mac.com , support.apple.com

วันที่ : 11 พฤษภาคม 2566

1,475
อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข่าวล่าสุด

ไฮไลท์ข่าว

หมวดข่าว

None AMP version