เปิดตัว Garmin Fenix 7 Pro และ Epix 2 Pro Smart Watch สำหรับนักผจญภัยตัวจริง

Garmin ได้เปิดตัว Fenix 7 Pro และ Epix 2 Pro ซึ่งเป็นการต่อยอดมาจาก Fenix 7 Series และ Epix 2 โดยรอบนี้ทั้ง 2 รุ่นมีราคาไม่แตกต่างจากรุ่นแรกมากนัก Epix 2 Pro มีทั้งหมด 3 ขนาด คือ 42 มม. 47 มม. และ 51 มม. ใช้จอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว 1.3 นิ้ว และ 1.4 นิ้ว ตามลำดับ

ทั้ง 2 รุ่นมีความคล้ายคลึงกันพอสมควร ความแตกต่างที่สำคัญคือจอแสดงผล Epix 2 Pro ใช้จอแสดงผล AMOLED ในขณะที่ Fenix ​​7 Pro ​​ใช้จอแสดงผล Memory-In-Pixel (MIP) ซึ่งทำให้ประหยัดพลังงานมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อเปิด Always On Display

ในรุ่น Epix 2 Pro ขนาด 47 มิลลิเมตร จะมีแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนานมากขึ้น ใช้งานได้ 16 วันในโหมด Smart Watch, ใช้งานได้ 32 ชั่วโมงเมื่อเปิดโหมด Multi Sport, ใช้งานได้ 6 วันเมื่อเปิด Always On Display, ใช้งานได้ 42 ชั่วโมงเมื่อเปิด GPS

ส่วน Fenix 7 Pro จะใช้งานได้นานสูงสุดถึง 22 วัน เมื่อเปิด GPS ใช้งานได้ 73 ชั่วโมง และ Multi Mode ใช้งานได้ 48 ชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วยแสงอาทิตย์โดยการใช้หน้าจอเป็นตัวรับแสง มีพื้นที่เก็บข้อมูล 32 GB สามารถเก็บบันทึกแผนที่ GPS และเพลงออฟแบบไลน์ได้ แถมยังมีการเชื่อมต่อกับดาวเทียบแบบ Multi Band ได้ด้วย พร้อมติดตั้งไฟฉาย LED สีขาว 2 ดวงและสีแดง 1 ดวง

การเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นอื่น ๆ ได้แก่ เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัลชื่อว่า Elevate V5 ทำให้มีความแม่นยำมากขึ้นแต่ไม่ได้ยืนยันว่าสามารถวัด ECG (การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ) ได้หรือไม่

นอกจากนี้ทั้งคู่ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์แสดงแผนที่แบบนูนต่ำ ภาพซ้อนทับสภาพอากาศและโหมดแยกหน้าจอ รวมถึงการแสดงคะแนน Endurance Score ใช้วัดความอดทนในการทำกิจกรรมต่าง ๆ และ Hill Score ที่ใช้วัดความสามารถในการปีนเขาและประเมินความคืบหน้า เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็น Smart Watch สำหรับสายลุยอย่างแท้จริง

ในรุ่น Sapphire Edition จะได้หน้าจอเป็นกระจก Sapphire มีบอดี้รอบตัวเป็นไทเทเนียม (ต้องจ่ายเงินเพิ่ม)

Epix 2 Pro ขนาด 42 - 47 มิลลิเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 900 ดอลลาร์หรือประมาณ 31,XXX บาท ส่วนขนาด 51 มิลลิเมตร ราคาจะอยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 34,XXX บาทและการเพิ่มในรุ่น Sapphire จะต้องเพิ่มอีก 100 ดอลลาร์หรือประมาณ 3,4XX บาท

เริ่มวางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ Garmin แล้ววันนี้ ส่วนวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการคงต้องรอติดตามกันต่อไป

แหล่งที่มา gsmarena