สเปค iPhone 15 ทุกรุ่น สรุปฟีเจอร์ iPhone 15 Series มีอะไรใหม่!

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ iPhone 15 Series มีทั้งหมด 4 รุ่นย่อยด้วยกัน อาทิ iPhone 15, iPhone 15 Plus, iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max โดยมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ตั้งแต่ดีไซน์, จุดเด่น, สเปค รวมถึงรายละเอียดเล็กน้อยต่างๆ เรียกได้ว่าการเปิดตัวในครั้งนี้น่าจับจองเป็นเจ้าของมากๆ บทความนี้สรุปไว้ให้แล้ว

ด้านดีไซน์ เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ใช้วัสดุเหมือนเดิม แต่พรีเมียมมากยิ่งขึ้น

สำหรับ iPhone 15 Series มีจุดเด่นเหมือนกัน คือ มาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)

หน้าจอแสดงผลประเภท OLED กับเทคโนโลยี Super Retina XDR - True Tone - HDR - Display P3 สามารถแสดงสีสันสมจริงมากยิ่งขึ้น พร้อมใช้กระจกป้องกันหน้าจอ Ceramic Shield ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและไม่เกิดรอยนิ้วมือ ทำความสะอาดหน้าจอได้ง่าย เพิ่มเติมด้วยความสว่างหน้าจอมากกว่าเดิม 1600nits และสูงสุดเลยคือ 2000nits จึงไม่เกิดอุปสรรคเมื่อใช้งานกลางแจ้ง โดยมีขนาดหน้าจอ ดังนี้ ...

• iPhone 15/iPhone 15 Pro : ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2556 x 1179 พิกเซล
• iPhone 15 Plus/iPhone 15 Pro Max : ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2796 x 1290 พิกเซล

ยังเป็นเรื่องของหน้าจออยู่ โดย Dynamic Island สามารถใช้ได้กับรุ่นเล็กแล้ว ไม่ได้สงวนสิทธิ์เฉพาะรุ่นพี่อีกต่อไป โดยฟีเจอร์ดังกล่าวถูกปรับให้ชาญฉลาดกว่าที่เคย และแสดงข้อมูลเต็มๆ มากยิ่งขึ้น สามารถแยกการทำงานได้ด้วย หากมีกิจกรรมแจ้งเตือนเกิดขึ้นพร้อมกัน ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้เฉพาะจุด ทำให้รายละเอียดต่างๆ ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

วัสดุตัวเครื่องแตกต่างกันเล็กน้อย โดย iPhone 15 และ iPhone 15 Plus วัสดุตัวเครื่องอะลูมิเนียมเกรดเดียวที่ใช้ในอุตสาหกรรมอากาศยาน ส่วน iPhone 15 Pro กับ iPhone 15 Pro Max จะเป็นวัสดุตัวเครื่องไทเทเนียมเป็นเกรดเดียวที่ใช่ในอุตสาหกรรมอากาศยาน ซึ่งจะมีความแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบากว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา โดยตัวเครื่องมีพื้นผิวที่ผ่านการปัดละเอียดจนสวยเงางาม

ยังต่อกันในเรื่องของดีไซน์ มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ คือ เปลี่ยนมาใช้เป็นพอร์ต USB Type-C แล้ว และสายที่แถมมาให้ในกล่องเป็นสายถักทั้งหมด ซึ่งมีข้อแตกตางในแง่ของความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล

• iPhone 15 และ iPhone 15 Plus : ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล 480Mb/s
• iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max : ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล 10Gb/s

ด้านข้างตัวเครื่องฝั่งซ้ายของ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มีปุ่ม แอ็คชั่นแบบใหม่หมดคือทางลัดรวดเร็ว เพียงแค่กดปุ่มแอ็คชั่นค้างไว้ก็เรียกใช้งานได้ทันที อาทิ โหมดปิดเสียง, กล้อง, ไฟฉาย, คำสั่งลัด เป็นต้น

ไฮไลท์สำคัญ สองรุ่น iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max เน้นจุดเด่นด้านเกมมากขึ้น เพราะชิปเซ็ตรุ่นท็อป A17 Pro พร้อมจีพียู 6 แกนใหม่ รองรับ Ray Tracing ในระดับฮาร์ดแวร์ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะพบเห็นในเกมคอนโซลระดับท็อป นั่นหมายความว่าคุณสามารถเล่นเกมเหล่านี้ได้บบสมาร์ทโฟนเลย ไม่ว่าจะเป็นเกม Resident Evil Village, Resident Evil 4 remake, Assassin’s Creed Mirage, Death Stranding นอกจากนี้เกมที่เคยมีอยู่แล้วจะสามารถเล่นได้ลื่นไหลขึ้น ประมวลผลรวดเร็วกว่าเดิม อาทิ Honkai Star Rail, Genshin Impact, Division Resurgence เป็นต้น

จะเห็นได้ว่า iPhone 15 Series ทั้ง 4 รุ่น ต่างมีการปรับเปลี่ยน อัปเกรดอย่างมีประสิทธิภาพ น่าใช้งานเลยทีเดียว แถมราคาไม่ได้สูงกว่า iPhone รุ่นก่อนด้วย โดยจะสรุปราคาของทั้ง 4 รุ่น ดังนี้...

ราคา iPhone 15

• โมเดลพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 128GB : ราคา 32,900 บาท
• โมเดลพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 256GB : ราคา 36,900 บาท
• โมเดลพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 512GB : ราคา 45,900 บาท

ราคา iPhone 15 Plus

• โมเดลพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 128GB : ราคา 37,900 บาท
• โมเดลพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 256GB : ราคา 41,900 บาท
• โมเดลพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 512GB : ราคา 50,900 บาท

ราคา iPhone 15 Pro

• โมเดลพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 128GB : ราคา 41,900 บาท
• โมเดลพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 256GB : ราคา 45,900 บาท
• โมเดลพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 512GB : ราคา 54,900 บาท
• โมเดลพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 1TB : ราคา 63,900 บาท

ราคา iPhone 15 Pro Max

• โมเดลพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 256GB : ราคา 48,900 บาท
• โมเดลพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 512GB : ราคา 57,900 บาท
• โมเดลพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 1TB : ราคา 66,900 บาท

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ iPhone 15 Series อยากใช้ใช่ไหม ใครที่จะซื้อจับจองเป็นเจ้าของ ต้องหาอุปกรณ์มาช่วยปกป้อง iPhone 15 แบบครบรอบด้าน อาทิ ฟิล์มกระจกกันรอย เต็มจอ ความแข็งระดับ 9H (Focus Full Frame Tempered Glass 9H) และฟิล์มกระจกกันรอยเลนส์กล้อง (Focus Iron Ring)

สำหรับฟิล์มกระจกกันรอยเต็มจอโฟกัส เหมาะสำหรับ iPhone 15 Series ทุกรุ่น ด้วยคุณสมบัติปกป้องเต็มที่ถึงขอบจอ พร้อมคุณสมบัติการแสดงภาพคมชัด สีไม่เพี้ยน ทัชลื่น รองรับแรงกระแทก มั่นใจทุกจังหวะใช้งาน

ฟิล์มกระจกกันรอยโฟกัส สามารถกันรอยขีดข่วนได้ถึงระดับ 9H (Hardness) ปกป้องหน้าจอจากรอยขีดข่วนได้ดีเยียม และยัง ออกแบบมาพอดีหน้าจอ เมื่อใช้งานตัวกระจกจะติดตั้งแนบชิดกับหน้าจอจึงฝุ่นไม่เข้า และแถมฟรี ฟิล์มหลัง ที่ช่วยป้องกัน รอยขีดข่วนหลังเครื่อง ราคาเริ่มต้นเพียง 349 บาท อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : focusshield.com/apple/iphone-15

นอกจากปกป้องหน้าจอ และหลังเครื่องแล้ว ก็ต้องปกป้องเลนส์กล้องด้วย Focus Iron Ring ฟิล์มกระจกกันรอยเลนส์กล้อง ตัวช่วยปกป้องเลนส์กล้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติกันรอยขีดข่วนมาตรฐาน 9H ที่มีการออกแบบดีเยี่ยม ติดแน่นแนบสนิท เสริมความแข็งแรงด้วยวัสดุอะลูมิเนียม จึงไม่บิดงอ พร้อมเคลือบสารลดแสงสะท้อน กันน้ำกันฝุ่น ลุยไปกับคุณทุกสถานที่ทุกสถานการณ์ ลุยไปกับ Focus และ iPhone 15 ของคุณ

iPhone 15 Series ทั้ง 4 รุ่น มีโมดูลกล้องที่ยื่นออกมานอกตัวเครื่อง แถมเลนส์ยังเป็นกระจกด้วย ถ้าเกิดเป็นรอยขีดข่วน หรือกระจกเลนส์กล้องเสียหาย อาจทำให้คุณต้องกุมขมับเลย ค่าซ่อมแซงก็แพง หรือฝืนใช้ไปภาพก็ไม่สวย ดังนั้นป้องกันไว้ดีกว่าแก้ แค่ติดฟิล์มกระจกกันรอยเลนส์กล้องก็อุ่นใจ ใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ ก็ไม่ต้องกังวล

ถ้าใครกังวลว่าติดแล้วจะทำให้การถ่ายภาพต้องมากวิธี หรือภาพที่ได้ ไม่สวย ไม่คมชัด บอกเลยว่า ไม่เป็นปัญหา ไม่ต้องกังวล ด้วยกรรมวิธีการผลิตเฉพาะของโฟกัส ทำให้ไม่ลดคุณภาพกล้อง ภาพชัด สีไม่เพี้ยน รูปภาพยังมีความสวยงาม

Focus Iron Ring มี 6 เฉดสีให้เลือก ออกแบบมาสีเดียวกับตัวเครื่อง iPhone 15 นอกจากป้องกันรอยขีดข่วนแล้ว ยังช่วยเพิ่มความ Premium ให้ iPhone 15 อีกด้วย โดยจะมีสีดำ, สีน้ำเงิน, สีทอง, สีเทา, สีเงิน และสี Rainbow ราคาวางจำหน่าย 490 บาท อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : focusshield.com

ปกป้อง iPhone 15 แบบครบรอบด้าน ด้วยกระจกกันรอยโฟกัส หาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ Focus Store ทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.focusshiled.com