Samsung Galaxy A15 5G vs Redmi Note 13 5G ราคาต่างกัน 1,000 บาท เลือกอะไรดี!

เป็นสองรุ่นที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น การดีไซน์ตัวเครื่อง หรือจุดเด่นกับสเปค ซึ่งอยู่ในช่วงราคาที่จับจองได้ง่ายในราคามือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท เผื่อว่าใครกำลังสนใจคู่หูดังกล่าว บทความนี้นำมาเปรียบเทียบให้แล้ว ระหว่าง Samsung Galaxy A15 5G vs Redmi Note 13 5G มีจุดเด่นและสเปคแตกต่างกันอย่างไร รุ่นไหนน่าสนใจกว่า มีราคาต่างกัน 1,000 บาท โดยจะเป็นรุ่นความจุ RAM 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 256GB

เริ่มกันที่จุดเด่นของทั้งสองรุ่นมีอะไรบ้าง

สมาร์ทโฟน Redmi Note 13 5G หน้าจอแสดงผลยกระดับไปอีกขั้น กลายเป็นรุ่นที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นในช่วงราคาเดียวกัน กับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล มาตรฐานเฉดสี DCI-P3-100% แสดงผลเฉดสีมากกว่า 1.07 พันล้านสี มีความสว่างหน้าจอ 500 nits มีเทคโนโลยี PWM Dimming 1920Hz ให้คุณปลอดภัยต่อสายตายิ่งขึ้น เมื่อใช้งานในสภาวะแสงน้อย อัตรารีเฟรชเรท 120Hz กับอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 2160Hz เรียกได้ว่าทุกการเล่นเกมของคุณจะนำหน้าหนึ่งก้าวเสมอ

ตัวเครื่องผ่านการทดสอบมาตรฐานความแข็งแรง มีความบางเพียง 7.6 มม. หน้าจอแสดงผลครอบทับกระจกหน้าจอ Corning Gorilla 5 มีมาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น IP54 นอกจากนี้มีลำโพงระบบเสียง Dolby ATMOS, เทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่เร็ว 33 วัตต์ (อะแดปเตอร์แถมให้ในกล่อง), ฟีเจอร์ระบบเชื่อมต่อ IR Blaster กับ NFC, กล้องหลังสามเลนส์ความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซล และมีฟีเจอร์สร้าง RAM เสมือนช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผล ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอปฯ หรือสลับแอปฯ ใช้งานไปมาก็รวดเร็วยิ่งขึ้น

Samsung Galaxy A15 5G ให้หน้าจอประเภท Super AMOLED พร้อมเทคโนโลยี Eye Comfort Shield ลดแสงสีฟ้าที่หน้าจอ ลดอาการเมื่อยล้าและถนอมสายตา มีขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรท 90Hz มีความละเอียดหน้าจอ 2340x1080 พิกเซล ความสว่างหน้าจอสูงสุด 800nits มาพร้อมฟีเจอร์ Vision Booster ที่ช่วยให้ภาพมีความสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น

Samsung Galaxy A15 5G การันตีอัปเดต OS (ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์) นาน 4 ปี และแพทช์ความปลอดภัยนาน 5 ปี ด้านข้างตัวเครื่องมีปุ่ม Power ที่มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ช่วยยืนยันตัวตนในการปลดล็อคตัวเครื่อง ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 5000mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 25 วัตต์ (ไม่แถมอะแดปเตอร์) มีฟีเจอร์สร้าง RAM เสมือนช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผล ไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอปฯ หรือสลับแอปฯ ใช้งานไปมาก็รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมั่นใจในการใช้งานมากยิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์ Samsung Knox ที่ช่วยป้องกันภัยร้ายจากโลกไซเบอร์

สเปคกล้องหลังและกล้องหน้า แตกต่างกันอย่างไร

Samsung Galaxy A15 5G

• กล้องหลัง : แบ่งเป็น 3 เลนส์ รายละเอียดดังนี้
  • ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส รูรับแสง f/1.8
  • เลนส์ Ultra-Wide : ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์มาโคร : 4 ซม. ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้า : ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0

Redmi Note 13 5G

• กล้องหลัง : แบ่งเป็น 3 เลนส์ รายละเอียดดังนี้
  • ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส รูรับแสง f/1.7
  • เลนส์ Ultra-Wide : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • เลนส์มาโคร : 4 ซม. ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
• กล้องหน้า : ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

สเปคเบื้องต้นของ Samsung Galaxy A15 5G

• ระบบปฏิบัติการ : Android 14 ครอบทับ OneUI 6.0
• ขนาดตัวเครื่อง : 160.1 x 76.8 x 8.4 มม.
• น้ำหนัก : 200 กรัม 
• หน้าจอ : Super AMOLED แบบ 90Hz ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล (FullHD+)
• หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 6100+
• GPU : Mali-G57 MC2
• RAM : 8GB
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 256GB
• MicroSD Card : สูงสุด 1TB
• ระบบเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.3, GPS, GLONASS, A-GPS, NFC
• ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
• ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
• พอร์ต : USB Type-C
• ถาดซิมการ์ดประเภท Hybrid-Slot
• แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 25 วัตต์ (ไม่แถมอะแดปเตอร์ในกล่อง)

สเปคเบื้องต้นของ Redmi Note 13 5G

• ระบบปฏิบัติการ : Android 14 ครอบทับ MIUI 14
• ขนาดตัวเครื่อง : 161.11 x 74.95 x 7.6 มม.
• น้ำหนัก : 174.5 กรัม 
• หน้าจอ : AMOLED แบบ 120Hz ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล (FullHD+)
• หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 6080
• GPU : Mali-G57
• RAM : 8GB
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 256GB เทคโนโลยีพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน UFS 2.2
• MicroSD Card : สูงสุด 1TB
• ระบบเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.3, GPS, GLONASS, A-GPS, NFC, IR Blaster
• ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
• ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
• พอร์ต : USB Type-C
• ถาดซิมการ์ดประเภท Hybrid-Slot
• มาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น IP54
• แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33 วัตต์ (แถมอะแดปเตอร์ในกล่อง)

สำหรับสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมีราคาต่างกัน 1,000 บาท โดยสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy A15 5G จะมีราคาแพงกว่าที่ 8,999 บาท ส่วน Redmi Note 13 5G อยู่ที่ราคา 7,999 บาท ดังนั้นเรามาสรุปข้อแตกต่างกันหน่อยว่ามีอะไรบ้าง

Samsung Galaxy A15 5G

• การันตีการอัปเดต OS และแพทช์ความปลอดภัยนาน
• ชิปเซ็ตที่ดีกว่าเล็กน้อย MediaTek Dimensity 6100+
• หน้าจอ Super AMOLED พร้อมเทคโนโลยี Eye Comfort Shield
• ความสว่างหน้าจอสูงสุด 800nits มาพร้อมฟีเจอร์ Vision Booster
• Samsung Member ส่วนลดค่าอาหารและท่องเที่ยวหลากหลาย

Redmi Note 13 5G

• สเปคหน้าจอกินขาด ครบทุกด้าน
• กระจกหน้าจอ Corning Gorilla 5
• เทคโนโลยีพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน UFS 2.2
• มาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่น IP54
• กล้องหลังความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล
• เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33 วัตต์ ได้อะแดปเตอร์ด้วย

ต้องบอกว่าทั้งสองรุ่นมีข้อแตกต่างกันพอสมควร รักใครชอบใคร ตัวคุณเองต้องตัดสินใจแล้ว สำหรับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy A15 5G มี 2 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ สีดำ (Blue Black) และสีฟ้า (Blue) ส่วน Redmi Note 13 5G มี 3 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ Graphite Black, Arctic White และ Ocean Teal