www.siamphone.com

ข่าว

รีวิว Samsung Galaxy Tab S10+ เรือธงชิปเซ็ต Dimensity 9300+ เสริมด้วยพลังแห่ง Galaxy AI จอใหญ่เต็มตา 12.4 นิ้ว พร้อมคู่หูคู่ใจปากกา S Pen

แท็บเล็ต (Tablet)   |   วันที่ : 14 ตุลาคม 2567

Samsung Galaxy Tab S10+ แท็บเล็ตเรือธงรุ่นใหม่จาก Samsung มาพร้อม Galaxy AI ที่เข้ามาช่วยตอบสนองความต้องการ อำนวยความสะดวกและทำให้การใช้ชีวิตเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 12.4 นิ้ว ดูคอนเทนต์ได้เต็มจอ เต็มตา และเต็มอรรถรส เสริมด้วยระบบ Ray Tracing ทำให้กราฟิกในเกมออกมาสวย คมชัดและสมจริงมากที่สุด ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ตเรือธงอย่าง MediaTek Dimensity 9300+ ที่สร้างมาเพื่อการใช้งานด้าน AI โดยเฉพาะ เร็วขึ้น แรงขึ้น และประมวลผลไวขึ้น แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ให้มาถึง 10090 mAh พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว 45W Fast Charging นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับคู่หูคู่ใจอย่างปากกา S Pen ที่มีมาให้ในกล่อง ครบจบ ใช้งานได้เลยทันที

สั่งซื้อคลิก!

Samsung Galaxy Tab S10+ 5G

Samsung Galaxy Tab S10+ WiFi

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

รับชมคอนเท้นต์ได้อย่างคมชัดและเป็นธรรมชาติ

Samsung Galaxy Tab S10+ มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2x ที่มีขนาดใหญ่ถึง 12.4  นิ้ว ความละเอียดแบบ WQXGA+ (1752 x 2800 พิกเซล) รองรับอัตราการรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz มีอัตราสะท้อนแสงต่ำกว่า 2% แถมยังมาพร้อม Algorithm ปรับแสงด้วย แสดงผลออกมาได้อย่างคมชัด สีสด ไม่สะท้อนแสงให้รำคาญใจ ใช้งานได้ทุกสภาพแวดล้อมไม่ว่ากลางแจ้งหรือในที่ล่มก็เอาอยู่ 

ยกระดับประสิทธิภาพในการทำงานด้วยการออกแบบอัตราส่วนหน้าจอ 16:10 เหมาะสำหรับคนชอบดูหนังดูซีรี่ส์มากๆ เพราะหน้าจอของรุ่นนี้ถือว่าใหญ่แบบเต็มตาสุดๆ เพลิดเพลินกับคอนเท้นต์แบบเต็มอรรถรส ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก แสดงผลภาพออกมาได้อย่างแม่นยำและสมจริง สีสวย ภาพคมชัด ไม่แพ้รุ่นพี่ตระกูลเดียวกันอย่าง Samsung Galaxy Tab 10 Ultra เลย

แท็บเล็ตเรือธงมาพร้อม Galaxy AI ใส่ฟีเจอร์มาให้แบบจุกๆ

Samsung Galaxy Tab S10+ เป็นแท็บเล็ตเรือธงของ Samsung ที่มาพร้อม Galaxy AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยฟีเจอร์ AI เหล่านี้ จะช่วยให้การทำงานและการสื่อสารด้านภาษาเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น ชีวิตง่ายขึ้นและสะดวกสบายมากขึ้น ที่สำคัญรองรับภาษาไทยด้วย

ด้วยความที่แท็บเล็ตรุ่นนี้มีจุดเด่นเรื่อง AI ที่พร้อมช่วยเหลือทุกสถานการณ์ เลยได้ทำการเพิ่มปุ่ม AI เข้าไปแทนที่ปุ่ม Lang (ด้านขวา) บนเคส Book Cover Keyboard Slim ที่สามารถเรียกใช้งาน Gemini ให้สรุปคลิป / ข่าว ที่กำลังดูอยู่ได้เลยทันที หรืออยากรู้ข้อมูลอะไรก็ถามได้ทันใจ

ฟีเจอร์ Galaxy AI ที่น่าสนใจ

  • แปลคำศัพท์หรือประโยค

ในอดีต หากเราต้องการแปลคำศัพท์ เราต้องทำหลายขั้นตอน เช่น กดค้างที่คำ เลือกคำ กดคัดลอก แล้วเปิดแอปแปลภาษา จากนั้นแปะเพื่อแปล แต่ปัจจุบันง่ายขึ้นมาก เพียงกดค้างที่คำก็สามารถแปลได้ทันที นอกจากนี้ ถ้าเป็นคำในรูปภาพหรือวิดีโอ สามารถใช้ S Pen ชี้แล้วแปลได้เลยด้วยฟีเจอร์ S Pen Translate ทำให้การแปลเป็นเรื่องรวดเร็วและสะดวก

  • Circle to Search

หากมีเอกสารหรือเว็บไซต์ในภาษาต่างประเทศ เพียงยกแท็บเล็ตขึ้นมาถ่ายรูปแล้วใช้ฟีเจอร์ Circle to Search จะสามารถแปลได้ทันที ฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับการสื่อสาร

  • Composer

สำหรับคนที่ต้องตอบอีเมลหรือแชทกับลูกค้า การใช้ AI ในการช่วยสร้างข้อความจะช่วยให้การตอบกลับดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น โดย AI จะช่วยจัดระเบียบคำพูดให้ดูเหมาะสมและมีชั้นเชิงมากขึ้น

  • Text Summarization

ในกรณีที่คุณต้องอ่านบทความหรือเว็บเพจ แต่มีเวลาข้างน้อยที่จะอ่านทั้งหมด AI สามารถช่วยสรุปเนื้อหาให้สั้นลงได้ เช่น สรุปหน้าเว็บหรือ PDF ให้เหลือแค่เพียงย่อหน้าเดียว ซึ่งฟีเจอร์นี้ช่วยประหยัดเวลาและสามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว

 
  • Note Assist

Samsung Notes เป็นแอปฟรีที่มาพร้อมกับเครื่อง ช่วยให้จดโน้ตและอัดเสียงอาจารย์ขณะเรียนหรืออัดเสียงในการประชุมขณะทำงานก็ได้เช่นกัน ฟีเจอร์ Transcript Assist จะช่วยถอดเสียงที่อัดไว้และทำการสรุปให้ โดยรองรับทั้งภาษาไทยและอังกฤษ นอกจากนี้ยังปรับปรุงลายมือที่เราจดให้สวยขึ้นและตรวจสอบคำผิดหรือแกรมม่าได้อีกด้วย

  • Chat Assist

สำหรับการทำงานที่ต้องติดต่อซื้อขายกับชาวต่างชาติ ในแอปแชทก็สามารถแปลข้อความขณะตอบแชทได้โดยไม่ต้องสลับแอปฯ แปลภาษาไปมาให้ยุ่งยาก และถ้าเป็นรุ่น 5G สามารถแปลระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ได้เลยทันที

  • Interpreter

ฟีเจอร์นี้จะช่วยแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ทำหน้าที่เป็นล่ามส่วนตัว ทำให้ผู้ใช้สามารถสนทนากับคนที่พูดภาษาต่างกันได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับนักเดินทาง ผู้ทำธุรกิจ และผู้ที่ต้องการสื่อสารข้ามภาษา โดยฟีเจอร์นี้ช่วยลดอุปสรรคทางภาษาและเพิ่มความสะดวกในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ชิปใหม่เร็วแรง พร้อมประสิทธิภาพการประมวลผลที่ดียิ่งขึ้น

Samsung Galaxy Tab S10+ ขับเคลื่อนโดยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9300+ ที่ใช้สถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร เป็นชิปเซ็ตเรือธงรุ่นล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การประมวลผลด้าน AI โดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ CPU, GPU และการประหยัดพลังงานบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ ให้เร็วแรง และดียิ่งขึ้น โดยการประมวลผล CPU ไวขึ้นถึง 18%, NPU 14% และ GPU 28% เมื่อเทียบกับ Tab S9 Series

รองรับ LLM (Large Language Model) หลายประเภท เช่น Chatbots, การสร้างโค้ด, การแปลภาษา เป็นต้น ซึ่ง LLM เป็น AI Model ขนาดใหญ่ที่เก่งด้านภาษาอย่างมาก ถูกออกแบบมาให้เข้าใจ, สร้างภาษา รวมถึงตอบคำถามที่ซับซ้อนของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล AI พร้อมมอบประสบการณ์ในด้านการใช้งานและความบันเทิงอย่างไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเล่นเกม, ใช้แอปฯ, หรือเขียนบทความ ก็ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด ตัวเดียวได้หมด ครบจบจริงๆ

เป็นที่รู้กันว่าชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9300+ ดังมากเรื่องการทำงานที่แรงและรวดเร็ว พอเสริมด้วยระบบระบายความร้อนเทคโนโลยี vapor chamber ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 1.48 เท่า (2036.7 mm2) เลยสามารถจัดการกับความร้อนได้เป็นอย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว

ทดสอบการเล่นเกม

Samsung Galaxy Tab S10+ มาพร้อมเทคโนโลยี Ray Tracing เป็นการสร้างภาพกราฟิกที่ใช้ในการคำนวณแสงและเงาในแบบที่สมจริง โดยทำให้เงาสะท้อนวัตถุต่างๆ แบบ Real-time ช่วยให้กราฟิกดูมีมิติและสวยงามมากขึ้น จากการทดสอบโดยการเล่นเกมที่ใช้กราฟิกเยอะๆ อย่างเกม TARIS LAND การแสดงผลภาพถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ เลยทีเดียว สีภาพสวยและสดมากๆ แม้ในฉากต่อสู้ที่กราฟิกหนักๆ ภาพก็ยังคงรักษาความคมชัดได้เป็นอย่างดี ลื่นไหลและไม่มีอาการค้างเกิดขึ้นให้เห็นอีกด้วย

ลำโพง 4 ตัว พร้อมบูสเสียงอัจฉริยะ

Samsung Galaxy Tab S10+ มาพร้อมกับลำโพง 4 ตัวที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้ตอบโจทย์การฟังในระหว่างการเดินทาง โดยมีฟีเจอร์ "AI Dialogue Boost" ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการปรับระดับเสียงพูดให้เด่นชัดเหนือเสียงรบกวนรอบข้าง เช่น เสียงเครื่องบิน เสียงระเบิด หรือเสียงในหนังแอคชั่น ทำให้สามารถได้ยินบทสนทนาในภาพยนตร์ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม สำหรับฟีเจอร์นี้รองรับการใช้งานได้กับหลายสตรีมมิ่ง เช่น Netflix, YouTube, Google Movies & TV, Prime Video และ Hulu

เปิดใช้งานโดยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > คุณภาพและเอฟเฟ็กต์เสียง > เพิ่มประสิทธิภาพเสียงสนทนา

แบตเตอรี่ใหญ่จุใจ ใช้ได้นาน ไม่ต้องชาร์จบ่อย

Samsung Galaxy Tab S10+ มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจ ความจุ 10,090 mAh ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องพกที่ชาร์จให้เกะกะ กลับบ้านค่อยมาชาร์จทีเดียว พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45W Fast Charging ชาร์จเร็ว เต็มไว ไม่ต้องเสียเวลารอชาร์จนานๆ

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

Samsung Galaxy Tab S10+ มีขนาดรอบตัวเครื่องอยู่ที่ 285.4 x 185.4 x 5.4 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียงแค่ 576 กรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่กำลังพอดี บวกกับความบางเฉียบของตัวเครื่อง ยิ่งให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างบางและเบามากเลยทีเดียว สามารถพกพาไปได้ทุกที่แบบไม่รู้สึกเกะกะหรือว่าหนักจนเกินไป มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2x ขนาด 12.4  นิ้ว ความละเอียด 1752 x 2800 พิกเซล หากใช้งานหน้าจอเป็นแนวนอน กล้องหน้าจะอยู่บริเวณขอบหน้าจอด้านบน ซึ่งกล้องหน้า ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล

ข้างบนของตัวเครื่องบริเวณด้านซ้ายจะเป็นปุ่ม Power สำหรับล็อค/ปลดล็อคหน้าจอ และเรียกใช้งาน Bixby ถัดมาเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง, รูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน 2 รู และถัดมาด้านขวาจะเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ด

ข้างซ้ายของตัวเครื่อง Samsung Galaxy Tab S10+ ด้านบน-ด้านล่างจะเป็นลำโพงเสียง 2 ตัว และรูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน 1 รู อยู่ตรงกลาง

ข้างขวาของตัวเครื่อง ด้านบน-ด้านล่างจะเป็นลำโพงเสียง 2 ตัว พร้อมพอร์ต USB Type-C อยู่ตรงกลาง

ข้างล่างของตัวเครื่อง มีขั้วแม่เหล็ก 3 จุดสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอย่าง Book Cover Keyboard Slim

พลิกมาด้านหลังของตัวเครื่อง บริเวณมุมบนด้านซ้ายมีตัวอักษรเป็นโลโก้เขียนว่า Samsung ถัดมาจะเป็นแถบแม่เหล็กสำหรับชาร์จ SPen และบริเวณด้านขวาจะพบกับกล้องหลังดีไซน์วงกลม 2 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED

Samsung Galaxy Tab S10+ ทั้งฝาหลังและเฟรมรอบตัวเครื่องเป็นวัสดุ Armor Aluminum แข็งแรงมากขึ้นถึง 10% (ค่าความแข็ง 176 Hv - S9 160 Hv) จะมีให้เลือกเพียงสีเดียวคือ สี Moonstone Gray ดีไซน์การออกแบบยังคงเหมือน Samsung Galaxy Tab S9 Series มีความเรียบหรู เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ได้รับมาตรฐานการกันน้ำระดับ IP68 เช่นเดิม ใช้งานได้อย่างมั่นใจ ทนทานทุกสภาพอากาศ

มาพร้อมไอเทมคู่ใจที่ต้องมาด้วยกันเสมออย่างปากกา S Pen แถมมาให้ในกล่องไปใช้เลย สำหรับปากกา S Pen ในรุ่นนี้ สีจะออกไปทางเทาๆ แต่จะมีความอ่อนกว่าสีของตัวเครื่อง Samsung Galaxy Tab S10+ มีความแข็งแรงทนทานและมาพร้อมกับมาตรฐานการกันน้ำระดับ IP68 เช่นเดียวกับตัวเครื่องเหมือนเดิม

 

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคเบื้องต้นของ Samsung Galaxy Tab S10+

  • ขนาดตัวเครื่อง : 285.4.1 x 185.4 x 5.6 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 576 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : Dynamic AMOLED 2x ขนาด 12.4 นิ้ว ความละเอียด WQXGA+ (1752 x 2800 พิกเซล) รองรับอัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz + Anti Reflection
  • หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 9300+
  • GPU : Arm Immortalis-G720 MC12
  • RAM : 12GB
  • พื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน : 256GB สามารถเพิ่ม MicroSD ความจุสูงสุด 1.5TB
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 14 ครอบทับด้วย One UI 6.1.1
  • กล้องหลังคู่ ได้แก่
    • กล้องหลัก : ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
    • กล้อง Ultra-Wide : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, มุมกว้าง 120°
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, 120 องศา, วิดีโอ 4K
  • การเชื่อมต่อ : 5G, WiFi 6e, Bluetooth 5.3, GPS
  • SIM : pSIM + eSIM
  • พอร์ต USB : Type-C
  • ระบบเสียง : ลำโพง 4 ตัว โดย AKG, มี AI Dialogue Boost
  • ระบบความปลอดภัย : เซนเซอร์แสกนลายนิ้วมือ
  • ระดับการกันน้ำ : IP68
  • แบตเตอรี่ : 10090 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45W

ระบบปฏิบัติการ

หน้าตา UI

  • หน้าจอหลัก
  • หน้าจอล็อค
  • หน้าจอแอปพลิเคชั่น

แผงควบคุม

สามารถเรียกใช้งานง่ายๆ ด้วยการปัดลงมาจากหน้าจอด้านขวาบน ภายในแผงควบคุมจะมีปุ่มสำหรับการใช้งานหลักๆ ที่จำเป็น เช่น WiFi, Bluetooth, เปิด/ปิดเสียง, ปรับความสว่าง, หยุด/เปลี่ยนเพลง, ไฟฉาย, โหมด eBook เป็นต้น

แถบการนำทาง

Samsung Galaxy Tab S10+ มีให้เลือกใช้งาน 2 รูปแบบ คือ ปุ่มและท่าทางการปัด สามารถเข้าไปปรับแต่งตามความต้องการได้ที่ การตั้งค่า > จอภาพ > แถบการนำทาง

Sketch to image

ฟีเจอร์ Sketch to Image บน Galaxy AI ของ Samsung ช่วยแปลงภาพร่างหรือสเก็ตช์ที่วาดด้วยมือให้กลายเป็นภาพสวยงาม ไม่ซ้ำใครได้อย่างง่ายดาย ใช้งานง่ายและรวดเร็ว พร้อมให้บันทึกหรือแชร์ผลงานได้เลยทันที

 

Samsung DeX

โหมดนี้จะเปลี่ยนหน้าตาอินเทอร์เฟซให้เป็นแบบเดสก์ท็อปบน PC สามารถเปิดโหมดนี้โดยเข้าไปที่ แผงควบคุม > ปุ่ม DeX แค่นี้จากแท็บเล็ตก็จะกลายเป็น PC เครื่องนึง สามารถเปิดหน้าต่างหลายแอปฯ หลายตัวได้พร้อมกัน และใช้ฟังก์ชันคลิกขวาได้เหมือน PC แล้ว นอกจากนี้ หากเชื่อมต่อเคส Book Cover Keyboard จะยิ่งทำให้การทำงานเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น เสมือนมี PC หรือแล็ปท็อปเครื่องนึงเลยจริงๆ

วอลเปเปอร์สภาพอากาศแบบเรียลไทม์

ฟีเจอร์นี้จะเพิ่มเอฟเฟกต์เคลื่อนไหว 3 มิติให้กับภาพพื้นหลังที่ใช้เป็นหน้าจอล็อค ซึ่งเอฟเฟกต์จะเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ผู้ใช้อยู่ เช่น ถ้าฝนตกข้างนอก ภาพบนหน้าจอล็อคจะมีเอฟเฟกต์การเคลื่อนไหวของฝนตกให้ดูสมจริงมากขึ้น

เข้าไปที่ การตั้งค่า > วอลเปเปอร์และสไตล์ > เปลี่ยนวอลเปเปอร์ > ภาพถ่ายแสงธรรมชาติ

ระบบความปลอดภัย

การยืนยันตัวตน มี 2 ระบบให้เลือก ได้แก่ สแกนลายนิ้วมือและสแกนใบหน้า

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของ Samsung Galaxy Tab S10+

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็ว AnTuTu Benchmark : 1775164 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวม Geekbench 6 ได้คะแนน Single-Core :  2042 คะแนน และ Multi-Core : 6894 คะแนน
  • ผลการทดสอบกราฟิกด้วย 3D MARK (Wild Life Extreme) : 3879 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้

  • Accelerometer Sensor เซ็นเซอร์ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
  • Light Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับแสงสว่าง
  • Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ
  • Gyroscope Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุน
  • Sound Sensor เซ็นเซอร์ตรวจวัดระดับเสียง
  • Magnetic Sensors เซ็นเซอร์ตรวจจับแม่เหล็ก

ราคาและโปรโมชันของ Samsung Galaxy Tab S10+

Samsung Galaxy Tab S10+ มีเพียงสี Moonstone Gray เท่านั้น มาพร้อมความจุ 12+256 GB มีให้เลือก 2 รุ่น รายละเอียดราคามีดังนี้

  • Galaxy Tab S10+ รุ่น Wi-Fi ความจุ 12+256GB วางจำหน่ายในราคา 36,900 บาท
  • Galaxy Tab S10+ รุ่น 5G ความจุ 12+256GB วางจำหน่ายในราคา 41,900 บาท

โปรแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา! เมื่อซื้อสินค้าภายในวันที่ 3 ตุลาคม - 3 พฤจิกายน 2567 เท่านั้น

  • รับไปเลย ฟรี! Book Cover Keyboard Slim S10+ มูลค่า 5,990 บาท
  • เมื่อนำเครื่องเก่ามาแลกเครื่องใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก็ได้ ได้ลดเพิ่ม On-top ทันที 6,000 บาท จากราคา Trade เช่น *iPad Gen 6” นำมาแลกได้ มูลค่า 1,000 บาท รับเพิ่มไปเลย 6,000 บาท รวมเป็น 7,000 บาท

เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว ที่ Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Samsung Thailand

วันที่ : 14 ตุลาคม 2567

28,514
อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข่าวล่าสุด

ไฮไลท์ข่าว

หมวดข่าว

None AMP version