รีวิวลำโพง Tronsmart Mirtune S100 สายปาร์ตี้พลูวิลล่าต้องมี กำลังขับเสียง 50W กันน้ำ IPX7 มีไฟ RGB

สิ้นปีแบบนี้เป็นช่วงเวลาของการเฉลิมฉลอง ใครที่กำลังมองหาลำโพงสำหรับปาร์ตี้ขอแนะนำลำโพงสายปาร์ตี้ Tronsmart Mirtune S100 กำลังขับเสียงดังมากถึง 50W เรียกได้ว่าอยู่พื้นที่โซนไหนก็ได้ยินเสียงชัดเจน ตัวลำโพงจะแบ่งเป็น subwoofer กำลังเสียง 30 วัตต์ และ tweeters ข้างละ 10 วัตต์ สามารถขับระบบเสียง 2.1 channel audio ได้ยินเสียงเบสหนักแน่น ชัดเจนทุกย่านเสียงสูงหรือต่ำ

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

ตัวลำโพง Tronsmart Mirtune S100 สามารถควบคุมตั้งค่าต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชั่น Tronsmart เพื่อเลือกโหมดเสียง, เลือกโหมดเล่นเพลง (Bluetooth, AUX, TF-Card หรือ USB) รวมถึงการเลือกโหมดเชื่อมต่อลำโพง เพื่อเล่นระบบเสียงสเตอริโอ ที่สำคัญเลยผู้ใช้งานเลือกตั้งค่าไฟ RGB ได้ที่แอปฯ นี้เช่นกัน

สำหรับโหมดเสียง SoundPulse ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่ง Equalizer ได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าไม่อยากปรับตัวลำโพงก็จะมีโหมดตั้งค่ามาอยู่แล้ว 5 โหมด อาทิ Default, SoundPulse, Deep Bass, Classical และ Rock แต่โหมดเสียงที่ถูกตั้งค่ามาอยู่แล้ว บอกเลยว่าดีเยี่ยมแล้ว

จุดเด่นน่าสนใจของลำโพงสามารถเป็นแบตเตอรี่สำรองได้ในตัวเพื่อชาร์จแบตฯ ให้อุปกรณ์อื่นได้, การใช้งานนานต่อเนื่องประมาณ 20 ชั่วโมง, ช่องลำโพงซ้าย/ขวา มีไฟ RGB ที่เร้าใจในหลากหลายโหมดโยกได้เพลินตามจังหวะเพลง, ฟังก์ชันเชื่อมต่อลำโพงอีก 1 ตัว เพื่อสร้างเสียงสเตอริโอให้พลังเสียงดังกว่าเดิม

ลำโพงรุ่นดังกล่าว เหมาะสำหรับปาร์ตี้ชายหาด, ตั้งแคมป์ หรือริมสระว่ายน้ำ ด้วยความทนทานน้ำระดับ IPX7 ทำให้ปาร์ตี้สนุกสนาน ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับน้ำหรือความชื้น พร้อมลุยกับคุณไปทุกที่ทุกสถานการณ์

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ลําโพงบลูทูธ Tronsmart Mirtune S100 มาในกล่องกระดาษสีขาว ด้านหน้ากล่องมีกราฟิกของลำโพง ระบุรุ่นโมเดลลำโพงชัดเจน ด้านหลังกล่อง บอกถึงฟีเจอร์และสเปคต่างๆ ของลำโพง พร้อมการแนะนำให้ใช้งานร่วมกับแอปฯ Tronsmart ที่ดาวน์โหลดได้ทั้ง Google Play และ App Store ภายในกล่องประกอบไปด้วย ลำโพง Tronsmart Mirtune S100, คู่มือการใช้งาน, ใบแจ้งการรับประกัน และสาย USB-C สำหรับการชาร์จไฟให้อุปกรณ์

ตัวลำโพงด้านบนมีสาย ลักษณะยางยืด สำหรับใช้หิ้วจับเพื่อการเคลื่อนย้าย เมื่อวางลำโพงสามารถดันสายเก็บได้ ลำโพงมีขนาดความกว้าง 23 เซนติเมตร น้ำหนัก 1.36 กิโลกรัม

ด้านหลังลำโพงมีฝายางปิดซีลไว้ สามารถเปิดเพื่อใช้งานพอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น AUX, USB, และ TF Card ส่วนพอร์ต USB เป็นพอร์ตที่จ่ายไฟออก เพื่อชาร์จให้อุปกรณ์อื่นที่มาเชื่อมต่อ เหมือนพาวเวอร์แบงค์ ทว่าจุดที่ต้องพิจารณาเพิ่ม ตัวลำโพงไม่มีระบบชาร์จเร็ว จะชาร์จเต็มใช้ระยะเวลามากกว่า 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ด้านล่างลำโพงมีแผ่นกันลื่น สามารถวางบนพื้นผิวต่างๆ ได้ดี มั่นคง มีขนาดกว้าง 11 ซม. และช่วยป้องกันไม่ให้ผิวลำโพงเป็นรอยจากการวางได้ด้วย

ด้านปุ่มควบคุม อยู่ด้านหน้าลำโพง อาทิ ปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิดปิดการใช้งาน, ปุ่มเปิด/ปิด EQ ระบบเสียง SoundPulse, ปุ่มเชื่อมต่อบลูทูธ,  ปุ่มลดเสียง/เพิ่มเสียง, และปุ่ม Play/Stop ส่วนฟังก์ชั่นการทำงานของแต่ละปุ่มเพิ่มเติม มีดังนี้...

• ปุ่ม “Power” : ถ้ากดค้าง 2-3 วินาที จะเปิด/ปิดการใช้งานลำโพง แต่ถ้ากด 1 ครั้งจะเปลี่ยนโหมดแสงไฟ RGB c]tกด 2 ครั้งเพื่อปิดแสงไฟ RGB ทันที
• ปุ่มเปิดปิด SoundPulse EQ : กด 1 ครั้งเพื่อเปิดและปิดระบบเสียงดังกล่าว
• กดปุ่ม “Bluetooth” : กดค้าง 1 ครั้ง เพื่อเชื่อมต่อ/ยกเลิกการเชื่อมต่อ, กด 1 ครั้งเพื่อสลับเสียงการโทรระหว่างลำโพงและโทรศัพท์ ถ้ากดค้าง 3 วินาที จะเปิดใช้งานโหมด Stereo Pairing และกดปุ่มค้าง 8 วินาที เพื่อรีเซ็ตลำโพง
• กดปุ่ม “Play” : กด 1 ครั้งเล่นเพลง/หยุดเพลง แต่ถ้ากด 2 ครั้ง สามารถเรียกใช้คำสั่งเสียง Voice Assistant รวมถึงหากมีสายเรียกเข้าให้กด 1 ครั้ง เพื่อรับสาย และกดอีกครั้งเพื่อตัดสาย ถ้าไม่ต้องการรับสายให้กดค้างไว้ 2 วินาที
• กดปุ่ม “-“  : กด 1 ครั้ง เพื่อลดเสียง กดค้าง 2 วินาที กลับไปเล่นเพลงก่อนหน้า
• กดปุ่ม “+”  : กด 1 ครั้ง เพื่อเพิ่มเสียง กดค้าง 2 วินาที เล่นเพลงถัดไป
• กดปุ่ม “Play” และปุ่ม “+” : สลับแหล่งที่มาของสื่อเสียง AUX, USB, TF Card และ Bluetooth

อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่ปุ่มควบคุมต่างๆ ไม่มีแสงไฟเลย อาจใช้งานลำบาก ถ้าอยู่ในพื้นที่แสงน้อย แต่ด้วยขนาดปุ่มที่ใหญ่ก็จะช่วยให้พอใช้งานง่ายขึ้น

ด้านข้างทั้ง 2 ด้านเป็นชุดลำโพง กำลังขับเสียงข้างละ 10 วัตต์ รวมแล้ว 20 วัตต์ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 9 ซม. ขับเสียงดังฟังชัดแน่นอน และรอบช่องลำโพงจะมีวงไฟ RGB ด้วย เพิ่มความสวยงาม