www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 18 ตุลาคม 2567
เกมมิ่งสมาร์ทโฟนตัวแรงแห่งปี! วันนี้ realme (เรียลมี) เปิดตัว “realme 13 Series 5G” สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดจากตระกูล Number Series ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมขึ้นแท่น “ผู้นำด้านเกมมิ่งสมาร์ทโฟน (Gaming Dominator)” ด้วยการอัปเกรดประสิทธิภาพขั้นสุดระดับ “อัลตร้า” ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ULTRA POWER ด้วยซีพียูตัวท็อปของเซกเมนต์ – ULTRA FAST ระบบชาร์จเร็วทันใจ – ULTRA COOL ระบบระบายความร้อนใหม่ล่าสุด เมื่อผสานการทำงานจะมอบประสบการณ์สมาร์ตโฟนอันยอดเยี่ยม ทั้งการใช้งานแนวไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันและการเล่นเกมออนไลน์อันหนักหน่วง ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วแรง ลื่นไหลขั้นสุด และปราศจากปัญหาความร้อนกวนใจ การันตีด้วยสโลแกน Speed to Victory ที่พร้อมให้คุณเป็นผู้ชนะในทุกเกมการแข่งขันโดย realme 13 Series 5G นำเสนอ 2 รุ่น ทั้ง realme 13+ 5G และ realme 13 5G
realme 13 Series 5G ถือเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญในการกำหนดนิยามกลุ่มผลิตภัณฑ์ Number Series ใหม่ภายใต้สโลแกน “Next-gen Power” โดยพัฒนาให้ realme 13 Series 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ทรงพลังพร้อมคุณสมบัติขั้นสูงและประสิทธิภาพที่เหนือกว่าคู่แข่งทุกรายในเซกเมนต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเรียลมีในการนำเสนอประสบการณ์การใช้งานอันยอดเยี่ยมและเหนือล้ำเกินความคาดหวังของผู้ใช้งานรุ่นใหม่ทั่วโลก
Dimensity 7300 Energy ชิปเซ็ตตัวแรงสุดแห่งเซกเมนต์
realme 13+ 5G เป็นสมาร์ทโฟนกลุ่มแรก ๆ ที่ใช้หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 7300 Energy 5G ซึ่งมอบประสิทธิภาพเหนือชั้นด้วยคะแนน AnTuTu อันน่าประทับใจกว่า 750,000 ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 4 นาโนเมตร ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานได้ถึง 30% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน จึงใช้พลังงานต่ำแต่ยังสามารถมอบประสบการณ์การเล่นเกมในอัตราเฟรมสูงได้อย่างเสถียรและราบรื่น มาพร้อมเทคโนโลยี DRE (Dynamic RAM Expansion) ของเรียลมีที่ทันสมัยที่สุดในอุตสาหกรรม ทำให้เพิ่ม RAM สูงสุด 12GB + 14GB ที่ 26GB มอบความเร็วในการเปิดและเรียกการทำงานของแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็ว
ยกระดับการเล่นเกมด้วยโหมด GT Mode มอบเฟรมเรทเสถียร 90fps นาน 7 ชั่วโมง
GT Mode ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์เกมมิ่งที่ราบรื่น ตอบโจทย์การแข่งขัน eSports ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยในปัจจุบัน GT Mode ใน realme 13+ 5G รองรับ 6 เกมหลัก ได้แก่ PUBG MOBILE, BGMI, Free Fire, MLBB, HOK(120FPS) และ COD ถือเป็นมือถือเครื่องแรกในเซกเมนต์ที่มีความสามารถนี้ โดย GT Mode สามารถคงอัตราเฟรมที่ 90fps ได้นานสูงสุด 7 ชั่วโมง(สำหรับเกม MLBB และ FreeFire) นอกจากนี้ ยังทำงานร่วมกับฟีเจอร์ GT Gaming ให้คุณสามารถปรับความถี่ CPU และ GPU ที่เหมาะสมได้ตลอดเวลา และยังมี Game Filters ที่ช่วยเพิ่มคอนทราสต์ ความอิ่มตัวของสี ความคมชัด และมอบเอฟเฟ็กต์ภาพที่สวยงาม ทำให้ง่ายต่อการมองเห็นศัตรูในระหว่างการเล่นเกม และยังมีโหมดอื่นๆ ให้เลือกใช้งานตามลักษณะเกมได้อย่างไร้ขีดจำกัด
การระบายความร้อนแบบใหม่ด้วย Stainless Steel Vapor Cooling System และระบบชาร์จ 80W ที่เร็วที่สุดในเซกเมนต์
realme 13+ 5G มาพร้อมกับ Stainless Steel Vapor Cooling System มีพื้นที่ระบายความร้อนมากถึง 6,050 ตารางมิลลิเมตร ซึ่งใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์และใหญ่กว่ารุ่นก่อนถึง 37% โดยใช้เทคโนโลยีและวัสดุระบายความร้อนแบบเดียวกับรุ่นแฟล็กชิปอย่าง GT6 เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน eSports อย่างมาก นอกจากนี้ ยังมาพร้อมคุณสมบัติการชาร์จไว 80W Ultra Charge อันน่าประทับใจ เมื่อชาร์จ 5 นาทีจะทำให้คุณเล่นเกมได้เต็มชั่วโมง มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ตอบโจทย์เกมเมอร์ตัวจริงที่ไม่ต้องการชาร์จมือถือบ่อย
จอแสดงผล OLED 120Hz พร้อมการออกแบบ Victory Speed Design
realme 13+5G มาพร้อมจอแสดงผล OLED E-sport 120Hz ที่ไม่เพียงมอบคุณภาพการแสดงผลที่สดใส แต่ยังไวต่อการทัชสกรีนด้วย Touch Sampling Rate แบบเทอร์โบชาร์จ 1200Hz มอบมุมมองกว้างด้วยพาแนลแบบ Pro-XDR และลำโพงคู่สเตอริโอ เพิ่มประสบการณ์การรับชมของคุณให้ดื่มด่ำล้ำลึกยิ่งขึ้น
ตัวเครื่องใช้การออกแบบ Victory Speed Design โดยได้รับแรงบันดาลใจจากคีย์เวิร์ด “Victory” และ “Speed” จากเกมแข่งรถ โดยนำแนวคิดนี้มาเชื่อมโยงกับประสิทธิภาพเร็วแรงเข้าด้วยกัน และยังคงรักษางานออกแบบตัวเครื่องที่บางเฉียบด้วยความหนาเพียง 7.69 มม. น้ำหนักเพียง 185 กรัม นอกจากนี้ ยังมีความทนทานเป็นพิเศษ ด้วยระดับการป้องกันน้ำและฝุ่นที่ IP65 พร้อมการเสริมโครงสร้างทั้ง 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ กรอบอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป โครงโลหะแบบชิ้นเดียว กระจกนิรภัย และการเคลือบผิวให้ทนทานต่อการสึกหรอและการกัดกร่อนสูง
เซนเซอร์กล้องตัวท็อป Sony LYT-600 OIS ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล
ด้วยเซนเซอร์กล้อง Sony LYT-600 OIS ความละเอียด 50MP พร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.95” พร้อมรูรับแสงกว้าง f/1.8 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS และรองรับวิดีโอ 4K ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกช็อตที่ถ่ายด้วย realme 13+5G จะสวยงาม สดใส สมจริง และด้วยคุณสมบัติ Light Fusion Engine ยังช่วยคุณภาพของไฟล์ภาพ ไม่ว่าจะเป็นฉากกลางคืนหรือภาพถ่าย HDR ก็ให้คุณภาพไฟล์ดีเยี่ยมอย่างน่าประทับใจ
ฟีเจอร์ AI สุดล้ำ
realme 13+5G นำเสนอฟีเจอร์ AI มากมายที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น อาทิ ฟีเจอร์ AI Clear Voice ซึ่งใช้เทคโนโลยีการจดจำเสียงด้วย AI ขั้นสูง ช่วยแยกแยะและขยายเสียงของมนุษย์ในระหว่างการคุยสาย จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะได้ยินเสียงของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง และยับมีคุณสมบัติ AI ต่างๆ อีกมากมายที่จะทำให้ realme 13+5G ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม
สร้างมาตรฐานใหม่ด้านประสิทธิภาพด้วยชิปเซ็ต Dimensity 6300 5G
realme 13 5G ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6300 5G ซึ่งมีคะแนนมาตรฐาน AnTuTu สูงถึง 460,000 ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน ขับเคลื่อนด้วยแกนประมวลผล A76 อันทรงพลังซึ่งมีค่าโอเวอร์คล็อกสูงสุด 2.4GHz ซึ่งสูงกว่ามือถือคู่แข่งถึง 10% จึงมั่นใจได้ถึงการตอบสนองที่ฉับไวและการทำงานแบบมัลติทัสก์ได้อย่างง่ายดายราบรื่น
พร้อมชนทุกเกมด้วยฟีเจอร์เกมมิ่งขั้นสูงเหมือนรุ่นพี่
เช่นเดียวกับรุ่น realme 13+5G โดย realme 13 5G ยังมาพร้อม GT Mode เพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่เหนือกว่าด้วยการรักษาเฟรมเรตแบบนิ่งๆ ที่ 60fps ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การปรับแต่งพลังงาน การเปิดเกมได้อย่างรวดเร็ว ตัวแทร็กสัญญาณWi-Fi และฟิลเตอร์ต่างๆ พร้อมจอแสดงผลแบบ Eye Comfort 120Hz ความละเอียด FHD+ ที่ให้ภาพที่ราบรื่น ลดการเกิดภาพเบลอจากการเคลื่อนไหว และคุณภาพทัชสกรีนที่ตอบสนองไวเป็นพิเศษ มาพร้อมลำโพงสเตอริโอคู่ที่มีเวทีเสียงกว้าง ช่วยให้เกมเมอร์สามารถระบุตำแหน่งศัตรูในเกมอย่าง PUBG และ Call of Duty ได้อย่างแม่นยำ
ในส่วนของระบบระบายความร้อนยังใช้ Stainless Steel Vapor Cooling System เช่นเดียวกับ realme 13+5G โดยมีพื้นที่ระบายความร้อนที่ใหญ่ที่สุดในระดับราคาเดียวกันที่ 2,249 ตารางมิลลิเมตร จับคู่กับเทคโนโลยีการกระจายความร้อนแบบหมุนเวียนสองทิศทาง จึงถ่ายเทความร้อนออกจากซีพียูและส่วนประกอบสำคัญอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วกว่า
ชาร์จเร็ว SUPERVOOC 45W พร้อมแบตเตอรี่ 5000mAh
realme 13 5G มีแบตเตอรี่สุดอึดขนาด 5,000mAh และระบบการชาร์จเร็ว 45W จึงใช้งานได้นานขึ้น ชาร์จได้เร็วขึ้น พร้อมตอบโจทย์การเล่นเกมที่เข้มข้นได้ตลอดวัน โดยเมื่อชาร์จไฟเต็มจะสามารถเล่นเกม Free Fire ต่อเนื่องได้นานถึง 7 ชั่วโมง มอบพลังงานที่เหนือขีดจำกัดอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ realme 13 5G ยังมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นที่ IP64 สามารถใช้งานได้ในทุกสภาวะ ภายใต้การออกแบบตัวเครื่องที่สวยงาม Victory Speed Design มอบภาพลักษณ์แห่งชัยชนะในทุกมุมมอง
ถูกใจสายถ่ายภาพด้วยกล้อง 50MP OIS
ด้วยความละเอียดกล้อง 50MP OIS ทำให้ผู้ใช้งานสามารถจับภาพช่วงเวลาประทับใจต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ ด้วยคุณภาพระดับภาพยนตร์ โดยเป็นมือถือรุ่นแรกๆ ในกลุ่มที่สามารถบันทึกวิดีโอระดับ 2K พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS) จับภาพวิดีโอคมชัดอย่างน่าทึ่งเทียบชั้นได้กับกล้องมืออาชีพในส่วนของการถ่ายภาพนิ่งยังเหมาะกับการถ่ายภาพทุกแนวเพราะมาพร้อมกับ OIS ระดับเรือธง ช่วยลดความเบลอจากการถือกล้อง ชดเชยความคมชัดเมื่อมือสั่นและให้ภาพที่มีความเสถียรอย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าใช้ในการบันทึกช็อตเด็ดหรือการทำ vlog ก็ตาม
ราคาและการจำหน่าย
โดยสามารถพรีออเดอร์ได้ทุกช่องทางตั้งเเต่วันที่ 17 - 24 ตุลาคมและจำหน่ายวันแรกวันที่ 25 ตุลาคมเป็นต้นไป
โดยสามารถพรีออเดอร์ได้ทุกช่องทางตั้งเเต่วันที่ 17 - 24 ตุลาคมและจำหน่ายวันแรกวันที่ 25 ตุลาคมเป็นต้นไป
วันที่ : 18 ตุลาคม 2567
HUAWEI Mate X6 สมาร์ทโฟนแบบพับได้ระดับท็อปสุดแกร่ง ประกาศราคาไทยแล้ว4 ชั่วโมงที่แล้ว
เปิดตัว Lava Blaze Duo 5G สมาร์ทโฟนหน้าจอโค้ง ดีไซน์สวยงาม4 ชั่วโมงที่แล้ว
OnePlus Ace 5 Series กำลังจะเปิดตัวแล้วในสัปดาห์หน้า!13 ชั่วโมงที่แล้ว
เปิดตัว OSCAL PILOT 1 เพื่อนคู่ใจสำหรับทุกการผจญภัย13 ชั่วโมงที่แล้ว
Blackview BV8200 สมาร์ทโฟน AI สายถึก 4G รุ่นเรือธง เครื่องแรกของโลก พร้อมจอแสดงผลคู่และไฟฉายคู่!13 ชั่วโมงที่แล้ว
สรุปจุดเด่นและสเปค realme 14X 5G หน้าจอ 120Hz กันน้ำ IP69 แบตฯ 6000mAh ชาร์จเร็ว 45W อัปเดต OS นา...
realme Note 60X เสริมทัพกลุ่มบัดเจ็ตโฟน เน้นใช้งานทน ในราคาหลักพันต้น
realme Note 60x คลานตามมาอีกรุ่น กับรุ่นเล็กจอใหญ่ มาตรฐาน IP54
realme Neo7 หน้าจอ 6.78 นิ้ว 1.5K ขุมพลัง Dimensity 9300+ กันน้ำกันฝุ่น IP68+IP69 แบตฯ 7000mAh
realme C75 มือถือกันฝุ่นกันน้ำระดับ IP69 หนึ่งเดียวในเซกเมนต์